เรื่อง : ยุวดี ศรีภุมมา
ภาพ : กฤษฎา ศิลปไชย
หากจะพูดถึงตลาดเครื่องดื่มที่กำลังมีการแข่งขันกันสูงมาก คงจะหนีไม่พ้น “เครื่องดื่มชา” ซึ่งนับว่าไม่ง่ายเลยหากจะมีแบรนด์ใหม่ๆเข้ามาหวังแย่งส่วนแบ่งตลาด
แต่กระนั้นก็ยังแบรนด์ชาน้องใหม่อย่าง “โอวชา” (Owcha) หาญกล้าที่จะกระโดดเข้าสู่ปะทะกับรุ่นพี่ โดยชาแบรนด์นี้เป็นของนักแสดงที่คุ้นหน้าค่าตา อย่าง ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์ และ เอมี่ กลิ่นประทุม พร้อมด้วยอีกสองหนุ่มธุรกิจหน้าใหม่ไฟแรง อย่าง วีรชาญ บรรณวิรุฬห์ และ ภูดิท มะโนทัย
ศิวัฒน์เริ่มเล่าถึงเส้นทางแบรนด์ Owacha ว่า พวกเราชอบดื่มชาด้วยกัน คนที่ดื่มชาจะมีความเป็นศิลปะ มีความละเมียดละไม เราไม่ได้ดื่มชาอะไรก็ได้ แต่ชาที่เราดื่มต้องมีคุณค่า ให้ความสดชื่น เป็นคอนเซ็ปต์ที่พวกเราคิดตรงกัน พอเราคิดไปในทิศทางเดียวกันว่าชอบชาแบบที่มีคุณค่า จึงกลายเป็นที่มาว่าเราอยากทำธุรกิจชาแบบนี้
วีรชาญได้กล่าวเสริมต่อด้วยว่า พอได้มีโอกาสไปประเทศจีนและได้ไปชิมชา ซึ่งเป็นชาจับเลี้ยง รู้สึกชอบเป็นอย่างมาก จึงได้นำเอากลับมาเพราะอยากที่จะพัฒนาสูตรเป็นของตัวเอง โดยได้ไปขอซื้อสูตรจากแถวเยาวราช แล้วลองเอามาทำ แต่ปรากฏว่าดื่มไม่ได้ เพราะพอต้มเสร็จ ต้องดื่มเลยถึงจะอร่อย แต่จะให้ต้มชาขายแบบนี้คงขายไม่ได้ ประกอบกับเจ้าอื่นๆ ในตลาดเริ่มชัดเจนกับตลาดชามากขึ้น ดังนั้น จำเป็นที่จะต้องหาจุดเด่นและดึงออกมา นั่นคือความเป็น “ชาพาสเจอไรซ์” ซึ่งมีรสชาติที่แตกต่างนั่นเอง
สำหรับไอเดียธุรกิจชานี้เกิดขึ้นเมื่อเกือบ 2 ปีที่แล้ว หลังจากที่มีการพัฒนาสูตรร่วมกับโรงงาน จนกระทั่งเมื่อปลายปี 2557 แบรนด์ Owcha ก็ได้ฤกษ์เปิดตัวให้ผู้บริโภคได้รู้จัก พร้อมๆ กับชา 3 รสชาติ นั่นคือ ชาสมุนไพร ชาอูหลง 100 เปอร์เซ็นต์ และชาขาวเมล่อน
ถึงตรงนี้ ภูดิทได้กล่าวขยายความถึงคอนเซ็ปต์ของชาพาสเจอไรซ์ว่า จากตอนแรกที่เราใช้ใบชาต้มสดแตกต่างจากชาทั่วไปที่มักใช้ผงชา ก็เพราะต้องการที่จะเก็บความหอม สดชื่น และคุณค่าของชาไว้ ด้วยเหตุนี้เอง ที่ทำให้เราตัดสินใจทำแบบพาสเจอไรซ์เพื่อถนอมคุณค่าของชา ด้วยการเอาชาไปต้มประมาณ 95 องศา ไม่นานมาก จากนั้นจึงเอาไปน็อกในน้ำเย็นจัดเพื่อเกิดอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงเร็ว หลังจากนั้นก็นำไปแช่เย็นไว้ พอดื่มแล้วจะได้ความสดชื่น ความหอมที่ยังคงอยู่ และที่สำคัญคือคุณค่าของชายังอยู่ครบถ้วน
อีกหนึ่งจุดเด่นของแบรนด์ Owcha นั่นคือ ชาขาวเมล่อน ที่มีรสชาติหวานหอมของเมล่อน ดื่มง่าย ได้คุณค่าของชาอย่างครบครัน อีกทั้งยังแตกต่างจากของเดิมที่มีอยู่ในตลาด กลายเป็นทางเลือกใหม่ของผู้บริโภคที่เข้ามาลิ้มลอง แบรนด์ Owcha จึงใช้ความแตกต่างนี้เป็นจุดขายและใช้ชาขาวเมล่อนเป็นตัวชูโรง และเพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น จึงมุ่งเน้นกระจายสินค้าผ่านช่องทางร้านสะดวกซื้อ
