กสอ. ดัน DIP SMEs NETWORK เจาะ CLMV คาดยอดขายโตกว่า 100 ล้านบาท
Share:
กสอ. ดัน DIP SMEs NETWORK เจาะ CLMV คาดยอดขายโตกว่า 100 ล้านบาท ชี้ 3 อุตฯ มาแรงใน CLMV อัด 20 กว่าโครงการหนุน SMEs ส่งออกอินเตอร์ฯ
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม ผลักดันผู้ประกอบการเพื่อลงทุนในกลุ่มประเทศ CLMV ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ เวียดนาม โดย 3 อุตสาหกรรมที่เติบโตในกลุ่ม CLMV อย่างต่อเนื่อง ได้แก่ อุตสาหกรรมเพื่อการก่อสร้าง อุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร และอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการเกษตร ทั้งนี้ กสอ. ได้จัดกิจกรรม Business Matching Forum 2559 ระหว่างวันที่ 7 – 8 กันยายน 2559 ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ โดยร่วมกับเครือข่ายผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย หรือ DIP SMEs Network ส่งเสริมผู้ประกอบการเพื่อต่อยอดและเจรจาทางธุรกิจกับผู้ประกอบการในกลุ่ม CLMV โดยคาดว่าผลจากการเจรจาจะสร้างมูลค่าได้กว่า 100 ล้านบาท ทั้งนี้ยังเตรียมอัดงบผ่าน 20 กว่าโครงการดันผู้ประกอบการไทยสู่เวทีการค้าระหว่างประเทศ

นางอนงค์ ไพจิตรประภาภรณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า สำหรับกลุ่มประเทศ CLMV ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม มีประชากรรวมกันกว่า 166 ล้านคน นับเป็นกลุ่มประเทศเป้าหมายแรกที่มีการส่งเสริมให้มีการส่งออกและลงทุน เนื่องจากเป็นกลุ่มประเทศที่ยังคงมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ในระดับสูง และมีนโยบายเปิดกว้างรับการลงทุนจากต่างประเทศ การค้าขายและการส่งออกในกลุ่มประเทศ CLMV มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเทศเมียนมาร์ และประเทศกัมพูชา ทั้งนี้การส่งออกโดยรวมมีมูลค่าในปี 2558 รวมกว่า 24,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 752,178 ล้านบาท (ที่มา สรุปสถานการณ์การค้าระหว่างไทยกับกลุ่มประเทศ CLMV, กรมศุลกากร)
นางอนงค์ กล่าวต่อว่า การเติบโตดังกล่าวเกิดจากปัจจัยสนับสนุน อาทิ สินค้าของไทยมีภาพลักษณ์และศักยภาพที่ดีต่อผู้บริโภค การใช้นวัตกรรมอันทันสมัยในการพัฒนาสินค้า รวมไปถึงสินค้าที่ส่งออกเป็นธุรกิจที่ผู้ประกอบการของไทยมีความถนัดและเชี่ยวชาญ ประกอบกับทำเลที่ตั้งที่เป็นศูนย์กลางของกลุ่มประเทศ CLMV ทำให้ได้เปรียบกว่าประเทศคู่แข่งอื่นที่อยู่ไกลกว่า สำหรับภาคธุรกิจที่เข้าไปลงทุนและส่งออกตามแต่ละประเทศจะมีความแตกต่างกันไป โดยการลงทุนในประเทศกัมพูชาส่วนใหญ่เป็นการลงทุนและส่งออกในด้านอุตสาหกรรมการผลิตอาหาร ประเทศลาวเป็นการผลิตในหมวดพลังงาน เมียนมาร์เป็นการลงทุนและส่งออกในด้านอุตสาหกรรมก่อสร้างและเครื่องมือการเกษตร และเวียดนามจะเป็นการลงทุนและส่งออกในผลิตภัณฑ์อาหารและชิ้นส่วนยานยนต์ โดยอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ อุตสาหกรรมเพื่อการก่อสร้าง อุตสาหกรรมอาหารแปรรูป และอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการเกษตร
ทั้งนี้ กสอ. ได้กำหนดจัดกิจกรรมการส่งเสริมผู้ประกอบการเพื่อต่อยอดธุรกิจ หรือ Business Matching Forum ในปี 2559 โดยร่วมกับเครือข่ายผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย หรือ DIP SMEs Network จัดกิจกรรมเจรจาการค้ากับทางเครือข่ายและกลุ่ม CLMV โดยคาดว่าในเวลา 2 วัน คือ 7 – 8 กันยายนนี้ จะสามารถสร้างยอดขายได้กว่า 100 ล้านบาท ในกลุ่มประเทศ CLMV อย่างไรก็ตามภายใต้การส่งเสริมและสนับสนุนของ กสอ. ยังมีโครงการต่างๆ ในการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการไทยเพื่อการส่งออกในตลาดต่างประเทศ กว่า 20 โครงการ อาทิ โครงการสร้างเครือข่ายระหว่างประเทศในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพโครงการพัฒนาผู้ประกอบการสาขาเป้าหมายเพื่อให้พร้อมรับการเปิดเสรี ฯลฯ ทั้งนี้ในการส่งเสริมผ่านโครงการต่างๆ ถือเป็นประโยชน์แก่ผู้ประกอบการในการแก้ไขข้อจำกัดทางธุรกิจ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และยังเป็นการเปิดตลาดใหม่เพื่อสร้างโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในเวทีการค้าระหว่างประเทศ นางอนงค์กล่าวทิ้งท้าย


ในมุมมองของ นางกิติพร ตรงกิจไพศาล กรรมการบริหาร บริษัท สยามโตชู จำกัด ผู้ประกอบการในเครือข่ายผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย มีความคิดเห็นว่า การส่งออกสินค้าในกลุ่มประเทศ CLMV มีการเติบโตเรื่อยมา โดยเฉพาะในระยะหลังที่มีการรวมกลุ่มเป็นประชาคมอาเซียน ทั้งจากนโยบายเปิดประเทศและการพัฒนาอุตสาหกรรม ทำให้สินค้าในหลายกลุ่มมีโอกาสในการส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ ทั้งนี้ตนมองว่าประเทศไทยมีศักยภาพสูงกว่าประเทศอื่นๆเนื่องจากวิทยาการและนวัตกรรมการผลิตที่ทันสมัย โดยปัจจุบันสินค้าของตนซึ่งเป็นเครื่องขัดผิวโลหะเป็นที่ต้องการอย่างมากในภาคการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ของประเทศเวียดนาม โดยปัจจัยที่ทำให้เป็นผู้นำในด้านการแข่งขันของสินค้าประเภทนี้เนื่องจากการพัฒนานวัตกรรมและการออกแบบที่มีอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการผลิตด้วยต้นทุนที่ต่ำแต่คุณภาพสูงจึงทำให้ได้เปรียบกว่าคู่แข่งทั้งในและต่างประเทศ
สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักพัฒนาผู้ประกอบการ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โทร. 02 - 2024521 , 02-2024489 หรือเข้าไปที่ http://bed.dip.go.th
Topics:
Share:
Related Articles
ทรู 5G แชร์ประสบการณ์อัจฉริยะขั้นสุด ใน “CAPTURE YOUR EPIC TRUE 5G MOMENT
ทรู 5G ล้ำสุดในไทย จัดเต็มสร้างประสบการณ์อัจฉริยะขั้นสุดกับ ‘CAPTURE YOUR EPIC TRUE 5G MOMENT’ กิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟต้อนรับการเปิดตัว Samsung Galax..
Buzzebees ผนึก Sabuy ทรานส์ฟอร์มธุรกิจค้าปลีก สร้าง Synergy Model ภายใต้ชื่อ บริษัท สบาย เอ็กเชนจ์ จำกัด
บัซซี่บีส์ และ SABUY ได้จับมือร่วมทุนด้วยสัดส่วน 50:50 โดยได้ร่วมดำเนินการจัดตั้งบริษัทใหม่ ภายใต้ชื่อ “บริษัท สบาย เอ็กเชนจ์ จำกัด” เติมเต็มในการสร..
EXIM BANK เติบโตก้าวกระโดดในรอบ 5 ปีจากการปรับองค์กรครั้งใหญ่เพื่อเป็นผู้นำ ‘องค์กรการเงินเพื่อการส่งออก’ ระดับโลก
แม้ปี 2563 ต้องเผชิญความท้าทายจากผลกระทบของการแพร่ระบาดโควิด-19 EXIM BANK ยังมีผลการดำเนินงานที่น่าพอใจและเป็นไปตามเป้าหมาย เป็นผู้นำองค์กรการเงินเพ..