เช็กด่วน! คุณกำลังกลายเป็น Workaholic หรือไม่?
Share:
Text : ยุวดี ศรีภุมมา

ในชีวิตของทุกคนจะต้องมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ทำให้คุณลุ่มหลงและใช้เวลากับสิ่งนั้นจนลืมสิ่งรอบข้าง แน่นอนว่าสำหรับเหล่า Workaholic คงไม่มีสิ่งใดที่สำคัญไปกว่าได้ใช้เวลาทั้งวันทั้งคืนไปกับการทำงาน คุณอาจคิดว่าการเสพติดการทำงานเป็นสิ่งที่ดีสำหรับชีวิตของคุณ ทั้งที่จริงแล้วการเสพติด ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม มันตามมาด้วยผลร้ายทั้งนั้น เรามาดูกันดีกว่าว่า ตอนนี้คุณกำลังเสพติดการทำงานมากเกินไปหรือเปล่า ด้วยการทำแบบทดสอบด้านล่างนี้
ตอบ Yes ในข้อที่ตรงกับคุณ หรือ No ในข้อที่ไม่ตรงกับคุณ
1. คุณเริ่มใช้เวลาคิดว่าคุณมีเวลาว่างเมื่อไหร่ที่จะใช้มันไปกับการทำงาน
2. คุณเริ่มทำงานมากกว่าหน้าที่ความรับผิดชอบในมือของคุณ
3. คุณเริ่มลืมไปแล้วว่าคุณไปเที่ยวครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่
4. คุณรู้สึกหงุดหงิดทุกครั้งเวลาที่คุณอยู่ในที่อับสัญญาณ เพราะคุณรู้ว่าในอีเมล์มีสิ่งที่คุณต้องจัดการ
5. คุณเริ่มใช้การทำงานเพื่อขจัดอารมณ์เศร้า อารมณ์เบื่อ อารมณ์หงุดหงิดหรือทุกอารมณ์ในแง่ลบ เพราะคุณรู้ว่าการทำงานคือสิ่งที่ช่วยบรรเทาอารมณ์เหล่านี้ได้
6. คุณเริ่มได้ยินคนรอบข้างมาพูดกับคุณว่าให้ทำงานน้อยลงบ้างเถอะ แต่คุณดันคิดว่าพวกเขาไร้สาระ
7. คุณมักจะทำงานจนลืมเวลา พอรู้อีกทีก็เกือบเที่ยงคืนเสียแล้ว
8. บางทีเวลาที่สมองแล่นแล้วคุณรู้สึกว่ามันหยุดไม่ได้จนกว่างานจะเสร็จ
9. คุณเริ่มทำงานหนักมากกว่าคนอื่นแบบไม่รู้ตัว
10. คุณมักจะลืมทานข้าวเป็นประจำ แหม! ก็ทำงานจนเพลินนี่น่า
11. คนในครอบครัวเริ่มเรียกร้องเวลาจากคุณแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
12. คุณรู้สึกมีอารมณ์ฉุนเฉียวในบางครั้งที่มีคนมาขัดจังหวะเวลาทำงาน
13. คุณมักจะตื่นเต้นเวลาที่ได้ทราบข่าวว่าโปรเจ็คใหม่คุณคือคนดูแล
14. คุณลืมทำสิ่งที่คุณเคยชอบ ดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือ ออกกำลังกายเหรอ อย่าหวังเลย
15. ร่างกายคุณเริ่มส่งสัญญาณเป็นนัยๆ แล้วว่ามันกำลังแย่
16. คุณมีความสุขกับสิ่งที่คุณกำลังทำแต่คุณกลับเหงาบ่อยๆ
17. หน้าที่การงานคุณดีแบบก้าวกระโดดแต่บางทีคุณกลับรู้สึกขาดอะไรบางอย่างไป
18. คุณเริ่มนอนค้างที่ทำงานบ่อยครั้ง
19. อาหารโปรดของคุณคือข้าวกล่องแช่แข็ง อาหาร Fast Food กาแฟ Espresso
20. คุณเริ่มตระหนักได้ว่าบางทีคุณก็ทำงานหนักเกินไปแต่คุณไม่รู้จะเอาตัวเองออกจากชีวิตแบบนี้ได้อย่างไร
เฉลยคำตอบ
ถ้าคุณตอบ Yes! มากกว่า 15 ข้อ ‘คุณคือ Workaholic เต็มตัว’
