“นกพิราบ” ผักกาดดองที่ไม่เคยทำตลาดมา 50 ปี แต่ดังได้เพราะต้มกระดูกหมู
Share:
TEXT : กองบรรณาธิการ

Main Idea
หากมื้อนี้ของคุณจะมีเมนูต้มผักกาดดองกระดูกหมูวางอยู่บนโต๊ะ…
หนึ่งในแบรนด์ที่มักถูกพูดถึงและเป็นตัวเลือกอันดับแรกๆ อยู่ในใจของผู้บริโภคชาวไทย ต้องมีชื่อของผักกาดดอง “ตรานกพิราบ” รวมอยู่ด้วยแน่นอน
แต่รู้ไหมถึงจะเป็นที่รู้จักดีในวันนี้ แต่ตลอดระยะเวลากว่า 50 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่วันแรกที่เริ่มต้นสร้างแบรนด์ กลับไม่เคยมีการทำตลาดกับผู้บริโภคมาก่อนเลย

ผักกาดดองตรานกพิราบ มีจุดกำเนิดขึ้นเมื่อปี 2493 ผู้ก่อตั้ง คือ “แก้ว รัชตสวรรค์” พ่อค้าชาวจีนที่เริ่มต้นเก็บหอมรอมริบจากการเป็นลูกจ้างส่งของร้านของชำ จนวันหนึ่งเก็บสะสมเงินได้ จึงเริ่มต้นเปิดโรงงานผลิตผักกาดดองเล็กๆ ของตัวเองขึ้นมาร่วมกับเพื่อนอยู่ในย่านเยาวราช โดยตั้งชื่อกิจการครั้งแรกว่า “ฮั่วเพ้ง” ซึ่งแปลว่าสันติภาพ เพราะเกิดขึ้นมาจากการร่วมแรงร่วมใจของเพื่อนหลายคน
ช่วงแรกนั้นยังเป็นการผลิตอยู่ในไหก่อน กระทั่งต่อมาเมื่อกิจการเริ่มไปได้ดี กอปรกับเริ่มมีการนำเข้าสินค้าเครื่องกระป๋องเข้ามาขายจากต่างประเทศ กลุ่มฮั่วเพ้งจึงเริ่มหันมาผลิตผักกาดดองบรรจุกระป๋องบ้างและใช้การดองในบ่อปูนแทน จนเมื่อปี 2501 ได้มีการขยายโรงงานออกไปที่อำเภอสำเหร่ จึงได้เปลี่ยนชื่อธุรกิจมาเป็น “บริษัทสันติภาพ (ฮั่วเพ้ง 1958) จำกัด” และใช้สัญลักษณ์เป็นรูปนกพิราบ ซึ่งเป็นตัวแทนของเสรีภาพและความสันติสุขตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา


ซึ่งต่อมาก็ได้มีการขยายกิจการออกไปเรื่อยๆ จากผักกาดดองกระป๋อง ก็เริ่มผลิตเป็นผลไม้และอาหารทะเลกระป๋องเพิ่มขึ้น รวมถึงการย้ายฐานการผลิตออกไปในพื้นที่ต่างๆ เพื่อขยายโรงงานให้ใหญ่ขึ้น จากกรุงเทพฯ ก็เริ่มกระจายตัวออกไปต่างจังหวัด เพื่อให้ใกล้กับแหล่งวัตถุดิบมากขึ้น ไม่ว่าทางภาคใต้ที่เน้นทำอาหารทะเลกระป๋อง หรือภาคเหนือที่ได้ใกล้ชิดกับเกษตรกรผู้ปลูกผัก ผลไม้มากขึ้น
โดยเฉพาะในส่วนของผักกาดเขียวได้มีการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้ตั้งแต่ต้นทาง เช่น การเพาะเลี้ยงต้นกล้าที่สมบูรณ์ การหันมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์ เพื่อลดการใช้ปุ๋ยเคมี รวมไปถึงการวิจัยพัฒนาให้ได้หัวผักกาดตามขนาดที่ต้องการเท่าๆ กัน เพื่อง่ายต่อการบรรจุกระป๋อง และยังช่วยพัฒนาพื้นที่ชุมชนแหล่งเพาะปลูกอีกด้วย

จุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้ผักกาดดองตรานกพิราบได้รับความนิยมของผู้บริโภคชาวไทยต่อเนื่องมาเรื่อยๆ คือ การเป็นผักกาดดองที่กรอบอร่อย รสชาติดี ซึ่งแม้ตั้งแต่เริ่มต้นสร้างแบรนด์จนถึงเมื่อ 50 ปีก่อนจะไม่เคยทำตลาดมาก่อนเลยก็ตาม แต่ตัวแบรนด์ก็ยังได้รับการตอบรับที่ดีมาตลอด ถึงขนาดมีการพูดถึงและเกิดเป็นกระแสขึ้นมาว่า หากอยากทำผักกาดดองต้มกระดูกหมูให้อร่อย ต้องใช้ผักกาดดองตรานกพิราบเท่านั้น

