จับตา 6 เทคโนโลยีเปลี่ยนโลกที่มาแน่ในอีก 5 ปีข้างหน้า
Share:
Text : กองบรรณาธิการ

ตอนนี้เราเดินทางมาถึงยุคเทคโนโลยีที่เต็มไปด้วยอะไรใหม่ๆ ที่ทำให้เราตื่นตาตื่นใจอยู่เสมอ ลองย้อนกลับไปในสมัยก่อน โทรศัพท์ธรรมดาเครื่องใหญ่ที่โทรเข้าโทรออกได้ถูกพัฒนามาจนกลายเป็นสมาร์ทโฟนเครื่องจิ๋วที่ย่อทุกไลฟ์สไตล์ของชีวิตให้สามารถทำทุกอย่างได้บนเจ้าสมาร์ทโฟนเครื่องนี้เครื่องเดียว ในวันนี้เราเลยนำเทคโนโลยีที่จะมาแน่ในอีก 5 ปีข้างหน้าผ่านความคิดเห็นของคนในวงการเทคโนโลยี มาดูดีกว่าว่าพวกเขามองว่าอะไรที่จะมาเป็นเทคโนโลยีเปลี่ยนโลกในอีก 5 ปีนี้

ตอนนี้เราเดินทางมาถึงยุคเทคโนโลยีที่เต็มไปด้วยอะไรใหม่ๆ ที่ทำให้เราตื่นตาตื่นใจอยู่เสมอ ลองย้อนกลับไปในสมัยก่อน โทรศัพท์ธรรมดาเครื่องใหญ่ที่โทรเข้าโทรออกได้ถูกพัฒนามาจนกลายเป็นสมาร์ทโฟนเครื่องจิ๋วที่ย่อทุกไลฟ์สไตล์ของชีวิตให้สามารถทำทุกอย่างได้บนเจ้าสมาร์ทโฟนเครื่องนี้เครื่องเดียว ในวันนี้เราเลยนำเทคโนโลยีที่จะมาแน่ในอีก 5 ปีข้างหน้าผ่านความคิดเห็นของคนในวงการเทคโนโลยี มาดูดีกว่าว่าพวกเขามองว่าอะไรที่จะมาเป็นเทคโนโลยีเปลี่ยนโลกในอีก 5 ปีนี้
1. Chat Bots และ Conversational Interfaces
สำหรับคนแรกที่คลุกคลีในวงการ It และ เทคโนโลยีอย่าง Chalmers Brown ผู้ก่อตั้ง Due ที่เป็น Startup ด้านการเงินที่จะช่วยให้เรื่องของการรับจ่ายเงินในยุคดิจิตอลเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น โดย Chalmers ได้พูดถึงเทคโนโลยีที่กำลังมาแรงในตอนนี้และจะยังยาวไปอีกหลายปีข้างหน้าคือเทรนด์ของ Chat Bots และ Conversational Interfaces ที่เขาได้บอกว่าในตอนนี้ก็เริ่มเป็นเทรนด์และมีผู้ใช้งานมากขึ้นด้วยการให้คอมพิวเตอร์เป็นผู้สื่อสารและตอบโต้กับลูกค้าแทนเรา ซึ่งเจ้าเทคโนโลยีจะเข้ามามีผลต่อการทำงานในชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้นและแม้ว่าจะเริ่มมีผู้ใช้แต่ก็ยังไม่แพร่หลายมากนัก คาดว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าเทคโนโลยีจะมีความเสถียรและเข้ามาช่วยทำธุรกิจแบบเต็มรูปแบบ
2. Virtual Reality
สำหรับเทคโนโลยี Virtual Reality หรือสภาวะเสมือนจริงที่มนุษย์ได้เข้าสู่อีกหนึ่งสภาวะผ่านเทคนิคทางคอมพิวเตอร์ โดย Alexander Kharlamov ผู้ก่อตั้ง Mark43 แอปพลิเคชั่นด้านซอร์ฟแวร์ที่มีความปลอดภัยสูง ซึ่งเขาได้พูดถึงเทคโนโลยี VR นี่ว่าเทคโนโลยีจะเริ่มทำงานเมื่อธุรกิจต่างๆ คิดออกว่าจะสามารถหาเงินจากเทคโนโลยีต่างๆ นี้ได้อย่างไร ซึ่งความจริงดังกล่าวเกิดขึ้นแล้วกับ VR เห็นได้ชัดจากอุตสาหกรรมของหนัง เพลง เกมต่างๆ ที่ใช้ VR เข้ามาพัฒนาธุรกิจ สินค้าและบริการ ให้คนมีส่วนร่วมกับตัวผลิตภัณฑ์มากขึ้น เพิ่มความตื่นตาตื่นใจในการใช้บริการด้วยเทคโนโลยีเสมือนจริง เทคโนโลยีจะมีการพัฒนาไปยังอุตสาหกรรมอื่นๆ และเชื่อว่าจะต้องพัฒนาได้อีกไกลและรวดเร็วมากแน่นอน
3. Driverless Cars
Arash Asli ผู้ก่อตั้ง Yocale เทคโนโลยีที่เอาไว้ให้ลูกค้าทำการจองบริการต่างๆ แบบออนไลน์ เขาได้พูดถึงอีกหนึ่งเทรนด์ที่น่าจับตามองและมาแน่ในอีก 5 ปีข้างหน้าแถมยังส่งผลต่ออุตสาหกรรมรถยนต์มากที่สุดคือเทคโนโลยี Driverless Cars คือการที่รถยนต์สามารถเคลื่อนที่ได้โดยปราศจากคนขับ ซึ่งต้องรอดูต่อไปว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเทรนด์นี้บ้างในวงการธุรกิจ แต่ที่แน่ๆ เลยก็คือรถยนต์ที่ขับเคลื่อนได้อิสระจะไม่ต้องการคนขับรถ เพื่อช่วยประหยัดเวลา นอกจากนี้จะมีรถยนต์ที่ใช้ไฟฟ้ามากขึ้นเพื่อช่วยลดการใช้น้ำมันในอนาคต
