สหรัฐฯ ปรับอัตราขั้นต่ำภาษีนำเข้าโอกาสค้าปลีกส่งออกไทย
Share:
เมื่อเร็วๆ นี้อีเบย์ เผยถึงโอกาสครั้งใหม่ของผู้ค้าปลีกส่งออกจากประเทศไทย หลังจากที่ประเทศสหรัฐฯ ปรับเพิ่มอัตราขั้นต่ำในการเรียกเก็บเงินศุลกากรสำหรับสินค้านำเข้าจาก 200 ดอลลาร์ เป็น 800 ดอลลาร์ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้เปิดโอกาสครั้งยิ่งใหญ่แก่ผู้ประกอบการที่ต้องการเพิ่มยอดขายจากการค้าขายกับผู้บริโภคสหรัฐฯ ผ่านทางอีเบย์ และในขณะเดียวกันยังได้รับผลประโยชน์จากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่มีความแข็งตัว
ประเทศสหรัฐฯ มีกฏเกณฑ์ข้อกำหนดในการเก็บภาษีของสินค้านำเข้า โดยในอดีตสินค้านำเข้าที่มีราคามากกว่า 200 ดอลลาร์สหรัฐฯจะถูกเรียกเก็บภาษี แต่ในปัจจุบันได้มีการเปลี่ยนแปลงโดยสินค้าที่ราคามากกว่า 800 ดอลลาร์สหรัฐฯขึ้นไปจึงจะมีการเรียกเก็บภาษี จึงเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ค้าปลีกส่งออกจากประเทศไทย สามารถขายสินค้าที่มีราคาสูงขึ้น ได้อย่างง่ายดาย เพราะไม่ต้องจ่ายภาษีถ้าสินค้าราคาไม่เกิน 800 ดอลลาร์สหรัฐฯ และลดความซับซ้อนของเอกสารนำเข้า และลดระยะเวลาการส่งมอบจากพิธีการศุลกากรสหรัฐฯไปยังผู้ซื้อ
“สหรัฐอเมริกาเป็นตลาดการค้าอันดับหนึ่งของผู้ค้าปลีกส่งออกจากประเทศไทย เงินดอลลาร์สหรัฐฯที่แข็งค่าขึ้น คือแรงผลักดันสำคัญของการเติบโตนี้ โดยการปรับภาษีอัตราศุลกากรในครั้งนี้ จะช่วยให้ผู้ค้าปลีกส่งออกชาวไทยสามารถขยายกลุ่มสินค้าให้หลากหลายและมีมูลค่าเพิ่มขึ้นโดยมีอุปสรรคลดลง” บุญพันธุ์ บุญประยูร หัวหน้าฝ่ายการค้าระหว่างประเทศ ประจำประเทศไทย กล่าว ”อีเบย์มุ่งมั่นให้การสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและนักลงทุนชาวไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะช่วยให้พวกเขาเข้าถึงตลาดโลกได้โดยตรงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์เศรษฐกิจ โดยการปรับอัตราศุลกากรในครั้งนี้ จะช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและนักลงทุนชาวไทยมีความได้เปรียบในการค้าผ่านทางอีเบย์และทำให้รายได้ได้สูงขึ้น ในช่วงที่เศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาถูกมองว่ากำลังเติบโตในปีนี้” บุญพันธ์สรุป
ผู้ประกอบเอสเอ็มอีมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไทยให้เติบโตขึ้น โดยประเทศไทยในขณะนี้มีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีถึง 2,800,000 ราย ซึ่งอีเบย์ยังคงสานต่อเป้าหมายในการช่วยส่งเสริมผู้ประกอบการเอสเอ็มอีด้วยการให้บริการแพลตฟอร์มที่จะเข้ามาช่วยในการส่งมอบสินค้าและบริการที่ไม่มีใครสามารถเทียบได้ในระดับโลก ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสามารถเข้าถึงโอกาสในธุรกิจการค้าปลีกส่งออกแบบออนไลน์ได้มากขึ้น และอีเบย์ทำให้โอกาสนั้นเกิดขึ้นได้จริงด้วยการให้บริการเปิดหน้าร้านค้าออนไลน์ในระดับโลก เพื่อต้อนรับผู้ซื้อกว่า 163 ล้านคนทั่วโลก โดยมีประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำปลายทางด้านการส่งออก
ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีผู้ค้าปลีกส่งออกบนอีเบย์มากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และมียอดขายประจำปีสูงสุดในระดับภูมิภาคที่มากกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และการปรับอัตราศุลกากรในครั้งนี้ จะช่วยผลักดันให้ประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ อีเบย์มุ่งมั่นที่จะช่วยยกระดับการพาณิชย์ในประเทศไทยอย่างเต็มกำลัง ควบคู่ไปกับการสนับสนุนธุรกิจระดับท้องถิ่น โดยเน้นการเพิ่มโอกาสในการทำธุรกิจผ่านการซื้อขายบนอินเทอร์เน็ต
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
Topics:
Share:
Related Articles
SME รู้ทันความเสี่ยง เลี่ยงค่าเงินผันผวน ในโครงการ FX Options
จากการที่ค่าเงินบาทผันผวนไปมา อาจจะทำให้ผู้ประกอบการที่ทำการค้าระหว่างประเทศได้รับผลกระทบ หากตั้งราคาซื้อขายหรือคำนวณต้นทุนผิดพลาด รัฐบาลจึงได้จัดทำ..
อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต แต่งตั้ง โทมัส วิลสัน ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการใหญ่ และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต ประกาศแต่งตั้ง โทมัส วิลสัน ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันช..
บ้านปูจัด “UpImpact” ผลักดันกิจการเพื่อสังคมให้รอดพ้นวิกฤติ ปั้น BC4C กิจการเพื่อสังคมรุ่นต่อไปในปี 2564
บ้านปู จำกัด (มหาชน) สานต่อการทำงานด้านการสนับสนุนกิจการเพื่อสังคม หรือ “Social Enterprise (SE)” ในปี 2563 ผ่านโครงการพลังเปลี่ยนแปลงเพื่อสังคม หรือ..