กสอ.เดินหน้าพัฒนาการผลิต OTOP คัด 30 ต้นแบบพร้อมแข่งขันในตลาดอุตสาหกรรมสีเขียว




    กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) นำร่องคัด 30 ผู้ประกอบการ OTOP ต้นแบบ จากทั่วประเทศ ที่มีศักยภาพด้านระบบการผลิต พร้อมสู่การเป็นอุตสาหกรรมสีเขียว เพื่อรองรับการแข่งขันระดับสากล  พร้อมมอบรางวัลเพื่อเชิดชูเกียรติให้กับผู้ประกอบการต้นแบบ ณ ศูนย์การแสดงสินค้า อิมแพค เมืองทองธานี

     นายเพทาย ล่อใจ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมชุมชน กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้ก้าวข้ามผ่านการเป็นประเทศที่มีรายได้ระดับปานกลาง ไปสู่ประเทศที่มีรายได้ระดับสูงในอนาคต ด้วยนโยบาย Thailand 4.0 ของภาครัฐ ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดนั้น วิสาหกิจขนาดใหญ่ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) รวมถึงวิสาหกิจชุมชน (OTOP) ล้วนมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ เพราะถือเป็นกลไกหลักในการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้เกิดการขยายตัว ทั้งการเพิ่มรายได้ของประเทศ สนับสนุนให้เกิดการจ้างงาน การพัฒนาทักษะของบุคลากร รวมถึงการส่งเสริมการพัฒนาทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมในระดับสูง 

     และเพื่อให้สอดรับกับนโยบายดังกล่าว กระทรวงอุตสาหกรรม โดยสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมชุมชน กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ซึ่งมีพันธกิจหลักในการพัฒนา ส่งเสริมผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม ด้านทักษะการผลิต ได้เล็งเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิตของผู้ประกอบการ OTOP ที่ก่อให้เกิดปัญหาต่อสิ่งแวดล้อมอันเนื่องมาจากขาดความรู้ในการลดของเสียในกระบวนการผลิตและกระบวนการนำของเหลือใช้มาสร้างมูลค่าเพิ่มได้ใหม่ จึงได้จัดทำ “โครงการพัฒนาการผลิตและผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ประจำปี 2560” ขึ้น เพื่อให้ผู้ประกอบการ OTOP สามารถพัฒนากระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ทั้งในด้านการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าและยกระดับผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและสร้างโอกาสในการแข่งขันและเข้าถึงและได้ประโยชน์จากกลไกตลาดสีเขียวมากขึ้นทั้งในและต่างประเทศโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในชุมชน 

     โครงการพัฒนาการผลิตและผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมนี้ ได้เริ่มดำเนินโครงการมาตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา โดย กสอ. ได้ลงพื้นที่จัดอบรมให้ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน กับผู้ประกอบการ OTOP ทั้ง 4 ภูมิภาคทั่วประเทศ ซึ่งมีผู้ประกอบการให้ความสนใจเข้าร่วมกว่า 500 ราย คัดเลือกเหลือ 200 ราย และลงพื้นที่ดูกระบวนการผลิต พร้อมให้คำปรึกษาเชิงลึกโดยกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอีกครั้ง จนได้เป็นผู้ประกอบการ OTOP ต้นแบบ 30 รายในวันนี้ โดยแบ่งเป็น 5 ประเภท คือ อาหาร, เครื่องดื่ม, ผ้าและเครื่องแต่งกาย, ของใช้ของประดับตกแต่งและของที่ระลึก, สมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร 

     สำหรับเกณฑ์ในการคัดเลือกผู้ประกอบการ OTOP นั้นจะต้องผ่านเกณฑ์การผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 5 ตัวชี้วัด คือ (1.) การดำเนินการกำหนดนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม, (2.) การจัดทำแผนด้านสิ่งแวดล้อม,  (3.) การนำแผนงานด้านสิ่งแวดล้อมไปปฏิบัติให้เกิดประสิทธิผล, (4.) การติดตามประเมินผล และ (5.) การทบทวนและรักษาระบบ โดยผู้ประกอบการจะได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติจาก กสอ. ดังนี้

