จับแคบหมูมาใส่นวัตกรรม ความอร่อยล้ำๆ แบบ 2 in 1







     เมื่อมีผู้เล่นมากมายอยู่ในตลาดโดยเฉพาะในเชียงใหม่ ทำให้แคบหมูในตำนานแบรนด์แม่แช่มที่มีอายุมากกว่า 40 ปี ต้องสรรหาความแตกต่างโดยการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาเป็นตัวช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค


     จิรทีปต์ วัฒน์ทวีพรหม ผู้เข้ามาสานต่อแบรนด์แคบหมูแม่แช่ม บอกว่า สิ่งสำคัญที่เราต้องคิด คือการสร้างความแตกต่างให้ฉีกจากผู้เล่นอื่นๆ ที่แค่เฉพาะในจังหวัดเชียงใหม่ก็มีร้านขายแคบหมูกว่าร้อยเจ้าแล้ว จึงเป็นที่มาของการคิดตัวโปรดักต์ใหม่ๆให้ออกมาตอบโจทย์ตลาด





     “แคบหมูรสน้ำพริกหนุ่ม เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ทางเราคิดขึ้นมาและอยู่ในช่วงของการทดลองตลาด เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของลูกค้าและเพิ่มความสะดวกสบายเวลาจับจ่าย โดยไอเดียของโปรดักต์ตัวนี้นั้นมาจากการที่แบรนด์ต้องการขายน้ำพริกหนุ่มคู่กับแคบหมู ด้วยความที่แคบหมูเป็นของแห้งและน้ำพริกหนุ่มเป็นของเปียกเลยทำให้การวางขายนั้นต้องแยกกัน โดยปกติของการจัดโซนสินค้าภายในห้างน้ำพริกหนุ่มและแคบหมูจะถูกวางขายในโซนที่ต่างกัน หรือถ้าเป็นตามร้านต่างๆ น้ำพริกหนุ่มจะถูกแช่เย็นและวางขายในตู้เย็น ซึ่งเวลาที่ลูกค้าไปซื้อแคบหมูแล้วก็ต้องวิ่งไปซื้อน้ำพริกหนุ่มอีกที เราเลยคิดว่าจะทำยังไงให้ผลิตภัณฑ์ทั้งสองสามารถวางขายคู่กันได้จึงเป็นที่มาของการทำแคบหมูรสน้ำพริกหนุ่มให้ผู้บริโภคสามารถกินแคบหมูแล้วได้รสชาติของน้ำพริกหนุ่มไปในขณะเดียวกัน”


     โดยทางแบรนด์คาดหวังว่าผลิตภัณฑ์ตัวใหม่จะถูกใจผู้บริโภคโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชอบความแตกต่างและความสะดวกสบายที่จับต้องได้





     นอกจากแคบหมูรสน้ำพริกหนุ่มแล้ว ทางแบรนด์ยังมีการใช้เทคโนโลยี Freeze Dry หรือการอบแห้งแบบแช่เยือกแข็งเข้ามาใช้ในการทำน้ำพริกหนุ่มอบแห้งอีกด้วย โดยได้ทาง ผศ.ดร.สุจินดา ศรีวัฒนะ คณบดีคณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เข้ามาวิจัยและเป็นที่ปรึกษาในการผลิตโปรดักต์ตัวนี้


     “โดยปกติน้ำพริกหนุ่มที่ขายกันนั้นมีอายุการเก็บรักษาแค่เพียง 1 วัน เพราะฉะนั้นผู้ประกอบการส่วนใหญ่จึงมีการใส่วัตถุกันเสียทั้งนั้นและบางทีอาจจะใส่เกินมาตรฐานซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค หรืออย่างในส่วนของการบรรจุน้ำพริกหนุ่มลงในขวดแก้วโดยใช้การสเตอริไลส์หรือการฆ่าเชื้อนั้น อาจทำให้น้ำพริกหนุ่มมีรสชาติขมเพราะกระบวนการฆ่าเชื้อแบบนี้ต้องใช้อุณหภูมิสูงซึ่งจะทำให้เนื้อสัมผัสเละ กลิ่นและรสที่ได้จะเหมือนผักต้มและโดยธรรมชาติของพริกเมื่อโดนความร้อนก็จะขม ทางแบรนด์จึงเข้ามาปรึกษาและได้มีการนำเอาเทคโนโลยีการอบแห้งแบบแช่เยือกแข็งเข้ามาช่วยในการผลิตน้ำพริกหนุ่มอบแห้ง”


