หอการค้าไทยเชื่อเหตุระเบิดไม่กระทบท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่น
Share:
หอการค้าไทยมั่นใจเหตุระเบิดราชประสงค์ไม่กระทบท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่นปลายปีนี้ พร้อมย้ำประสานงานกับหอการค้าต่างประเทศอย่างใกล้ชิด ขณะที่ประธานบอร์ด ททท. ระบุขอเวลาประเมินสถานการณ์ก่อนตัดสินใจจะต้องออกแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยวไทยหรือไม่
นายกลินท์ สารสิน รองประธานกรรมการหอการค้าไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือประธานบอร์ด ททท. กล่าวว่า ยอดจองเที่ยวบินเดินทางมาประเทศไทยเดือนกันยายนอยู่ที่ร้อยละ 47 ส่วนเดือนตุลาคมนี้อยู่ที่ร้อยละ 70 โดยยังต้องรอประเมินสถานการณ์ว่าจะมีการยกเลิกหรือไม่ซึ่งสมาคมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวจะหารือกันอย่างต่อเนื่อง โดยจะต้องวิเคราะห์สถานการณ์และดูตลาดคู่แข่งเพื่อปรับยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวให้สอดคล้องกับสถานการณ์มากที่สุด ก่อนตัดสินใจว่าจะต้องออกแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยวไทยหรือไม่ แต่ล่าสุดยังคงกำหนดเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวปี 2558 ไว้ที่ 28.6 ล้านคนเช่นเดิม
อย่างไรก็ตาม จากการหารือร่วมกับหอการค้าต่างประเทศที่มีสำนักงานอยู่ในประเทศไทย ล่าสุดยังคงมีความเชื่อมั่นว่ารัฐบาลไทยจะสามารถดูแลสถานการณ์ได้เป็นอย่างดีและเหตุการณ์จะไม่ยืดเยื้อ โดยหอการค้าต่างประเทศรับรู้และเข้าใจสถานการณ์ต่าง ๆ พอกับคนไทย เพราะอยู่ในประเทศไทยมานาน และค่อนข้างชื่นชมในความมีน้ำใจของคนไทยที่ช่วยเหลือกันเป็นอย่างดีในยามสถานการณ์ฉุกเฉิน
ด้านนางสาวเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า เหตุระเบิดที่ราชประสงค์มีผลกระทบทางจิตวิทยาระยะสั้นเท่านั้น หากไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นซ้ำเติมอีกเชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูการท่องเที่ยว หรือไฮซีซั่นปลายปีนี้ ส่วนการบริโภคหรือการจับจ่ายของคนไทยในช่วงที่ผ่านมาพฤติกรรมผู้บริโภคจับจ่ายเท่าที่จำเป็นอยู่แล้ว เชื่อว่าไม่น่าจะลดต่ำลงไปกว่านี้ โดยหอการค้าไทยจะยังไม่ปรับประมาณการณ์เศรษฐกิจ เนื่องจากมั่นใจว่าเหตุการณ์จะไม่บานปลาย โดยเศรษฐกิจไทยน่าจะยังเติบโตได้ตามคาดการณ์ระหว่างร้อยละ 2.5-2.9
อย่างไรก็ตาม การปรับคณะรัฐมนตรีที่กำลังจะได้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่นั้น รัฐบาลควรเน้นกระตุ้นการจับจ่ายในประเทศ โดยเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ ส่วนปัจจัยภายนอกประเทศนั้น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ควรดูแลค่าเงินบาทให้อ่อนค่าไปพร้อมกับค่าเงินสกุลอื่น ขณะที่ผู้ส่งออกก็ต้องปรับตัวด้วย เพราะปีนี้ประเทศไทยเผชิญปัจจัยลบรุนแรงมากหลาย ๆ ปัจจัยพร้อมกัน ทำให้เอกชนไม่มั่นใจที่จะลงทุน จึงมีความจำเป็นที่ภาครัฐจะต้องเร่งรัดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานโดยเร็วที่สุด
ที่มา -สำนักข่าวไทย
Topics:
Share:
Related Articles
ทรู 5G แชร์ประสบการณ์อัจฉริยะขั้นสุด ใน “CAPTURE YOUR EPIC TRUE 5G MOMENT
ทรู 5G ล้ำสุดในไทย จัดเต็มสร้างประสบการณ์อัจฉริยะขั้นสุดกับ ‘CAPTURE YOUR EPIC TRUE 5G MOMENT’ กิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟต้อนรับการเปิดตัว Samsung Galax..
Buzzebees ผนึก Sabuy ทรานส์ฟอร์มธุรกิจค้าปลีก สร้าง Synergy Model ภายใต้ชื่อ บริษัท สบาย เอ็กเชนจ์ จำกัด
บัซซี่บีส์ และ SABUY ได้จับมือร่วมทุนด้วยสัดส่วน 50:50 โดยได้ร่วมดำเนินการจัดตั้งบริษัทใหม่ ภายใต้ชื่อ “บริษัท สบาย เอ็กเชนจ์ จำกัด” เติมเต็มในการสร..
EXIM BANK เติบโตก้าวกระโดดในรอบ 5 ปีจากการปรับองค์กรครั้งใหญ่เพื่อเป็นผู้นำ ‘องค์กรการเงินเพื่อการส่งออก’ ระดับโลก
แม้ปี 2563 ต้องเผชิญความท้าทายจากผลกระทบของการแพร่ระบาดโควิด-19 EXIM BANK ยังมีผลการดำเนินงานที่น่าพอใจและเป็นไปตามเป้าหมาย เป็นผู้นำองค์กรการเงินเพ..