ใช่ คุณนั้นแหละที่เสพติดงานมากเกินไป สำหรับคนเสพติดงานอย่างคุณไม่มีอะไรมาฉุดรั้งให้คุณหยุดทำงานได้จนกว่าที่งานของคุณจะเสร็จลุล่วงหรือจนกว่าร่างกายของคุณจะน็อคและพังไปเอง น่ากลัวใช่ไหมล่ะ ความจริงแล้วการที่คุณเสพติดอะไรมากเกินไปมันส่งผลร้ายต่อร่างกายและชีวิตได้ทั้งนั้นแม้แต่การเสพติดงานก็เถอะ เวลาที่คุณจมอยู่กับการทำงานสิ่งต่างๆ รอบตัวคุณกำลังออกห่างจากคุณไม่รู้ตัว ทั้งชีวิตส่วนตัว ความสัมพันธ์กับคนในครอบครัว กับเพื่อนฝูง รวมไปถึงกับชีวิตเดิมๆ ที่คุณเคยมี คุณจะกลายเป็นคนใหม่ที่เต็มไปด้วย Energy ที่รุนแรงและเคร่งเครียดคุณมักจะโยนอารมณ์ร้ายๆ ใส่คนรอบข้างเสมอเพราะคุณรู้สึกว่าคุณกำลังทำสิ่งที่สำคัญแต่คนรอบข้างไม่เข้าใจและวุ่นวายกับคุณมากเกินไป ทั้งที่พวกเขาเป็นห่วงคุณเอาเป็นว่า ถ้าหากคุณเริ่มรู้สึกตัวว่ากำลังเป็นพวกคนที่เสพติดการทำงานก็ลองถอยกลับมาเป็นคนเดิมดูดีไหม เรามีวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณเลิกเสพติดการทำงานได้
ถ้าคุณตอบ Yes! 8– 15 ข้อ‘คุณกำลังจะกลายเป็น Workaholic’
แน่นอนว่าคุณเป็นคนที่ทุ่มเทกับการทำงานอย่างแน่นอน แต่ต้องระวังเพราะในอนาคตคุณกำลังจะกลายเป็นคนที่เสพติดการทำงานมากจนเกินไปและนั่นอาจทำให้ชีวิตของคุณสั่นคลอนได้อย่างไม่รู้ตัวเลยทีเดียว และเมื่อรู้อย่างนี้แล้วคุณอาจจะเริ่มถอยกลับมามองตัวเองในตอนนี้และพยายามบาลานซ์ตัวเองให้ดียิ่งขึ้น พยายามจัดสรรเวลาตัวเองให้ทำในสิ่งที่คุณชอบ อย่าทุ่มสุดตัวกับการทำงานทั้ง 24 ชั่วโมง ต้องจำเอาไว้ว่า ชีวิตคุณมีแค่ชีวิตเดียว ถ้าคุณพัง องค์กรก็หาคนใหม่มาแทนคุณได้เสมอ เพราะฉะนั้นทำงานสุดตัวได้แค่ในเวลางานเท่านั้น หลังจากนั้นก็ดูแลตัวเอง เพิ่มพลังให้ตัวเอง การทำงานก็จะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ถ้าคุณตอบ Yes! น้อยกว่า 8 ข้อ ‘คุณยังไม่ใช่ Workaholic’
ใครๆ ก็กลายเป็น Workaholic ได้ ถ้าหากคุณปล่อยให้ตัวเองจมไปกับการทำงาน สำหรับคุณแล้ว การทำงานอาจเป็นเรื่องที่คุณกำลังโฟกัสมากที่สุด แต่ยังไม่มีเรื่องที่ต้องห่วงมากนัก แต่ต้องคอยสังเกตตัวเองอยู่เสมอ อย่าปล่อยให้การทำงานครอบงำคุณมากเกินไป สนุกกับการทำงานได้ แต่อย่ากระโดดลงไปทั้งตัว คุณต้องมีเวลาให้ตัวเองได้สนุกและใช้ชีวิตไปพร้อมๆ กัน ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณรู้สึกเครียดกับงานมากเกินไปก็หาเวลาว่างไปพักผ่อนและให้ความสำคัญกับคนรอบข้างบ้าง ชีวิตคุณก็จะมีความสุขแบบพอดีๆ
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

ในชีวิตของทุกคนจะต้องมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ทำให้คุณลุ่มหลงและใช้เวลากับสิ่งนั้นจนลืมสิ่งรอบข้าง แน่นอนว่าสำหรับเหล่า Workaholic คงไม่มีสิ่งใดที่สำคัญไปกว่าได้ใช้เวลาทั้งวันทั้งคืนไปกับการทำงาน คุณอาจคิดว่าการเสพติดการทำงานเป็นสิ่งที่ดีสำหรับชีวิตของคุณ ทั้งที่จริงแล้วการเสพติด ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม มันตามมาด้วยผลร้ายทั้งนั้น เรามาดูกันดีกว่าว่า ตอนนี้คุณกำลังเสพติดการทำงานมากเกินไปหรือเปล่า ด้วยการทำแบบทดสอบด้านล่างนี้
