Archita Hostel ขายประสบการณ์ใหม่มัดใจลูกค้า




TEXT : กองบรรณาธิการ
PHOTO : Archita Hostel 


     เชียงใหม่ นับเป็นหนึ่งในเมืองยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ด้วยเหตุนี้ทำให้มีที่พักสไตล์ใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะธุรกิจโฮลเทล ที่ต่างแข่งขันกันด้วยดีไซน์ความคิดสร้างสรรค์ ใครสามารถสร้างความแตกต่างได้มากกว่า ก็จะเป็นที่พูดถึงและถูกจดจำจากลูกค้า 






    

    เช่นเดียวกับ Archita Hostel ที่พักเล็กๆ มีจำนวนแค่ 4 ห้อง ของ อาชิรญาณ์ แก้วกัญญา หรือที่เพื่อนๆ ชอบเรียกสั้นๆ ว่า “อชิ” ดารานักแสดงสาวที่ผันตัวเองใช้เวลาในวันว่างจากงานมาสร้างโฮลเทลเล็กๆ ตามฝันของตัวเองที่เปิดดำเนินการเมื่อต้นปี 2559 ที่ผ่านมา โดยใช้ความชื่นชอบและหลงใหลในวิถีชีวิตกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่น เธอจึงหยิบเอาความชื่นชอบดังกล่าวมาเป็นคอนเซปต์ในการสร้างโฮลเทลเล็กๆ ของตัวเองขึ้นมา ตั้งแต่การออกแบบโครงสร้าง การตกแต่ง รวมไปถึงที่นอน หมอน ผ้าห่ม ถ้วยจานชามต่างๆ ที่ใช้ภายในโรงแรมจำลองเสมือนหนึ่งอยู่ที่ญี่ปุ่น


 

   


    ไม่เพียงเท่านั้นยังได้สร้างกิมมิกเล็กๆ ขึ้นมาให้กับที่พัก โดยการหยิบยกเอาชุดยูกาตะที่เป็นของสะสมส่วนตัวมาสร้างเป็นบริการสุดพิเศษสำหรับลูกค้าที่เข้ามาพัก โดยการใช้เป็นอุปกรณ์อีกชิ้นหนึ่งที่มอบเพิ่มเติมให้กับลูกค้า นอกเหนือไปจากผ้าเช็ดตัว สบู่ ยาสีฟัน สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อสร้างประสบการณ์แปลกใหม่เสมือนหนึ่งได้สัมผัสความเป็นญี่ปุ่นมากยิ่งขึ้น



     

    อาชิรญาณ์ เล่าว่า หลังจากเช็กอินแขกทุกคนที่เข้าพักจะได้รับแจกชุดยูกาตะหนึ่งชุด เพื่อไว้ใช้สวมใส่อยู่ภายในโรงแรม โดยจะใส่เมื่อไหร่ก็ได้ ใส่ถ่ายรูปเล่นยังไงก็ได้ แต่มีกฎกติกาน่ารักๆ ไว้ว่าในตอนเช้าที่เข้าไปรับประทานแทนที่จะถือคูปองไปแสดง เพื่อเข้าไปรับประทานอาหาร ก็จะให้ผู้เข้าพักสวมชุดยูกาตะไปแทน ด้วยกิมมิกเล็กๆ ที่เธอวางไว้นี่เอง ทำให้ในเวลาเพียงไม่นาน ชื่อของอาชิตะ โฮลเทล กลับกลายเป็นอีกหนึ่งที่พักที่หลายคนต่างตั้งใจแวะเวียนเข้ามาหาหากได้มีโอกาสมาเยือนเชียงใหม่ เพราะอยากสัมผัสกับประสบการณ์แปลกใหม่อยู่เมืองไทย แต่ก็เหมือนได้ไปญี่ปุ่น






    ไม่เพียงแต่ลูกค้าที่เข้าพักเท่านั้นที่จะได้รับสิทธิพิเศษลองสวมใส่ชุดยูกาตะ ในช่วงเย็นของทุกวันยังเปิดบริการห้องอาหารฟิวชั่นไทย-ญี่ปุ่น เพื่อรองรับลูกค้าด้านนอกเพิ่มเติม โดยทุกคนที่เข้ามารับประทานก็จะได้สวมใส่ชุดยูกาตะ ซึ่งรวมอยู่กับค่าอาหารเครื่องดื่มที่คิดเป็นเซ็ตไว้อยู่แล้ว 




