Mace Milk   จากฟาร์มท้องถิ่นสู่แบรนด์นมไทย ที่คว้ารางวัลระดับโลก

Text: Wipawan In.


     “นมวัวไทย” อาจดูเป็นสินค้าที่เรียบง่าย แต่เบื้องหลังของนมหนึ่งแก้วคือแรงกายและแรงใจของเกษตรกรผู้เลี้ยงวัวนับหมื่นครอบครัวทั่วประเทศ โดยเฉพาะในจังหวัดสระบุรี หัวใจสำคัญของอุตสาหกรรมนมไทย ที่ยังคงรักษามาตรฐานการผลิตและส่งต่อคุณค่าน้ำนมแท้สู่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายจากตลาดนมต่างประเทศและเทรนด์นมพืชที่รุกเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

     ท่ามกลางการแข่งขัน แบรนด์ไทยรุ่นใหม่เลือกเดินบนเส้นทางแห่ง “ความจริงใจ” มากกว่า “การแข่งขัน” อย่าง Mace Milk แบรนด์นมวัวจากสระบุรีที่ถือกำเนิดจากความตั้งใจที่จะยกระดับน้ำนมไทย ไม่เพียงสร้างผลิตภัณฑ์คุณภาพ แต่ยังคืนคุณค่าให้ชุมชนเกษตรกรที่อยู่เบื้องหลังของนมทุกกล่อง

จากฟาร์มของพ่อสู่แบรนด์ของลูก

     “เราโตมากับวัว โตมากับนม และโตมากับฟาร์มที่สระบุรี” ประโยคเปิดบทสนทนาของ ตูน กมลกานต์ เทียนขำ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Mace Milk ที่สะท้อนภาพชีวิตชัดเจนตั้งแต่วัยเด็ก ของความผูกพันธ์และเห็นทุกขั้นตอน ในธุรกิจโคนมของครอบครัวที่เปิดมากว่า 40 ปี

     “เราเติบโตในครอบครัวที่ทำฟาร์มวัวนมและต่อยอดเป็นศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบส่งต่อให้แบรนด์ต่างๆ ของไทย โดยรับน้ำนมมาจากสมาชิกในเครือ ความผูกพันกับนมคุณภาพดีที่คุณพ่อเคยต้มให้ดื่มทุกเช้า และไขมันนมที่ลอยตัวอยู่ด้านบนเป็นรสชาติที่เราชอบมากๆ พอในช่วงอายุ 12 ปี ได้มีโอกาสไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกา ได้ทดลองดื่มนมของที่นั่นก็มีแบรนด์ที่คล้ายคลึงรสชาติที่เคยดื่ม แต่พอหลังจากกลับมาไทยลองหลายๆ แบรนด์ แต่รู้สึกว่ายังไม่มีแบรนด์ที่ทำได้อย่างที่เราชอบ”

     หลังจากทดลองหลายแบรนด์จนแน่ใจแล้วว่าไม่มีแบรนด์ไหนทำรสชาติได้แบบที่เคยดื่มตอนเด็ก จึงเกิดเป็นไอเดียสร้างแบรนด์ Mace Milk เพื่อให้ผู้บริโภคได้ลองรสชาติที่ในวัยเด็กที่หลายคนอาจเคยได้ลิ้มลอง และยังคงคิดถึงรสชาตินั้นอยู่

รสชาติแห่งความคิดถึง ที่ดังไกลคว้ารางวัลระดับโลก

     แม้แบรนด์จะเพิ่งเปิดตัวได้เพียง 1 ปีกว่า แต่กลับเติบโตอย่างรวดเร็วด้วยพลัง “การบอกต่อ” จากผู้บริโภคที่ชื่นชอบรสชาติและคุณภาพของ Mace Milk ทำให้แบรนด์สามารถวางขายในโมเดิร์นเทรดได้หลายแห่งทั่วประเทศ

     “การเติบโตของแบรนด์เรา ส่วนสำคัญมาจากผู้บริโภคที่บอกต่อกัน ผ่านการรีวิว ทำให้แบรนด์เรากลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น ด้วยคุณภาพและรสชาติที่แตกต่าง นอกจากจะเป็นที่ยอมรับในประเทศแล้ว Mace Milk ยังได้รับการการันตีจากเวทีระดับโลกด้วยรางวัล Superior Taste Award 2 ดาว จากสถาบัน International Taste Institute (ITI) ประเทศเบลเยียม โดยได้คะแนนรวมสูงถึง 88.8 / 100 จากการประเมินของเชฟมืออาชีพกว่า 200 คนจากสมาคมเชฟยุโรป ครอบคลุมทั้งด้าน รสชาติ กลิ่น สัมผัส ความสมดุล และคุณภาพโดยรวม”

