รมว.แรงงานมั่นใจเด็กจบใหม่ มีนา – เมษาฯ นี้ มีงานทำ
Share:
นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน ในฐานะโฆษกกระทรวงแรงงาน เปิดว่า พลเอก ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้ให้ความสำคัญและติดตามสถานการณ์ด้านแรงงานอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่า แนวโน้มอัตราการว่างงานของไทยในเดือนมีนาคม - เมษายน 2560 นั้นจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากจำนวนนักศึกษาที่จบใหม่จะเข้ามาสู่ตลาดแรงงานอีก 550,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่จบปริญญาตรี 60% และไม่ได้เป็นสายวิชาชีพ ส่งผลให้หางานยากนั้น ในเรื่องนี้กระทรวงแรงงานขอชี้แจงข้อเท็จจริงโดยข้อมูลของกรมการจัดหางาน ระบุว่า ปัจจุบันมีตำแหน่งงานว่าง จำนวน 43,974 อัตรา โดยแยกเป็นอันดับที่มีความต้องการมากสุด อาทิ แรงงานด้านการผลิตอื่นๆ ด้านการประกอบ พนักงานขายของหน้าร้าน พนักงานขายสินค้าประจำร้าน และเสมียน พนักงานทั่วไป พนักงานธุรการ เป็นต้น ทั้งนี้ เด็กจบใหม่ส่วนหนึ่งอยู่ระหว่างการหางานทำ อีกส่วนหนึ่งมีคุณสมบัติความรู้ความสามารถตรงตามความต้องการของสถานประกอบการก็สามารถเข้าทำงานได้เลย ส่วนที่ว่างงานนั้นเนื่องจากสาขาที่จบมาไม่ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน
นายอนันต์ชัย กล่าวว่า ในเรื่องนี้ กระทรวงแรงงานได้กำหนดมาตรการรองรับผู้ที่จะเข้าสู่ตลาดแรงงาน โดย การจัดบริการหางานด้วย Smart Job Application ผ่านระบบสมาร์ทโฟน , ศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทย (Smart Job Center) ,จัดบริการแนะแนวอาชีพในสถานศึกษา, จัดกิจกรรมนัดพบแรงงานเป็นประจำทุกเดือน , จัดแนะแนวอาชีพ ทดสอบความพร้อมทางอาชีพในสถานศึกษาและที่สำนักงานจัดหางานทุกแห่งทั่วประเทศ รวมถึงได้เปิดเว็บไซต์ M-powered Thailand ศูนย์พัฒนาอาชีพครบวงจรออนไลน์ เพื่อเป็นช่องทางการเรียนรู้เสริมสร้างทักษะเพื่อประกอบอาชีพในยุคดิจิทัลไว้คอยรองรับ ตลอดจนการวางแผนพัฒนากำลังคน เพื่อพัฒนาแรงงานให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงอุตสาหกรรมอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ในปี 2559 ที่ผ่านมากระทรวงศึกษาธิการได้ผลิตคนให้ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงานแล้ว ทั้งนี้ สำหรับคนที่จบออกมาแล้วหากยังไม่มีทักษะฝีมือ กระทรวงแรงงานจะพัฒนาทักษะฝีมือให้สูงขึ้นก่อนเข้าสู่ตลาดแรงงานอีกทางหนึ่ง
“รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้เน้นย้ำว่า ขอให้ภาคเอกชนมั่นใจได้ว่า กระทรวงแรงงานได้วางมาตรการรองรับไว้สำหรับผู้ที่จะเข้าสู่ตลาดแรงงาน โดยเฉพาะนักศึกษาจบใหม่ในเดือนมีนาคมนี้แล้ว ทั้งตำแหน่งงานว่าง ที่สามารถเข้าถึงด้วยระบบสมาร์ทจ็อบแอพลิเคชั่น ส่วนคนที่ยังไม่ได้งานจะมีบริการพัฒนาทักษะฝีมือให้สูงขึ้น สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน”นายอนันต์ชัย กล่าว

นายอนันต์ชัย กล่าวว่า ในเรื่องนี้ กระทรวงแรงงานได้กำหนดมาตรการรองรับผู้ที่จะเข้าสู่ตลาดแรงงาน โดย การจัดบริการหางานด้วย Smart Job Application ผ่านระบบสมาร์ทโฟน , ศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทย (Smart Job Center) ,จัดบริการแนะแนวอาชีพในสถานศึกษา, จัดกิจกรรมนัดพบแรงงานเป็นประจำทุกเดือน , จัดแนะแนวอาชีพ ทดสอบความพร้อมทางอาชีพในสถานศึกษาและที่สำนักงานจัดหางานทุกแห่งทั่วประเทศ รวมถึงได้เปิดเว็บไซต์ M-powered Thailand ศูนย์พัฒนาอาชีพครบวงจรออนไลน์ เพื่อเป็นช่องทางการเรียนรู้เสริมสร้างทักษะเพื่อประกอบอาชีพในยุคดิจิทัลไว้คอยรองรับ ตลอดจนการวางแผนพัฒนากำลังคน เพื่อพัฒนาแรงงานให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงอุตสาหกรรมอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ในปี 2559 ที่ผ่านมากระทรวงศึกษาธิการได้ผลิตคนให้ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงานแล้ว ทั้งนี้ สำหรับคนที่จบออกมาแล้วหากยังไม่มีทักษะฝีมือ กระทรวงแรงงานจะพัฒนาทักษะฝีมือให้สูงขึ้นก่อนเข้าสู่ตลาดแรงงานอีกทางหนึ่ง
“รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้เน้นย้ำว่า ขอให้ภาคเอกชนมั่นใจได้ว่า กระทรวงแรงงานได้วางมาตรการรองรับไว้สำหรับผู้ที่จะเข้าสู่ตลาดแรงงาน โดยเฉพาะนักศึกษาจบใหม่ในเดือนมีนาคมนี้แล้ว ทั้งตำแหน่งงานว่าง ที่สามารถเข้าถึงด้วยระบบสมาร์ทจ็อบแอพลิเคชั่น ส่วนคนที่ยังไม่ได้งานจะมีบริการพัฒนาทักษะฝีมือให้สูงขึ้น สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน”นายอนันต์ชัย กล่าว
Topics:
Share:
Related Articles
SME รู้ทันความเสี่ยง เลี่ยงค่าเงินผันผวน ในโครงการ FX Options
จากการที่ค่าเงินบาทผันผวนไปมา อาจจะทำให้ผู้ประกอบการที่ทำการค้าระหว่างประเทศได้รับผลกระทบ หากตั้งราคาซื้อขายหรือคำนวณต้นทุนผิดพลาด รัฐบาลจึงได้จัดทำ..
อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต แต่งตั้ง โทมัส วิลสัน ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการใหญ่ และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต ประกาศแต่งตั้ง โทมัส วิลสัน ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันช..
บ้านปูจัด “UpImpact” ผลักดันกิจการเพื่อสังคมให้รอดพ้นวิกฤติ ปั้น BC4C กิจการเพื่อสังคมรุ่นต่อไปในปี 2564
บ้านปู จำกัด (มหาชน) สานต่อการทำงานด้านการสนับสนุนกิจการเพื่อสังคม หรือ “Social Enterprise (SE)” ในปี 2563 ผ่านโครงการพลังเปลี่ยนแปลงเพื่อสังคม หรือ..