     รางวัลผู้ประกอบการดีเด่นด้านการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของกลุ่มผลิตภัณฑ์แต่ละประเภท จำนวน 5 รางวัล ดังนี้
-ประเภทอาหาร : วิสาหกิจชุมชนบ้านเนินดินแดง จังหวัดชลบุรี
-ประเภทเครื่องดื่ม : วิสาหกิจชุมชนแปรรูปอาหารและน้ำผลไม้ท่ามะขาม จังหวัดกาญจนบุรี
-ประเภทผ้าและเครื่องแต่งกาย : กลุ่มผ้าบาติกตำบลวัดสุวรรณ จังหวัดชลบุรี
-ประเภทของใช้ของประดับตกแต่งและของที่ระลึก : จักสานไม้ไผ่กลุ่มโรงเรียนวังหลังวิทยาคม จังหวัดสระแก้ว
-ประเภทสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร : อนัญญามะพร้าว จังหวัดตราด

     รางวัลผู้ประกอบการดีมากด้านการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของกลุ่มผลิตภัณฑ์แต่ละประเภท ประเภทละ 2 รางวัล รวมจำนวน 10 รางวัล

     รางวัลผู้ประกอบการดีด้านการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของกลุ่มผลิตภัณฑ์แต่ละประเภท ประเภทละ 3 รางวัล รวมจำนวน 15 รางวัล  

     นอกจากรางวัลดังกล่าวแล้ว ผู้ประกอบการ OTOP ทั้ง 30 รายนี้ ยังมีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ในความดูแลของกระทรวงอุตสาหกรรม อาทิ การฝึกอบรม สัมมนา การให้คำปรึกษา แนะนำเชิงลึก และยังได้สิทธิพิเศษในการออกบูธ แสดงสินค้าร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรมอีกด้วย

     อย่างไรก็ดี สำนักพัฒนาอุตสาหกรรมชุมชน ยังจะเดินหน้าพัฒนาผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะวิสาหกิจชุมชน (OTOP) ซึ่งมีมากกว่า 40,000 รายทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการที่มีอยู่แล้วให้มีความเข้มแข็ง และยังต้องสร้างผู้ประกอบการรายใหม่ที่มีคุณภาพในภูมิภาคต่างๆ สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจซึ่งเป็นแนวนโยบายมุ่งเน้นการกระจายรายได้และลดความเหลื่อมล้ำผ่านการดำเนินโครงการต่างๆ ภายใต้งบประมาณที่รัฐบาลจัดสรร และที่สำคัญที่สุดก็คือ ทุกอุตสาหกรรมจะต้องสร้างมูลค่าเพิ่มและยกระดับอุตสาหกรรมสู่มาตรฐานสากล โดยปรับตัวเป็น "อุตสาหกรรมสีเขียว" (Green Industry) เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development) สอดคล้องกับการลงทุนในปัจจุบัน คือต้องเป็น "การลงทุนสีเขียว" (Green Investment) 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

จับตาผลกระทบการค้าชายแดนไทย เส้นทางธุรกิจแม่สอดเปลี่ยนเป็นสนามรบ

กับสถานการณ์การสู้รบในเมียนมาใกล้ชายแดนไทยยังคงร้อนระอุนับตั้งแต่กองกำลังกะเหรี่ยง KNU และกองกำลังปกป้องประชาชน PDF “เข้ายึดฐานปฏิบัติการ 275 ในเมียวดี” ส่งผลต่อกระทบเส้นทาง “แนวระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก (East-West Economic Corridor-EWEC)” ของไทย

ทำธุรกิจซัก-รีด ยังไงให้มีรายได้สาขาละแสน ล้วงความลับกับเจ้าของแบรนด์ ตั้งใจซัก

หนึ่งในธุรกิจที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “เสือนอนกิน” นั้นต้องมีธุรกิจเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญติดในลิสต์เป็นอันดับต้นๆ ทำให้ธุรกิจนี้เติบโตเป็นพิเศษโดยเฉพาะในช่วงโควิดที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการที่สนใจเปิดธุรกิจนี้มากมาย แต่ถึงแม้จะเป็นธุรกิจเสือนอนกิน ใช่ว่าทุกคนจะเป็นเสือที่ได้กินธุรกิจนี้ง่ายๆ

Erabica Coffee ผู้ปักหมุด กาแฟน่าน ให้เป็นที่รู้จักระดับประเทศ

นี่คือสองสามีภรรยา ที่อยากมาใช้ชีวิตบั้นปลายที่น่าน คิดสร้างแบรนด์กาแฟของตัวเองขึ้นมาในชื่อ Erabica (เอราบิก้า) กลายเป็นการยกระดับกาแฟน่านเป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น