สมาร์ท พีเอดี ชี้ไทยเสียโอกาสการแข่งขันในตลาดโลก
Share:

สมาร์ท พีเอดี ชี้ไทยกำลังเสียโอกาสการแข่งขันในตลาดโลก จึงถึงเวลาแล้วที่ไทยต้องใส่ใจเรื่องการวิเคราะห์และจัดการศักยภาพของเยาวชนไทย เพื่อสร้างคน สร้างแรงงานของประเทศที่เหมาะสมกับแต่ละสายงาน ซึ่งเป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะนำประเทศสู่เวทีการแข่งขันระดับโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก และถือเป็นการใช้งบประมาณของชาติในด้านการศึกษาได้อย่างคุ้มค่ายิ่งขึ้น ล่าสุดเปิดตัว 'สเปียร์ เฮด โปรแกรม' เสนอสู่ภาคการศึกษาและองค์กรระดับใหญ่ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการประเมินศักยภาพและความเป็นตนเองให้แก่นักศึกษา พร้อมทั้งเป็นผู้ช่วยองค์กรระดับใหญ่ใช้เป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์เพื่อเฟ้นหา 'ตัวจริง' เข้ามาเติมเต็มตำแหน่งงาน
นางสาวกิติมา หงส์ศิริกาญจน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาศักยภาพมนุษย์ ศูนย์พัฒนาศักยภาพมนุษย์ สมาร์ท พีเอดี เปิดเผยว่า ปัจจุบันการจัดการปัญหาเรื่องศักยภาพแรงงานถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ไทยต้องให้ความสำคัญ เพราะหากประเทศมีระบบการจัดการแรงงานก่อนเข้าสู่ระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพจะสามารถช่วยให้กลไกโดยรวมของตลาดแรงงานนั้นมีศักยภาพในการแข่งขันทั้งในระดับภูมิภาคและในระดับโลกได้อย่างดี
ทั้งนี้ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย ระบุว่า ในปี 2557 ที่ผ่านมา มีผู้สำเร็จการศึกษา 547,853 คน แบ่งเป็น ผู้สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีรวม 336,879 คน หรือคิดเป็น 61%, ผู้สำเร็จการศึกษาระดับ ปวส. และอนุปริญญาตรีรวม 74,550 คน หรือ 14%, ผู้สำเร็จการศึกษาระดับ ปวช. รวม 48,884 คน หรือ 9%, ผู้สำเร็จการศึกษาระดับ ม.6 รวม 22,936 คน หรือ 4% และผู้สำเร็จการศึกษาระดับ ม.3 รวม 64,604 คน หรือ 12%
และจากการสำรวจพบว่า กลุ่มผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีมีอัตราว่างงานสูงถึง 160,000คนในปีที่ผ่านมา โดยในปี 2557 มีกลุ่มคนว่างงานประมาณ 306,148 คน ขณะที่อัตราขาดแคลนแรงงานอยู่ที่ 181,827 คน ซึ่งคาดว่าในปี 2555-2559 บริษัทในประเทศไทยมีความต้องการรับผู้สำเร็จการศึกษาใหม่ (ป.ตรี) เพียงแค่ปีละ 150,000 คนต่อปีเท่านั้น ขณะที่จะมีจำนวนผู้สำเร็จการศึกษาใหม่ในระดับปริญญา ตรีเข้าสู่ตลาดแรงงานเฉลี่ยที่ปีละ 300,000 – 400,000 คน
“กลไกโดยรวมของตลาดแรงงานไทย ประกอบด้วย ตัวแรงงาน, ครอบครัว สถาบันการศึกษา และสถานประกอบการ ซึ่งแต่ละปัจจัยล้วนมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการก้าวหน้าของประเทศ เพราะหากเรามีแรงงานที่เข้าสู่ตลาดไม่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ก็จะทำให้เกิดปัญหาการว่างงานและการขาดแคลนแรงงานตามมา" นางสาวกิติมา หงส์ศิริกาญจน์ อธิบายเพิ่มเติม
ครอบครัวถือเป็นด่านแรกที่ส่งผลต่อทิศทางการเลือกอาชีพของเยาวชนไทย โดยส่วนมากมักจะเลือกสายอาชีพตามกระแสนิยมโดยไม่คำนึงถึงความถนัดของเยาวชน หรือแม้กระทั่งตัวผู้เรียนเองก็ยังขาดการประเมินศักยภาพของตนทำให้ความโดดเด่นของตนเองถูกบดบังและพุ่งไปในส่วนงานที่ไม่มีความถนัดหรือไม่ได้ชอบอย่างแท้จริง ทำให้เมื่อเข้าสู่การสถาบันศึกษาบางคนไม่สามารถศึกษาต่อได้จนจบ หรือหากจบแล้วเมื่อได้ทดลองทำงานไปและรู้ว่าไม่ใช่แนวทางที่ตนชอบหรือถนัดก็จะนำไปสู่ปัญหาการเปลี่ยนงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ประเทศเสียงบประมาณด้านการศึกษาไปโดยเปล่าประโยชน์ สถานประกอบการณ์ก็ได้บุคลากรเข้าไปทำงานอย่างไม่มีเสถียรภาพ และที่สำคัญที่สุดคือประเทศชาติต้องเสียบุคลากรที่มี
Topics:
Share:
Related Articles
ไทยพาณิชย์ ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าเอสเอ็มอีทั่วประเทศรับมือโควิด-19 ระลอกใหม่
ธนาคารไทยพาณิชย์พร้อมอยู่เคียงข้างช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยก้าวผ่านวิกฤต เร่งออกมาตรการบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ ให..
AP ยืนหนึ่งผู้นำด้านบริหารจัดการโครงการอสังหาฯ เพื่อการอยู่อาศัยครบวงจร
AP ยิ้มรับความสำเร็จหลัง SMART (สมาร์ท) บริษัทผู้นำธุรกิจพร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ ในเครือ “คว้า ISO 41001:2018” มาตรฐานใหม่ของการให้บริการด้านการบร..
“สุริยะ” สั่งการ กสอ. ออกมาตรการเยียวยาลูกหนี้เงินทุนฯ เพิ่มสภาพคล่องกว่า 2,300 กิจการ
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ออกมาตรการเยียวยาลูกหนี้เงินทุน กว่า 2,300 กิจการ ประกอบด้วย การพักชำระหนี้สูงสุด 12 เดือนสำหรับลูกหนี้ชั้นดี พักชำระหน..