     Mace Milk เป็นหนึ่งในไม่กี่แบรนด์ของไทยที่ได้รับรางวัลจากเวทีนี้และเป็นแบรนด์แรกที่คว้ารางวัลนี้ได้ ซึ่งสร้างความภูมิใจ และเป็นเครื่องการันตีคุณภาพนมของไทยที่มีมาตรฐาน คุณค่าทางโภชนาการ และรสชาติที่ไม่แพ้ชาติใดในโลก

เติบโตอย่างยั่งยืน เคียงข้างเกษตรกร

     Mace Milk ไม่ใช่แบรนด์ที่เริ่มจากศูนย์ แต่ต่อยอดจากประสบการณ์กว่า 40 ปีในวงการนมวัว จุดเด่นของแบรนด์คือการใช้ น้ำนมจากเกษตรกรสมาชิก ที่ได้รับการตั้งแต่การเลี้ยงไปจนถึงการขาย ภายใต้ระบบที่เป็นธรรม เกษตรกรขายนมได้ใน ราคากลางตามประกาศ นมทุกหยดถูกส่งต่อสู่ตลาดและผู้บริโภค

     “สำหรับ Mace Milk เราไม่ได้อยากแข่งกับใครเพียงแค่ต้องการเติบโตในเส้นทางของตัวเอง สิ่งเดียวที่อยากชนะคือการ “ชนะใจตัวเองและลูกค้า” แบรนด์จึงมุ่งเน้นการพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยไม่เร่งโตเกินตัว ยึดหลักความพอดี ทั้งในด้านคุณภาพ ผลผลิต และการตลาด เพื่อให้ทุกฝ่ายในห่วงโซ่มีความสุข โดยเฉพาะเกษตรกรผู้ผลิตน้ำนมดิบ เราเชื่อว่านมวัวคุณภาพดีจากเกษตรกรไทย ยังมีคุณค่าและเรื่องราวที่ไม่เหมือนใคร Mace Milk ทุกกล่องจึงไม่ได้ให้แค่ความอร่อย แต่ยังช่วยส่งต่อรายได้และความภาคภูมิใจกลับสู่ชุมชน”

     นอกจากนมพร้อมดื่มรสชาติกลมกล่อมที่เป็นเอกลักษณ์ของ Mace Milk ที่ตีตลาดทั้งผู้บริโภคทั่วไปและร้านกาแฟ แบรนด์ยังมีแผนพัฒนาต่อยอดสินค้าใหม่อย่าง วิปปิ้งครีม อีกทั้งแนวคิดการส่งออกสู่ประเทศเพื่อนบ้านในอนาคต เพื่อเปิดโอกาสให้แบรนด์เติบโตและกลายเป็นที่รู้จัก อีกทั้งขยายตลาดเพื่อเกษตรกรได้สร้างรายได้มากยิ่งขึ้น

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

สู้อย่างไรถ้าเป็นมวยรอง สูตรก้าวสู่ธุรกิจแถวหน้า ด้วยกลยุทธ์ ธนูดอกเดียว จากกาแฟพันธุ์ไทย

9 ปีที่กาแฟพันธุ์ไทยต้อง “ยืนให้ได้ในสนามที่มีแต่ยักษ์” เรื่องราวของการ ย้ายสังเวียน และปลูกฝัง DNA นักสู้ให้ทีม จนแบรนด์ที่เคยขาดทุน กลับลุกขึ้นมาท้าชนตลาดได้อีกครั้ง ถ้าคุณคือ “มวยรอง” ที่กำลังท้อ ต้องอ่าน!

PRYNN แบรนด์สูทวินเทจที่มีตัวเดียวในโลก เริ่มต้นธุรกิจด้วยการเป็นหนี้ 7 แสนบาท

ในวันที่หลายคนเริ่มธุรกิจด้วยความฝัน ความชอบ แต่ “ปริญญ์ ภาษี” กลับเริ่มด้วยการหาเงินใช้หนี้ 7 แสนบาท

ข้าวหลามกึ่งสำเร็จรูป 921 ธุรกิจของเด็กวัย 18 ปี ที่อยากอัปเกรดขนมไทยให้โลกรู้จัก

เมื่อ กรกฤษ โฆษิตสกุล เด็กไทยวัย 18 ปี คิดทำ “ข้าวหลามกึ่งสำเร็จรูป” ที่สะดวก เก็บได้นาน และพร้อมให้คนทั่วโลกได้ลิ้มรสความเป็นไทยในแบบทันสมัย