เงินสดถอยไป เงินดิจิตอลกำลังมา
Share:

เรื่อง : นเรศ เหล่าพรรณราย
ปัจจุบันการซื้อสินค้าผ่านระบบออนไลน์ตลอดจนการใช้จ่ายผ่านเงินอีเล็กทรอนิกส์ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆและเริ่มเข้ามาแทนที่การใช้เงินสด เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าผู้ประกอบการธุรกิจต้องให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีชำระเงินออนไลน์หรือไม่ใช้เงินสดมากขึ้น
ข้อมูลจากเวบไซท์ Businessinsider.com ระบุว่าในสหรัฐอเมริการูปแบบการชำระเงินเพื่อซื้อสินค้าผ่านโทรศัพท์มือถือมีอัตราการเติบโตที่สูงกว่าการสั่งซื้อสินค้าผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลซึ่งแทบไม่มีการเติบโต โดยมีตัวเลขที่น่าสนใจจากธนาคารกลางสหรัฐคือการใช้เงินสดเพื่อแลกเปลี่ยนสินค้า ซื้อของ มีแนวโน้มลดลงในอนาคตข้างหน้า

โดยปีที่ผ่านมามีการใช้เงินสดหมุนเวียนในระบบ 1.41 ล้านล้านเหรียญ แต่คาดการว่าในปี 2018 จะมีการใช้เงินสดเหลือเพียงแค่ 1.34 ล้านล้านเหรียญ เช่นเดียวกับการใช้เช็คสั่งจ่ายที่คาดว่าจะมีปริมาณใช้งานลดลงเฉลี่ยปีละ 10% ภายใน5ปีจากนี้ โดยวิธีการชำระเงินที่มีแนวโน้มเติบโตในอนาคตตามการคาดการของธนาคารกลางสหรัฐหรือการใช้บัตรเครดิตและเดบิตการ์ด ซึ่งเดือนเมษายนที่ผ่านมามีอัตราการใช้งานที่สูงกว่าการใช้เงินสดเป็นครั้งแรก
ประเด็นสำคัญคือวิธีการชำระเงินด้วยบัตรเดบิตและบัตรเครดิตสัดส่วนกว่า 20% คือการตัดเงินซื้อสินค้าผ่านระบบออนไลน์และคาดว่าจะมีแนวโน้มเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆเฉลี่ยปีละ 15% ขณะที่การใช้บัตรรูดซื้อสิ่งของจะมีการเติบโตในอนาคตเพียงปีละ 4% ทั้งนี้อุปกรณ์ที่ผู้ใช้งานนิยมใช้ในการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์คือสมาร์ทโฟนรองลงมาคือแท๊ปเลต ขณะที่การใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลแทบไม่มีการเติบโต

ขณะเดียวกันสกุลเงินดิจิตอลชื่อดังอย่างบิทคอยนท์กำลังได้รับความนิยมทั่วโลกอย่างต่อเนื่องและมีผู้ประกอบการบางรายโดยเฉพาะภาคธุรกิจดิจิตอล เช่น Zynga ผู้ผลิตเกมส์ชื่อดังได้รับชำระเงินผ่านบิทคอยนท์เต็มตัว แม้ว่าปัจจุบันมูลค่าการใช้บิทคอยนท์ชำระเงินต่อวันจะอยู่เพียงแค่ 58 ล้านเหรียญเทียบกับวีซ่า ผู้ให้บริการบัตรเครดิตระดับโลกซึ่งมีการชำระเงินทั่วโลก 16,158 ล้านเหรียญ แต่ถือได้ว่าบิทคอยนท์เติบโตอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง
อีกด้านหนึ่งกระแสการชำระเงินผ่านระบบดิจิตอลที่กำลังมาแรงคือเทคโนโลยี NFC ปัจจุบันทั่วโลกมีสมาร์ทโฟนที่สามารถใช้เทคโนโลยีดังกล่าวได้อยู่ที่ 400 ล้านเครื่องขณะที่มีการคาดการว่าในปี 2018 จะมีสมาร์ทโฟนเกือบ 1,200 ล้านเครื่อง โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ 33% ขณะที่เครื่องรับชำระเงินด้วยเทคโนโลยี NFC ในปัจจุบันมีอยู่ด้วยกัน 6 ล้านเครื่องทั่วโลก คาดว่าในปี 2018 จะมีเครื่องรับทั้งสิ้น 18 ล้านเครื่อง คิดเป็การเติบโตปีละ 29% อย่างไรก็ตามปัจจุบันไอโฟนยังไม่ได้บรรจุเทคโนโลยีดังกล่าวลงไปแต่อย่างไร NFC จึงจำกัดอยู่ในสมาร์ทโฟนระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์เท่านั้น แต่ยังมีการใช้งานผ่านโมบายแอพพลิเคชั่นหรือโมบายเพย์เมนท์ซึ่งสามารถทดแทนกันได้