ตอบ Yes ในข้อที่ตรงกับคุณ หรือ No ในข้อที่ไม่ตรงกับคุณ
1. คุณเริ่มใช้เวลาคิดว่าคุณมีเวลาว่างเมื่อไหร่ที่จะใช้มันไปกับการทำงาน
2. คุณเริ่มทำงานมากกว่าหน้าที่ความรับผิดชอบในมือของคุณ
3. คุณเริ่มลืมไปแล้วว่าคุณไปเที่ยวครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่
4. คุณรู้สึกหงุดหงิดทุกครั้งเวลาที่คุณอยู่ในที่อับสัญญาณ เพราะคุณรู้ว่าในอีเมล์มีสิ่งที่คุณต้องจัดการ
5. คุณเริ่มใช้การทำงานเพื่อขจัดอารมณ์เศร้า อารมณ์เบื่อ อารมณ์หงุดหงิดหรือทุกอารมณ์ในแง่ลบ เพราะคุณรู้ว่าการทำงานคือสิ่งที่ช่วยบรรเทาอารมณ์เหล่านี้ได้
6. คุณเริ่มได้ยินคนรอบข้างมาพูดกับคุณว่าให้ทำงานน้อยลงบ้างเถอะ แต่คุณดันคิดว่าพวกเขาไร้สาระ
7. คุณมักจะทำงานจนลืมเวลา พอรู้อีกทีก็เกือบเที่ยงคืนเสียแล้ว
8. บางทีเวลาที่สมองแล่นแล้วคุณรู้สึกว่ามันหยุดไม่ได้จนกว่างานจะเสร็จ
9. คุณเริ่มทำงานหนักมากกว่าคนอื่นแบบไม่รู้ตัว
10. คุณมักจะลืมทานข้าวเป็นประจำ แหม! ก็ทำงานจนเพลินนี่น่า
11. คนในครอบครัวเริ่มเรียกร้องเวลาจากคุณแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
12. คุณรู้สึกมีอารมณ์ฉุนเฉียวในบางครั้งที่มีคนมาขัดจังหวะเวลาทำงาน
13. คุณมักจะตื่นเต้นเวลาที่ได้ทราบข่าวว่าโปรเจ็คใหม่คุณคือคนดูแล
14. คุณลืมทำสิ่งที่คุณเคยชอบ ดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือ ออกกำลังกายเหรอ อย่าหวังเลย
15. ร่างกายคุณเริ่มส่งสัญญาณเป็นนัยๆ แล้วว่ามันกำลังแย่
16. คุณมีความสุขกับสิ่งที่คุณกำลังทำแต่คุณกลับเหงาบ่อยๆ
17. หน้าที่การงานคุณดีแบบก้าวกระโดดแต่บางทีคุณกลับรู้สึกขาดอะไรบางอย่างไป
18. คุณเริ่มนอนค้างที่ทำงานบ่อยครั้ง
19. อาหารโปรดของคุณคือข้าวกล่องแช่แข็ง อาหาร Fast Food กาแฟ Espresso
20. คุณเริ่มตระหนักได้ว่าบางทีคุณก็ทำงานหนักเกินไปแต่คุณไม่รู้จะเอาตัวเองออกจากชีวิตแบบนี้ได้อย่างไร
เฉลยคำตอบ
ถ้าคุณตอบ Yes! มากกว่า 15 ข้อ ‘คุณคือ Workaholic เต็มตัว’
ใช่ คุณนั้นแหละที่เสพติดงานมากเกินไป สำหรับคนเสพติดงานอย่างคุณไม่มีอะไรมาฉุดรั้งให้คุณหยุดทำงานได้จนกว่าที่งานของคุณจะเสร็จลุล่วงหรือจนกว่าร่างกายของคุณจะน็อคและพังไปเอง น่ากลัวใช่ไหมล่ะ ความจริงแล้วการที่คุณเสพติดอะไรมากเกินไปมันส่งผลร้ายต่อร่างกายและชีวิตได้ทั้งนั้นแม้แต่การเสพติดงานก็เถอะ เวลาที่คุณจมอยู่กับการทำงานสิ่งต่างๆ รอบตัวคุณกำลังออกห่างจากคุณไม่รู้ตัว ทั้งชีวิตส่วนตัว ความสัมพันธ์กับคนในครอบครัว กับเพื่อนฝูง รวมไปถึงกับชีวิตเดิมๆ ที่คุณเคยมี คุณจะกลายเป็นคนใหม่ที่เต็มไปด้วย Energy ที่รุนแรงและเคร่งเครียดคุณมักจะโยนอารมณ์ร้ายๆ ใส่คนรอบข้างเสมอเพราะคุณรู้สึกว่าคุณกำลังทำสิ่งที่สำคัญแต่คนรอบข้างไม่เข้าใจและวุ่นวายกับคุณมากเกินไป ทั้งที่พวกเขาเป็นห่วงคุณเอาเป็นว่า ถ้าหากคุณเริ่มรู้สึกตัวว่ากำลังเป็นพวกคนที่เสพติดการทำงานก็ลองถอยกลับมาเป็นคนเดิมดูดีไหม เรามีวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณเลิกเสพติดการทำงานได้
ถ้าคุณตอบ Yes! 8– 15 ข้อ‘คุณกำลังจะกลายเป็น Workaholic’
แน่นอนว่าคุณเป็นคนที่ทุ่มเทกับการทำงานอย่างแน่นอน แต่ต้องระวังเพราะในอนาคตคุณกำลังจะกลายเป็นคนที่เสพติดการทำงานมากจนเกินไปและนั่นอาจทำให้ชีวิตของคุณสั่นคลอนได้อย่างไม่รู้ตัวเลยทีเดียว และเมื่อรู้อย่างนี้แล้วคุณอาจจะเริ่มถอยกลับมามองตัวเองในตอนนี้และพยายามบาลานซ์ตัวเองให้ดียิ่งขึ้น พยายามจัดสรรเวลาตัวเองให้ทำในสิ่งที่คุณชอบ อย่าทุ่มสุดตัวกับการทำงานทั้ง 24 ชั่วโมง ต้องจำเอาไว้ว่า ชีวิตคุณมีแค่ชีวิตเดียว ถ้าคุณพัง องค์กรก็หาคนใหม่มาแทนคุณได้เสมอ เพราะฉะนั้นทำงานสุดตัวได้แค่ในเวลางานเท่านั้น หลังจากนั้นก็ดูแลตัวเอง เพิ่มพลังให้ตัวเอง การทำงานก็จะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ถ้าคุณตอบ Yes! น้อยกว่า 8 ข้อ ‘คุณยังไม่ใช่ Workaholic’
ใครๆ ก็กลายเป็น Workaholic ได้ ถ้าหากคุณปล่อยให้ตัวเองจมไปกับการทำงาน สำหรับคุณแล้ว การทำงานอาจเป็นเรื่องที่คุณกำลังโฟกัสมากที่สุด แต่ยังไม่มีเรื่องที่ต้องห่วงมากนัก แต่ต้องคอยสังเกตตัวเองอยู่เสมอ อย่าปล่อยให้การทำงานครอบงำคุณมากเกินไป สนุกกับการทำงานได้ แต่อย่ากระโดดลงไปทั้งตัว คุณต้องมีเวลาให้ตัวเองได้สนุกและใช้ชีวิตไปพร้อมๆ กัน ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณรู้สึกเครียดกับงานมากเกินไปก็หาเวลาว่างไปพักผ่อนและให้ความสำคัญกับคนรอบข้างบ้าง ชีวิตคุณก็จะมีความสุขแบบพอดีๆ
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
Topics:
Share:
Related Articles
หนาวนี้เที่ยวไหน ชี้จุด 5 สถานที่ท่องเที่ยวเมืองเหนือ ที่อุณหภูมิต่ำกว่า 15 องศา
เตรียมเสื้อกันหนาวตัวหนาๆ แพ็คลงกระเป๋าแล้วตามเรามาเพราะนี่คือสถานที่ท่องเที่ยวที่รับประกันว่าขึ้นไปแล้วจะได้เจอกับอุณหภูมิต่ำกว่า 15 องศาเซลเซียสโด..
บุญก็มาเงินก็มี! รวม 6 เมนูเจ ทำขายง่าย กำไรงาม
เริ่มต้นกันแล้วสำหรับเทศกาลกินเจปี 2563 ซึ่งตรงกับวันที่ 17 - 25 ตุลาคม แม้ปีนี้บรรยากาศอาจดูเงียบเหงากันไปบ้าง เพื่อพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส และเข้ากั..
ใช้บาดแผลและรอยช้ำ ประสบการณ์คนรุ่นเก่า นำพาเราข้ามวิกฤต โดย วัฒนพงษ์ ตั้งร่ำรวย
ประสบการณ์ของคนรุ่นก่อน มักใช้ได้เสมอ สำหรับคนที่นำมาปรับใช้ให้เข้ากับยุคสมัย อย่างน้อยก็เป็นแนวทางการตัดสินใจได้บ้างว่า อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ อะไร..