    สำหรับข้อดีของการนำเอาเทคโนโลยี Freeze Dry เข้ามาใช้นั้นทาง ผศ.ดร.สุจินดา บอกว่า จะทำให้ผลิตภัณฑ์ไม่ผ่านความร้อนเลยซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จะคงความสดของตัวน้ำพริกหนุ่มเอาไว้และสามารถยืดอายุการเก็บรักษาได้นานมากขึ้น





     “ด้วยการใช้เทคโนโลยีตัวนี้จะทำให้เราได้น้ำพริกหนุ่มอบแห้งที่มีน้ำหนักเบาและสามารถคืนตัวได้ด้วยการเติมน้ำที่อุณหภูมิห้อง คนทิ้งไว้สักพักก็จะได้น้ำพริกหนุ่มที่พร้อมรับประทาน นอกจากนี้อายุการเก็บรักษายังอยู่ได้นานถึง 6 เดือน สำหรับในส่วนของผู้ประกอบการนั้นการใช้การอบแห้งจะทำให้ผลิตภัณฑ์มีน้ำหนักเบาซึ่งสามารถช่วยลดน้ำหนักด้านการขนส่งได้ นอกจากนี้ยังสามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการซื้อน้ำพริกหนุ่มเป็นของฝากได้อีกด้วย”


     มาถึงตรงนี้ จิรทีปต์ กล่าวเสริมว่า แบรนด์ต้องสร้างความต่างให้กับตัวผลิตภัณฑ์เพื่อทำให้เกิดจุดขายและจุดแข็ง ต้องเรียนรู้และพัฒนาตลอดเวลา ที่สำคัญต้องทำตัวเป็นน้ำครึ่งแก้ว เปิดใจรับสิ่งใหม่ๆอยู่เสมอเพื่อต่อยอดและผลักดันให้ธุรกิจนั้นเติบโตได้อย่างแข็งแรงและมั่นคง





www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

กว่าจะเป็น สุขกับป๊อกกี้ ร้านลับ ชื่อเท่ เมืองสัตหีบ ที่ใครมาก็ต้องได้ความสุขกลับไป

“สุขกับป๊อกกี้” คาเฟ่ & ร้านอาหารชื่อแปลกหู อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ที่แค่ฟังก็รู้ว่าต้องเป็นพื้นที่แห่งความสุข

บ้านอยู่ดีมีความสุข เกาะสีชัง กับแนวคิดทำธุรกิจให้มีขยะน้อยที่สุด

เราไม่สามารถลดขยะให้เป็นศูนย์ได้ แต่สามารถลดให้น้อยลงได้ แค่ลองตั้ง Mindset ค่อยๆ ลงมือทำไปทีละนิด ไม่ว่าใครก็ทำได้ เหมือนกับ “บ้านอยู่ดีมีความสุข” ที่พักเล็กน่ารักบนเกาะสีชัง จ.ชลบุรี ที่เริ่มต้นทำจากจุดเล็กๆ ไปทีละอย่าง

บ้านๆ น่านๆ ตำนานที่พัก+ห้องสมุด รายแรกของไทย ใช้สิ่งที่รักต่อยอดธุรกิจโตกว่าทศวรรษ

เพราะความรู้ ความบันเทิง ความรื่นรมย์ไม่ได้อยู่แค่ในหนังสือ แต่มันอยู่ในชีวิตเราทุกรูปแบบ นี่คือ เหตุผลที่ทำให้ "ชโลมใจ ชยพันธนาการ" (ครูต้อม) อดีตครูสอนวิชาภาษาไทยผันตัวมาเป็นเจ้าของที่พัก “บ้านๆ น่านๆ” ที่มีจุดขาย คือ มีห้องสมุดไว้สำหรับหนอนหนังสือเป็นรายแรกของไทย