เมื่ออาทิตย์ที่แล้วก่อนงานอุ่นไอรักคลายความหนาวจะหมดลง เรามักจะได้เห็นสาวๆ หลายคนเริ่มนุ่งชุดไทย สะบัดสไบสวยๆ ไปถ่ายรูปแบบย้อนยุคลงใน Social Media ช่องทางต่างๆ กันอย่างคึกคัก

กระแสออเจ้า ส่งผลอานิสงส์ถึงธุรกิจเวิร์กช้อปขนมไทย คนสนใจหันมาอนุรักษ์ความเป็นไทยกันมากเยอะขึ้น กลายเป็นหนึ่งในไลฟ์สไตล์ยอดฮิตของคนรุ่นใหม่ ที่นิยมเรียนเพื่อเป็นกิจกรรมยามว่างกันมากขึ้น

ด้วยจำนวนผู้ใช้งาน Instagram ที่มีถึง 800 ล้านคนและคาดว่าจะเพิ่มเป็น 1 พันล้านคนในปีนี้ เรียกได้ว่ายุคนี้คือยุคทองของ Instagram และเป็นโอกาสให้กับทุกแบรนด์ มาดูสถิติบน Instagram เผื่อจะช่วยให้คุณได้เปรียบในการขายบนโซเชียลมีเดียที่สตรองแห่งนี้

เดี๋ยวนี้การเป็นเจ้าของธุรกิจบนโลกออนไลน์มันช่างง่ายแสนง่าย เพียงไม่นานก็มีแบรนด์บนโลกออนไลน์ได้แล้ว แต่ด้วยความง่าย ทำให้คู่แข่งก็เยอะตามไปด้วย ดังนั้นต้องวางกลยุทธ์ให้ดีถ้าอยากประสบความสำเร็จและขายดีบนโลกออนไลน์

รูปสวยอาจจะทำให้ลูกค้าประทับใจและกดไลค์ให้คุณแต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะซื้อของคุณและกลายเป็น Follower คุณใน Instagram เรามีวิธีที่จะช่วยให้คุณมีจำนวนผู้ติดตามมากขึ้น แถมยังเป็นตัวเลขแบบออแกนิกส์เน้นๆ อีกด้วย

การได้เริ่มต้นทำในสิ่งที่รักสิ่งที่ชอบ มักเป็นจุดเริ่มต้นทำให้เกิดเรื่องราวธุรกิจที่น่าสนใจมานักต่อนักแล้ว เช่นเดียวกันกับเสื้อผ้าแบรนด์ Lineen ที่เกิดขึ้นมาจากความรัก ความชอบ หลงใหลในเสน่ห์ผ้าลินินแบบถอนตัวไม่ขึ้น

เมื่อลูกค้ากำลังจะเห็นแบรนด์ต่างๆ ลดลงใน Facebook แล้วแบบนี้แบรนด์ต้องปรับตัวอย่างไร? เรามีคำตอบให้คุณ

เพราะคนยุคนี้มีแนวโน้มที่จะเชื่อคนอื่นมากกกว่าแบรนด์ การตลาดแบบใช้ Influencer เลยมาแรงแซงทุกการตลาด แล้ว Influencer ที่มีอยู่เต็มออนไลน์ ควรเลือกใช้แบบไหนดี ถึงจะทำให้แบรนด์ปัง

จากงานวิจัย “Momentum Marketing เจาะใจคนชอบแชร์ จุดกระแสการตลาด” เผยให้รู้จัก “ผู้บริโภคกลุ่มแรก” หรือ “มีก่อนใช้ก่อน” ผู้ที่ได้ชื่อว่่าเป็นนักจุดกระแสการแชร์ต่อจนโด่งดันสนั่นโลกออนไลน์ ถ้าอยากจะกระตุ้นให้พวกเขาเหล่านี้แชร์มากขึ้น ต้องมีกลยุทธ์โดยเฉพาะ

Instagram อีกหนึ่งช่องทางที่ SME ต้องใช้ในการเข้าถึงลูกค้ายุคนี้ แต่การที่จะเป็นแบรนด์สุดปังใน IG ที่ลูกค้าอยากจะคลิก Follow ต้องทำยังไง ไม่ยาก เรามีเคล็ดลับมาบอกกัน

แม้วันนี้เทคโนโลยีดิจิทัลจะช่วยให้เราสามารถส่งสารไปยังกลุ่มเป้าหมายได้อย่างถูกต้องแม่นยำมากขึ้น แต่หากขาดศิลปะในการนำเสนอตัวตนของสินค้า บริการ หรือความเข้าใจลูกค้าอย่างแท้จริง ต่อให้ทุ่มเงินซื้อเทคโนโลยี หรือโฆษณาไปเท่าไร ก็ไม่ได้ลูกค้าอยู่ดี

จากสัดส่วนมูลค่า e-Commerce มากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ขายสินค้าและบริการให้กับลูกค้าในประเทศเป็นหลัก และมีไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ที่ขายออนไลน์ให้กับลูกค้าในต่างประเทศ แต่รู้ไหมว่า ตลาด Cross-Border e-Commerce เวลานี้เติบโตอย่างมหาศาลเลยทีเดียว