หนึ่งในธุรกิจที่เห็นอัตราการใช้จ่ายซื้อสินค้าผ่านโมบายโมบายเพย์เมนท์ ที่เติบโตอย่างชัดเจนคือร้านกาแฟสตาบัคส์โดยไตรมาสที่4ของปี2012 ยังมีสัดส่วนการใช้จ่ายผ่าน NFC เพียง 5% แต่ในไตรมาสแรกของปี 2014 สัดส่วนได้เพิ่มขึ้นมาเป็น 14% และยังมีการคาดการว่าภายในปี 2015 ร้านอาหารในสหรัฐอเมริกาเกินกว่าครึ่งหนึ่งจะมีการใช้จ่ายผ่านโมบายเพย์เมนท์โดยแม็คโดนัลด์กำลังพัฒนาเทคโนโลยีที่ใช้ชำระเงินผ่านโมบายเพย์เมนท์
ไม่เพียงแต่ในสหรัฐอเมริกาแต่แนวโน้มการใช้เงินสดในการชำระสินค้าทั่วโลกยังมีอัตราการเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ยอยู่ที่10% ภายในปี 2018 คาดว่าจะมีการชำระเงินด้วยเทคโนโลยีต่างๆซึ่งไม่ใช่เงินสดกว่า 570,000 ล้านครั้ง เทียบกับปี2013ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ 356,000 ล้านครั้ง โดยจำนวนนี้จะเป็นประเทศเกิดใหม่รวมถึงประเทศไทยที่มีสัดส่วนกว่า 50% ของการจ่ายเงินโดยไม่ใช้เงินสดเนื่องจากผู้คนในประเทศเหล่านี้มีอัตราการใช้งานสมาร์ทโฟนที่สูงขึ้นต่อเนื่อง
กระแสของเงินดิจิตอลที่กำลังมาแรงเป็นโอกาสที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีโดยเฉพาะกลุ่มอีคอมเมิร์ซพัฒนารูปแบบการชำระเงินรูปแบบใหม่เพื่อดึงคนรุ่นใหม่เข้ามาใช้บริการ นอกจากเพิ่มความสะดวกแล้วยังสร้างภาพลักษณ์ความทันสมัยให้กับองค์กรด้วย
Create by smethailandclub.com
Topics:
Share:
Related Articles
จับตา “Double Disruption” ตัวปลุกเทรนด์ดิจิทัลปี ‘64 กับ 4 เรื่องที่ SME ต้องใช้!
ธุรกิจในตอนนี้กำลังเจอกับ Double Disruptions ซึ่งจะอยู่กับเราต่อไปอีกยาวแม้จะหมดจากโควิดไปแล้วก็ตาม และนี่คือ 9 เทรนด์เทคโนโลยีแห่งอนาคตที่เชื่อมโยง..
ไม่ต้องเก่งทุกอย่างทำทุกฟังก์ชั่น เพราะยุคใหม่เขาชนะกันที่ Data Ecosystem
ทำทุกอย่าง พยายามเก่งมันทุกเรื่อง และคาดหวังว่าทุกสิ่งจะคงอยู่ถาวรตลอดไป ความเชื่อทั้งหมดนี้คือ “หลุมพราง” และช่องว่างมรณะ (The Death Gap) ที่นำพาหล..
Epson ใช้เทคโนโลยีพรินเตอร์ช่วยโลก “Wheel for Wild” ปั่นพิทักษ์ป่า รักษาความยั่งยืนให้สังคมไทย
เอปสัน ประเทศไทย บริษัทฯ ได้ขยายขอบเขตของงานซีเอสอาร์มาด้าน Life on Land จัดกิจกรรม Wheel for Wild เพื่อรณรงค์ให้คนไทยตระหนักถึงความสำคัญในการป้องกั..