4. Serverless Architectures
มาถึงอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่มาแน่คือ Serverless Architectures ที่ต่อไปการทำแอปพลิเคชั่นจะไม่ต้องใช้เซิฟเวอร์ในการรันตลอดเวลา Andrey Neverov ผู้ก่อตั้ง Trucker Path ได้พูดถึงเทคโนโลยีนี้ที่จะช่วยให้คุณลดต้นทุนของการพัฒนาซอฟแวร์ลดลง ซึ่งตอนนี้เทคโนโลยีนี้ยังไม่ได้แพร่หลายมากนักแต่เชื่อว่าต่อไปข้างหน้าจะต้องได้รับความนิยมอย่างแน่นอน
5. Cyber Attacks On IoT Devices
ช่วงที่ผ่านมาบนโลกออนไลน์มีหนึ่งกระแสสำคัญสำหรับผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟนก็คือ Randomware ที่จับไฟล์ในคอมพิวเตอร์ของคุณเป็นตัวประกัน Marcin Kleczynski ผู้ก่อตั้ง Malwarebytes ตัวช่วยในการกำจัดไวรัสและมัลแวร์ต่างๆ ในพอคมพิวเตอร์ให้คุณได้ออกมาพูดถึงเทคโนโลยีที่จะช่วยป้องกันความปลอดภัยบนโลกออนไลน์ว่าในอนาคตจะมีความเสถียรและป้องกันความเสียหายให้แก่ผู้ใช้งานมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายของภัยร้ายจะเน้นไปที่อุปกรณ์แบบรายบุคคลอย่าง Smart phone, Smart Car หรืออุปกรณ์เทคโนโลยีที่คนใช้ในปัจจุบัน ซึ่งบริษัทด้านเทคโนโลยีก็กำลังพัฒนาเพื่อป้องกันไวรัสตรงนี้ให้มากขึ้น
6. Voice Control
เมื่อเราก้าวเข้าสู่ยุค Internet of things แบบเต็มรูปแบบ เทคโนโลยี Voice Control ก็เป็นสิ่งที่จะมาควบคู่กันไป Matthew Russell ผู้ก่อตั้ง Digital Reasoning Systems Inc ได้บอกว่าเสียงเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่ถูกฝังอยู่ในอุปกรณ์ต่างๆ ที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน แต่ต่อไปด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีจะทำให้เราสามารถควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ได้ด้วยการสั่งงานด้วยเสียง อุปกรณ์ต่างๆ จะมีความฉลาดและความซับซ้อนในการทำงาน เรียกได้ว่าในอนาคตเราน่าจะได้เห็นความฉลาดของเจ้าอุปกรณ์ต่างๆ มากขึ้นในชีวิตประจำวันแน่นอน
และนี่ก็เป็นเทคโนโลยีที่มาแน่ในอนาคตอีก 5 ปี สำหรับธุรกิจและผู้ประกอบการต่างๆ ก็คงต้องเริ่มปรับตัวให้ทันกับยุคดิจิตอลที่ขยับตัวอย่างรวดเร็วอยู่ตอนนี้
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
Topics:
Share:
Related Articles
จับตา “Double Disruption” ตัวปลุกเทรนด์ดิจิทัลปี ‘64 กับ 4 เรื่องที่ SME ต้องใช้!
ธุรกิจในตอนนี้กำลังเจอกับ Double Disruptions ซึ่งจะอยู่กับเราต่อไปอีกยาวแม้จะหมดจากโควิดไปแล้วก็ตาม และนี่คือ 9 เทรนด์เทคโนโลยีแห่งอนาคตที่เชื่อมโยง..
ไม่ต้องเก่งทุกอย่างทำทุกฟังก์ชั่น เพราะยุคใหม่เขาชนะกันที่ Data Ecosystem
ทำทุกอย่าง พยายามเก่งมันทุกเรื่อง และคาดหวังว่าทุกสิ่งจะคงอยู่ถาวรตลอดไป ความเชื่อทั้งหมดนี้คือ “หลุมพราง” และช่องว่างมรณะ (The Death Gap) ที่นำพาหล..
Epson ใช้เทคโนโลยีพรินเตอร์ช่วยโลก “Wheel for Wild” ปั่นพิทักษ์ป่า รักษาความยั่งยืนให้สังคมไทย
เอปสัน ประเทศไทย บริษัทฯ ได้ขยายขอบเขตของงานซีเอสอาร์มาด้าน Life on Land จัดกิจกรรม Wheel for Wild เพื่อรณรงค์ให้คนไทยตระหนักถึงความสำคัญในการป้องกั..