มีอะไรน่าสนใจในธุรกิจเกม ตลาดนี้ถึงยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง จนขยับมูลค่าตลาดรวมไปถึงกว่าหมื่นล้านบาทต่อปี โดยแบ่งเป็นเกมพีซีประมาณ 50% เกมมือถือ 30% และเกมคอนโซลหรือเกมที่ต้องเล่นผ่านเครื่องเล่นอีก 20%
ปริญญา เผือนพิพัฒน์ ผู้ก่อตั้ง “Nadz Project” ศูนย์รวมเครื่องเล่นเกมและอุปกรณ์เกมคอนโซล และ “NGIN” ตัวแทนจำหน่ายสินค้าลิขสิทธิ์เกม ของ Sony Entertainment และ UBISOFT แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ผู้นำในตลาดเกมคอนโซลของบ้านเรา บอกเล่าความน่าสนใจให้ฟังว่า เกมกลายเป็นแหล่งความบันเทิงของคนยุคนี้ โดยมีงานวิจัยพบว่า คนเล่นเกมเป็นอันดับ 3 รองจาก เฟซบุ๊ก และยูทูบ บวกกับการมีอินเตอร์เน็ต ที่ทำให้โลกของเกมไม่จำเป็นต้องเล่นคนเดียวอีกต่อไป แต่สามารถเล่นออนไลน์เชื่อมโยงกับคนทั้งโลกได้ กลายเป็นความสนุกของเกมที่เกิดขึ้นในยุคนี้ ส่งอานิสงห์ให้จำนวนคนเล่นเกมเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“วันนี้มีหลายๆ ธุรกิจที่เกิดขึ้นตามการเติบโตของตลาดเกม อย่าง ภาพยนตร์ฮอลลีวูด เมื่อก่อนเราจะเห็นว่าเขาเอาหนังมาทำเกม แต่เดี๋ยวนี้มีการเอาเกมไปทำหนังแล้ว นั่นแปลว่าฐานแฟนของคนเล่นเกมมีเยอะมาก แล้วความคลั่งไคล้ต่างกัน โดยคนไปดูหนังอาจมีความสุขแค่สองชั่วโมงที่เขาดู หรือไม่ก็ไปตามดูหนังไตรภาค แต่กับเกมเมอร์ เขาจะเก็บทุกอย่างที่เกี่ยวกับเกม ฉะนั้นจึงเป็นโอกาสของสินค้าต่างๆ ที่จะทำเงินกับคนเล่นเกมได้ นี่คือความน่าสนใจที่เกิดขึ้น”
จากความคลั่งไคล้ในเกมของเหล่าเกมเมอร์ นำมาสู่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องอีกเยอะมาก ตั้งแต่ สินค้าพื้นฐานอย่างแผ่นเกมและเครื่องเล่นเกม อุปกรณ์เสริมต่างๆ สำหรับคอเกม มาสู่กลุ่มสินค้าและของสะสม ดิจิทัลโค้ด หรือตัวเงินสำหรับใช้ซื้อของในเกม สินค้าที่ทำออกมาพิเศษสำหรับเกมเมอร์โดยเฉพาะ เช่น ทีวี โทรศัพท์มือถือ และโน้ตบุ๊กสำหรับเกมเมอร์ สินค้าต่อเนื่อง เช่น เคสโทรศัพท์ สติกเกอร์ไลน์ สำหรับสาวกเกมต่างๆ แม้แต่ SME หรือคนที่มีไอเดีย ก็สามารถหาโอกาสจากตลาดคนคลั่งเกมได้ เช่น ทำสินค้าที่มาช่วยแก้ปัญหาให้กับคนเล่นเกม อย่าง ถุงกันแมลงสาป กันฝุ่น สำหรับคลุมเครื่องเล่นเกม PlayStation เป็นต้น
ที่น่าสนใจคือการเกิดอาชีพใหม่อย่าง นักแคสเกม (cast game) หรือคนเล่นเกมและคอยพากย์บรรยายความรู้สึกขณะเล่นไปด้วย แล้วอัดคลิปเผยแพร่บนออนไลน์ ซึ่งหลายคนที่ประสบความสำเร็จมียอดผู้ติดตามเป็นล้านคน และมีอิทธิพลกับเหล่าเกมเมอร์เอามากๆ โดยกลุ่มนี้กำลังได้รับความสนใจจากแบรนด์ต่างๆ ชนิดที่ค่าตัวในการจ้างออกงานแต่ละครั้งสูงถึงระดับ 6 หลักเลยทีเดียว
นี่คือตัวอย่างโอกาสที่เกิดจากการเติบโตของคนเล่นเกม ซึ่งผู้บริหารหัวใจเกมเมอร์บอกเราว่า ตลาดนี้ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในทิศทางเดียวกับต่างประเทศ ที่ปัจจุบันเกมได้กลายเป็นอุตสาหกรรมซึ่งทำเงินมากที่สุดสูงกว่าอุตสาหกรรมภาพยนตร์ด้วยซ้ำ ขณะที่ไลฟ์สไตล์การเล่นเกมของคนยุคนี้ก็มีการใช้เงินมากขึ้น เขายกตัวอย่างเกมคอนโซล ที่ในอดีตผู้เล่นอาจซื้อแผ่นเกมใหม่ 2-3 เดือน ต่อ 1 แผ่น แต่วันนี้ อย่างน้อยเดือนละ 2 แผ่น ทั้งยังมีการใช้เงินกับสินค้าอื่นๆ ที่เกี่ยวกับเกมมากขึ้นด้วย รวมถึงการที่คนเล่นเกมไม่สามารถเล่นแผ่นก็อปได้อีก ต้องซื้อแผ่นแท้เท่านั้น ค่ายเกมต่างๆ จึงเริ่มให้ความสนใจกับตลาดประเทศไทย ซึ่งเหล่านี้ล้วนส่งอานิสงห์ให้ธุรกิจเกมบ้านเรายังคงเติบโตคึกคัก กลายเป็นโอกาสหวานๆ ที่ SME ไม่ควรมองข้าม
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