จากการจุดกระแสขึ้นมาในหมู่ผู้บริโภค ทำให้สิบกว่าปีให้หลังต่อมาจนถึงปัจจุบัน แบรนด์จึงได้เริ่มหันมาทำการตลาดอย่างจริงจังมากขึ้น โดยชูจุดขายจากสิ่งที่ผู้บริโภครู้สึก คือ “กรอบ อร่อย ทุกคำ” สร้างเป็นแคมเปญการตลาดขึ้นมาครั้งแรก เพื่อตอกย้ำความเชื่อถือของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์มากขึ้นนั่นเอง โดยอีกสิ่งที่แบรนด์ได้รับรู้จากเสียงสะท้อนของผู้บริโภค ก็คือ ผักกาดดองที่อร่อยนั้นไม่ใช่ต้องกินแค่กับข้าวต้มเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังสามารถนำไปดัดแปลงเป็นเมนูต่างๆ ได้อีกมากมาย
และจุดนี้เองที่อาจทำให้เราได้เห็นการแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ผักกาดดองกระป๋องตรานกพิราบในหลากหลายรสชาติ รวมถึงการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้มากขึ้น ไม่ว่าชาวไทย หรือในชาติอื่นๆ ที่นิยมรับประทานผักกาดดองกระป๋องก็ตาม
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

Main Idea
- หากมีคำกล่าวว่า “ของดี ไม่ต้องโฆษณา ยังไงก็ขายได้” ผักกาดดองกระป๋องตรานกพิราบก็คงเป็นหนึ่งในนั้นด้วย เพราะแม้ไม่เคยทำตลาดมากว่า 50 ปี แต่ด้วยความกรอบ อร่อยที่เป็นเอกลักษณ์ จึงทำให้ยังไงก็ขายได้ดีมาจนถึงวันนี้
- แถมจู่ๆ วันหนึ่งก็เกิดเป็นกระแสดังขึ้นมาได้ เพราะถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในเมนูผักกาดดองต้มกระดูกหมู เมนูพื้นฐาน แต่หากจะทำให้อร่อยได้ ก็ต้องใช้ผักกาดดองที่มีคุณภาพเท่านั้น

หากมื้อนี้ของคุณจะมีเมนูต้มผักกาดดองกระดูกหมูวางอยู่บนโต๊ะ…
หนึ่งในแบรนด์ที่มักถูกพูดถึงและเป็นตัวเลือกอันดับแรกๆ อยู่ในใจของผู้บริโภคชาวไทย ต้องมีชื่อของผักกาดดอง “ตรานกพิราบ” รวมอยู่ด้วยแน่นอน
แต่รู้ไหมถึงจะเป็นที่รู้จักดีในวันนี้ แต่ตลอดระยะเวลากว่า 50 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่วันแรกที่เริ่มต้นสร้างแบรนด์ กลับไม่เคยมีการทำตลาดกับผู้บริโภคมาก่อนเลย

ผักกาดดองตรานกพิราบ มีจุดกำเนิดขึ้นเมื่อปี 2493 ผู้ก่อตั้ง คือ “แก้ว รัชตสวรรค์” พ่อค้าชาวจีนที่เริ่มต้นเก็บหอมรอมริบจากการเป็นลูกจ้างส่งของร้านของชำ จนวันหนึ่งเก็บสะสมเงินได้ จึงเริ่มต้นเปิดโรงงานผลิตผักกาดดองเล็กๆ ของตัวเองขึ้นมาร่วมกับเพื่อนอยู่ในย่านเยาวราช โดยตั้งชื่อกิจการครั้งแรกว่า “ฮั่วเพ้ง” ซึ่งแปลว่าสันติภาพ เพราะเกิดขึ้นมาจากการร่วมแรงร่วมใจของเพื่อนหลายคน
ช่วงแรกนั้นยังเป็นการผลิตอยู่ในไหก่อน กระทั่งต่อมาเมื่อกิจการเริ่มไปได้ดี กอปรกับเริ่มมีการนำเข้าสินค้าเครื่องกระป๋องเข้ามาขายจากต่างประเทศ กลุ่มฮั่วเพ้งจึงเริ่มหันมาผลิตผักกาดดองบรรจุกระป๋องบ้างและใช้การดองในบ่อปูนแทน จนเมื่อปี 2501 ได้มีการขยายโรงงานออกไปที่อำเภอสำเหร่ จึงได้เปลี่ยนชื่อธุรกิจมาเป็น “บริษัทสันติภาพ (ฮั่วเพ้ง 1958) จำกัด” และใช้สัญลักษณ์เป็นรูปนกพิราบ ซึ่งเป็นตัวแทนของเสรีภาพและความสันติสุขตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา


ซึ่งต่อมาก็ได้มีการขยายกิจการออกไปเรื่อยๆ จากผักกาดดองกระป๋อง ก็เริ่มผลิตเป็นผลไม้และอาหารทะเลกระป๋องเพิ่มขึ้น รวมถึงการย้ายฐานการผลิตออกไปในพื้นที่ต่างๆ เพื่อขยายโรงงานให้ใหญ่ขึ้น จากกรุงเทพฯ ก็เริ่มกระจายตัวออกไปต่างจังหวัด เพื่อให้ใกล้กับแหล่งวัตถุดิบมากขึ้น ไม่ว่าทางภาคใต้ที่เน้นทำอาหารทะเลกระป๋อง หรือภาคเหนือที่ได้ใกล้ชิดกับเกษตรกรผู้ปลูกผัก ผลไม้มากขึ้น
โดยเฉพาะในส่วนของผักกาดเขียวได้มีการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้ตั้งแต่ต้นทาง เช่น การเพาะเลี้ยงต้นกล้าที่สมบูรณ์ การหันมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์ เพื่อลดการใช้ปุ๋ยเคมี รวมไปถึงการวิจัยพัฒนาให้ได้หัวผักกาดตามขนาดที่ต้องการเท่าๆ กัน เพื่อง่ายต่อการบรรจุกระป๋อง และยังช่วยพัฒนาพื้นที่ชุมชนแหล่งเพาะปลูกอีกด้วย

จุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้ผักกาดดองตรานกพิราบได้รับความนิยมของผู้บริโภคชาวไทยต่อเนื่องมาเรื่อยๆ คือ การเป็นผักกาดดองที่กรอบอร่อย รสชาติดี ซึ่งแม้ตั้งแต่เริ่มต้นสร้างแบรนด์จนถึงเมื่อ 50 ปีก่อนจะไม่เคยทำตลาดมาก่อนเลยก็ตาม แต่ตัวแบรนด์ก็ยังได้รับการตอบรับที่ดีมาตลอด ถึงขนาดมีการพูดถึงและเกิดเป็นกระแสขึ้นมาว่า หากอยากทำผักกาดดองต้มกระดูกหมูให้อร่อย ต้องใช้ผักกาดดองตรานกพิราบเท่านั้น

จากการจุดกระแสขึ้นมาในหมู่ผู้บริโภค ทำให้สิบกว่าปีให้หลังต่อมาจนถึงปัจจุบัน แบรนด์จึงได้เริ่มหันมาทำการตลาดอย่างจริงจังมากขึ้น โดยชูจุดขายจากสิ่งที่ผู้บริโภครู้สึก คือ “กรอบ อร่อย ทุกคำ” สร้างเป็นแคมเปญการตลาดขึ้นมาครั้งแรก เพื่อตอกย้ำความเชื่อถือของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์มากขึ้นนั่นเอง โดยอีกสิ่งที่แบรนด์ได้รับรู้จากเสียงสะท้อนของผู้บริโภค ก็คือ ผักกาดดองที่อร่อยนั้นไม่ใช่ต้องกินแค่กับข้าวต้มเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังสามารถนำไปดัดแปลงเป็นเมนูต่างๆ ได้อีกมากมาย
และจุดนี้เองที่อาจทำให้เราได้เห็นการแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ผักกาดดองกระป๋องตรานกพิราบในหลากหลายรสชาติ รวมถึงการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้มากขึ้น ไม่ว่าชาวไทย หรือในชาติอื่นๆ ที่นิยมรับประทานผักกาดดองกระป๋องก็ตาม
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
Topics:
Share:
Related Articles
ไส้กรอกแดง “แหลมทอง” ทำไมถึงอร่อยที่สุด และใครคือเจ้าของตัวจริง?
ไส้กรอกแดง พาลให้นึกไปถึงร้านลูกชิ้นทอดหน้าโรงเรียน หนึ่งในแบรนด์อันดับต้นๆ ระดับตำนานที่ใครๆ ต่างก็พูดถึงยอมรับในรสชาติความอร่อยและคุณภาพ ต้องมีชื่..
“แน็คเก็ต” ขนมขบเคี้ยวบ้านๆ ที่ทำยอดขายหลายสิบล้านอยู่ใน 7-11
“แน็คเก็ต” (Nacket) คือแบรนด์ขนมขบเคี้ยวไทยๆ ที่วางขายอยู่ในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น หลายคนอาจมองว่า นี่คือสแน็คสุดแสนจะธรรมดา แต่รู้ไหมว่าในปีที่ผ่านมา..
เปลือกมะม่วงเบาและน้ำเชื่อมเหลือทิ้ง พลิกสู่เครื่องดื่มนวัตกรรม “De Mangue” ทำยอดขายกว่า 5 ล้าน ใน 6 เดือน
ใครจะคิดว่าขยะเหลือทิ้งและของเสียในกระบวนการผลิตมะม่วงเบาแช่อิ่ม อย่างเปลือกมะม่วงและน้ำเชื่อม จะกลายร่างสู่เครื่องดื่มไซเดอร์มะม่วงเบาไร้แอลกอฮอล์ข..