สนพ.เผยการใช้พลังงานเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะภาคท่องเที่ยว
Share:
ดร.ทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) และโฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ปัจจุบันการใช้พลังงานเพิ่มขึ้นในทุกภาคส่วน โดยเฉพาะในภาคการท่องเที่ยวซึ่งเป็นภาคส่วนสำคัญที่มีผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศและเป็นภาคส่วนที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยการขยายตัวของการท่องเที่ยวย่อมส่งผลให้เกิดความต้องการใช้พลังงานของประเทศเพิ่มขึ้นทั้งการใช้โดยตรงและโดยอ้อม
ทั้งนี้ มูลนิธิพลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม (มพส.) ได้ศึกษาถึงผลกระทบของการท่องเที่ยวที่มีต่อความต้องการใช้พลังงานของประเทศ ทั้งด้านการใช้จ่ายและการใช้พลังงานของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาพักค้างในประเทศไทย โดยใช้ข้อมูลจากระบบบัญชีประชาชาติการท่องเที่ยว (Tourism Satellite Accounts) ร่วมกับ ตารางปัจจัยการผลิตและผลผลิตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว (Tourism Input-Output Table) วิเคราะห์ผลกระทบโดยใช้แบบจำลองปัจจัยการผลิตและผลผลิต (Input-Output Model) พบว่าในปี 2558 มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศจำนวน 29.8 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.4 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า มีการใช้จ่ายเป็นมูลค่า 1,447,158 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.4 โดยเป็นการใช้จ่ายสำหรับค่าโรงแรมและที่พักร้อยละ 26.2 ค่าอาหารและเครื่องดื่มร้อยละ 22.5 ค่ารถโดยสารและการเดินทางร้อยละ 5.3 เป็นต้น ซึ่งการใช้จ่ายดังกล่าวเชื่อมโยงกับการใช้พลังงานทั้งทางตรงและทางอ้อม อาทิ การใช้ไฟฟ้าเพื่อแสงสว่างและเครื่องปรับอากาศในโรงแรมและที่พัก การใช้พลังงานประเภทแก๊สหุงต้มและไฟฟ้าจากการบริโภคอาหารและเครื่องดื่ม และการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงจากการเดินทางในรูปแบบต่างๆ โดยพบว่ากรณีที่มีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้ามาในประเทศทุก 1 ล้านคน จะมีผลทำให้ความต้องการพลังงานประเภทน้ำมันเชื้อเพลิง (Petroleum Refineries) เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.05 เมื่อเทียบกับกรณีที่ไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามา ในขณะที่ความต้องการพลังงานประเภทไฟฟ้าและแก๊ส (Electricity and Gas) เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 0.10
นอกจากนี้ เมื่อศึกษาลงไปในช่วงฤดูท่องเที่ยว (High Season) เดือนธันวาคม 2558 ซึ่งมีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาประเทศไทยประมาณ 2.99 ล้านคน คาดว่าความต้องการพลังงานประเภทน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยทั้งเดือนเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.15 และพลังงานประเภทไฟฟ้าและแก๊สเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 0.3 โดยความต้องการใช้พลังงานของนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้า ซึ่งมีอัตราเพิ่มเป็น 2 เท่าของความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง
ปัจจุบันปริมาณการใช้พลังงานของไทยโดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวมีการใช้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเพื่อให้การคาดการณ์ความต้องการใช้พลังงานของประเทศในอนาคตของ สนพ. รองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างสอดคล้อง สนพ. จะได้นำผลการศึกษาดังกล่าวไปประกอบการวางแผนด้านพลังงานของประเทศที่เหมาะสม
"การท่องเที่ยวเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ ขณะเดียวกันก็มีผลต่อความต้องการใช้พลังงานของประเทศเพิ่มขึ้น และจากข้อมูลที่กล่าวมา พบว่าการท่องเที่ยวมีผลกระทบต่อการใช้พลังงานทั้งทางตรงและทางอ้อม ดังนั้น สนพ. จะนำผลการศึกษาที่ได้นำไปวางแผนการใช้พลังงานภาคท่องเที่ยวในอนาคตต่อไป พร้อมกันนี้ อยากขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวลดการใช้พลังงาน เพื่อให้เกิดความยั่งยืนของพลังงานของประเทศ"ดร.ทวารัฐกล่าว

Topics:
Share:
Related Articles
SME รู้ทันความเสี่ยง เลี่ยงค่าเงินผันผวน ในโครงการ FX Options
จากการที่ค่าเงินบาทผันผวนไปมา อาจจะทำให้ผู้ประกอบการที่ทำการค้าระหว่างประเทศได้รับผลกระทบ หากตั้งราคาซื้อขายหรือคำนวณต้นทุนผิดพลาด รัฐบาลจึงได้จัดทำ..
อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต แต่งตั้ง โทมัส วิลสัน ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการใหญ่ และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต ประกาศแต่งตั้ง โทมัส วิลสัน ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันช..
บ้านปูจัด “UpImpact” ผลักดันกิจการเพื่อสังคมให้รอดพ้นวิกฤติ ปั้น BC4C กิจการเพื่อสังคมรุ่นต่อไปในปี 2564
บ้านปู จำกัด (มหาชน) สานต่อการทำงานด้านการสนับสนุนกิจการเพื่อสังคม หรือ “Social Enterprise (SE)” ในปี 2563 ผ่านโครงการพลังเปลี่ยนแปลงเพื่อสังคม หรือ..