อย่างไรก็ดี ศิวัฒน์เล่าเสริมว่า หลังจากที่ตัดสินใจเปิดตัวแบรนด์ Owcha ออกสู่ตลาดครั้งแรกเมื่อปลายปี 2557 เบื้องต้นตั้งใจเพียงแค่เข้ามาทดลองตลาดก่อน แต่ผลตอบรับกลับดีกว่าที่คาดไว้ แต่ด้วยความที่แบรนด์ใหม่ และเป็นธุรกิจเล็กๆ ซึ่งเปรียบได้กับรถจักรยานคันเล็กที่ปั่นบนถนนสายใหญ่ โอกาสที่จะแข่งขันจึงไม่ง่ายนัก ดังนั้น วิธีในการทำการ ตลาดของแบรนด์ Owcha จึงเป็นลักษณะกองโจร เช่น การไปออกบู๊ธ เพื่อให้คนได้รู้จัก หรือได้ลองชิม เพื่อช่วยในการโปรโมตแบรนด์
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องยอมรับว่ายังไม่ได้มีการทำการตลาดอย่างจริงจัง จนกระทั่งเริ่มมีคนเข้ามาถามว่า จะหาซื้อได้จากที่ไหน เพราะที่ผ่านมาจะหาซื้อค่อนข้างยาก จุดนี้เองทำให้คิดว่า คงถึงเวลาแล้วที่จะต้องมีการกระจายสินค้าให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น โดยผ่านร้านสะดวกซื้อ อย่าง เซเว่น อีเลฟเว่น จำนวน 4,000 สาขาในกรุงเทพฯ และปริมณฑลก่อน จากนั้นค่อยขยายเพิ่มไปเรื่อยๆ ในอนาคต
และด้วยความที่ศิวัฒน์และเอมี่ เป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียง ถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างหนึ่งในการประชาสัมพันธ์ของแบรนด์ Owcha ให้เป็นที่รู้จักได้ง่ายขึ้น ในเรื่องนี้ เอมี่ ซึ่งรับหน้าที่เป็นดูแลในด้านการตลาดและการประชาสัมพันธ์ ได้กล่าวว่า
“การที่เรามีสื่ออยู่ในมือ มีเพื่อนฝูงและคนรู้จักเยอะ เป็นข้อได้เปรียบที่ช่วยเราได้เยอะมาก เวลาเราออกบู๊ธตามห้างต่างๆ จุดแข็งของเราคือ เราลงมือเอง เราลงพื้นที่เอง คนก็จะให้ความสนใจมากกว่า และการที่เราออกบู๊ธ ไปโรดโชว์ ทำให้คนได้ลองชิมสินค้า พอเขาชอบแล้วเขาก็กลับมาซื้อเอง อีกอย่างคือการที่เราเป็นเจ้าของสินค้าเอง รู้จักสินค้า เราก็สามารถบอกเขาได้ว่าของเราดีอย่างไร อร่อยอย่างไร”
สำหรับเป้าหมายในอนาคตของแบรนด์ Owcha ผู้บริหารทั้ง 4 คนตั้งเป้าไว้ว่าจะขยายสินค้าไปทั่วประเทศ และเตรียมพร้อมที่จะนำสินค้าแบรนด์ Owcha ออกสู่ตลาดโลก ซึ่งขณะนี้ได้วางแผนที่จะขยายตลาดในกลุ่มอาเซียนก่อน
จากจุดเริ่มต้นด้วยความชอบที่ตรงกัน ทำให้แบรนด์ Owcha ถูกปลุกปั้นขึ้นมาด้วยความใส่ใจและความพิถีพิถัน พร้อมทั้งค่อยๆ เติบโตเข้าสู่เส้นทางของตลาดชาที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน และด้วยความมุ่งมั่นของผู้บริหารทั้ง 4 คน แบรนด์ Owcha น่าจะกลายเป็นชาที่เข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภคได้อย่างไม่ยาก
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