 

     “เราต้องการสร้างกิมมิกให้กับโรงแรม และยังเป็นการสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้ด้วย ซึ่งถ้าเราเป็นลูกค้า เราเองก็คงอยากพักในที่ที่แบบมีกิมมิกเล็กๆ อะไรแบบนี้ ได้ร่วมสนุกกับเพื่อนๆ ได้แชร์พื้นที่กัน ได้ถ่ายรูปเล่น และยังได้รู้จักเพื่อนใหม่ เหมือนเป็นอีกกิจกรรมสนุกๆ ที่ได้มาทำเมื่อมาเชียงใหม่ นอกจากนี้ ยังเหมือนเป็นการสร้างแบรนด์ไปในตัวด้วย เพราะเวลาเห็นรูปที่ลูกค้าเอาไปโพสต์ นอกจากช่วยดึงดูดให้คนอื่นๆ ได้อยากลองมาบ้างแล้ว ก็ทำให้เขาจดจำได้ว่า ถ้าอยากใส่ชุดยูกาตะต้องมาที่อาชิตะ โฮลเทล ไม่ต้องบินไปไกลถึงญี่ปุ่น มาแค่เชียงใหม่ก็ได้ใส่แล้ว”



   

    อาชิรญาณ์ บอกด้วยว่า กลยุทธ์ที่เธอใช้นั้นเรียกว่า สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ที่มักจะชื่นชอบและมองหาประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับชีวิตเสมอ จะเห็นได้ว่าทุกวันนี้คนเสพสื่อโซเซียลมีเดียกันมากขึ้น ใครไปที่ไหนใหม่ๆ หรือได้กินอะไรแปลกๆ ก็จะชอบอัพรูปอวดกัน ดังนั้นการสร้างคาแร็กเตอร์ หรือหากิมมิกที่น่าสนใจให้กับธุรกิจเพื่อสร้างความแตกต่าง หรือสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับลูกค้าได้ นั่นคือโอกาสของผู้ประกอบการในเวลานี้


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

 

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

ชวพล ลีพิพัฒน์ไพบูลย์ อดีตวิศวกรผู้หมดไฟ สู่เจ้าของ Shindo Ramen ร้านราเมนเล็กๆ ที่ได้ไปยืนอยู่ในพิพิธภัณฑ์ที่ญี่ปุ่น

โจ-ชวพล ลีพิพัฒน์ไพบูลย์ อดีตวิศวกรที่ผันตัวเองจากภาวะ Burnout ในชีวิตการทำงาน มุ่งหน้าสู่ญี่ปุ่น ใครจะคิดว่าจากการตัดสินใจในวันนั้นจะนำพาเขาเข้าสู่โลกของราเมน อาหารต้นตำรับของญี่ปุ่น ที่ได้สร้างโอกาสให้กับชีวิตมากมาย

Nori เตารีดไอน้ำมินิมอล ธุรกิจที่เริ่มจากความหงุดหงิด แต่สร้างรายได้ 20 ล้านดอลลาร์

เพราะความหงุดหงิด กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจ Nori เตารีดไอน้ำมินิมอล ที่สร้างรายได้กว่า 20 ล้านดอลลาร์ในเวลาเพียง 4 ปี

“เบบี้แอนด์มัม”  จาก pain point คนมีลูกยาก  สู่แบรนด์ที่ทำรายได้กว่า 783 ล้านบาท

จากความเจ็บปวดสู่ธุรกิจพันล้าน เมื่อผู้ก่อตั้งเผชิญภาวะมีบุตรยากด้วยตัวเอง กลับพลิก Pain Point ให้เป็นโอกาสด้วย กลยุทธ์ Education-driven จนสร้างรายได้กว่า 783 ล้านบาท นี่คือเรื่องราวของ “เบบี้แอนด์มัม”