​เช็กสุขภาพธุรกิจ ‘รุ่ง’ หรือ ‘ร่วง’ ไปต่อ หรือ หยุดดี?






 
     บ่อยครั้งหลังจากเริ่มต้นธุรกิจมาได้สักพักหนึ่งแล้ว ผู้ประกอบการมักตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเดินหน้าต่อไปดี หรือหยุดไว้เพียงเท่านี้ ก่อนที่จะสูญเสียอะไรเพิ่มขึ้นไปอีก เพราะไม่แน่ใจว่าธุรกิจนั้นยังมีอนาคตสามารถดำเนินต่อไปได้ หรือเจอกับทางตันเข้าแล้ว ต่อไปนี้ คือ 5 สัญญาณเตือนว่าควรหยุด หรือ ไปต่อดี
 

ลูกค้าไม่เพิ่มขึ้น แถมยังลดลง
 

     หากเป็นเช่นนี้แสดงว่าธุรกิจของคุณอาจยังไม่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ดีเท่าที่ควร หรือแม้ครั้งหนึ่งอาจเคยตอบโจทย์ แต่ ณ ปัจจุบันอาจไม่ใช่แล้ว สิ่งที่ควรทำ คือ หาความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า และปรับปรุงให้เข้ากับความต้องการนั้น แต่หากดูแล้วว่าสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และสิ่งที่คุณทำอยู่นั้น ช่างห่างไกลกันเหลือเกิน หรือเกินกว่าที่คุณจะปรับเปลี่ยน ไม่คุ้มค่าที่ต้องลงทุนใหม่ ก็ควรหยุด และถอยออกมา ไปเริ่มต้นธุรกิจใหม่ดีกว่า
 

ลูกค้าไม่ว้าว! และตัดสินใจนานกว่าปกติ
 

     ลองสังเกตปฏิกิริยาแรกของลูกค้าหลังจากเห็นผลิตภัณฑ์ของคุณว่าเป็นอย่างไร หากลูกค้ารู้สึกเฉยๆ ไม่กระตือรือร้น ไม่ได้รู้สึกสนใจสินค้าของคุณมากเป็นพิเศษ กว่าจะตัดสินใจซื้อได้ในแต่ละครั้ง กินเวลาหยุดชะงักอยู่นาน ก็ให้คุณลองพิจารณาสินค้าของคุณได้แล้วว่า มีอะไรผิดพลาด เกิดขึ้นกับสินค้าของคุณหรือไม่ อย่างหลายแบรนด์ที่ต้องทำการลดแลกแจกแถมเยอะๆ จึงจะเรียกความสนใจจากลูกค้าได้ ก็เป็นหนึ่งในสัญญาณเตือนกรายๆ แล้วว่า คุณควรที่จะหยุด และถอยกลับไปตั้งหลักก่อน ดีกว่าทู้ซี้เดินหน้าต่อไป เพื่อเพิ่มบาดแผลให้กับตัวเอง
 

ตลาดวาย ลูกค้าหาย 
 


     ในการทำสินค้าช่วงหนึ่ง เราอาจเป็นที่ต้องการของตลาด แต่ความไม่แน่นอน คือ ความแน่นอน อะไรๆ ก็เปลี่ยนแปลงไปได้อยู่เสมอ ยิ่งยุคสมัยนี้ที่เทคโนโลยีเจริญก้าวหน้ามากขึ้นเท่าไหร่ เทคโนโลยีใหม่ๆ และความต้องการของคนก็เปลี่ยนไปรวดเร็วเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่แปลกที่สินค้าหนึ่งที่เคยได้รับความนิยม เป็นที่ต้องการ อาจกลายเป็นสินค้าที่ล้าหลัง จากตลาดที่เคยคิดว่าดี ทำเงินได้ ก็อาจแปรเปลี่ยนไปอย่างไม่รู้ตัว ทางที่ดีควรศึกษาสถานการณ์รอบข้าง เตรียมทางหนีทีไล่ไว้บ้างก็ดี ก่อนที่จะเผลอถลำลงทุนไปทีละเยอะๆ ควรค่อยๆ ปรับไปตามสถานการณ์ที่เป็นอยู่ดีกว่า
 

เกิดสงครามราคา
 

     อีกหนึ่งตัวชี้วัดที่บอกได้ดีถึงสถานการณ์ของธุรกิจ คือ การเกิดสงครามราคา แข่งขันกันลดราคากระหน่ำซัมเมอร์เซลล์ เพราะนั่นหมายถึงการแข่งขันสูง คู่แข่งเข้ามาเล่นมากขึ้นในตลาด โอกาสพื้นที่การเติบโตก็ย่อมน้อยลงไปด้วย ถ้าเป็นเช่นนี้ขอฟันธงว่า หนีก่อนจะดีกว่า หรือไม่ก็ต้องปรับไปทำอย่างอื่นให้ดูฉีกแตกต่างจากเพื่อน หรือคู่แข่งออกไป
 

ไฟหมด หมดไฟ
 

     ข้อนี้อาจดูแตกต่างจากข้ออื่นสักนิดนึง เพราะเป็นข้อที่เกิดขึ้นจากปัจจัยภายในเอง ไม่ใช่ปัจจัยภายนอกอย่างเช่นข้ออื่น เพราะเมื่อใดก็ตามที่คุณเริ่มรู้สึกหมดไฟ หรือไม่สนุกกับธุรกิจที่ทำอยู่แล้ว นั่นย่อมหมายความว่าคุณเองก็จะหมดความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ดีๆ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือธุรกิจของคุณให้ออกมาตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ รวมถึงโอกาสการเติบโตก้าวหน้าของธุรกิจก็จะลดน้อยถอยลงไปด้วย จนอาจนำไปสู่การพ่ายแพ้ต่อคู่แข่งได้ ฉะนั้นแล้วคุณควรที่จะหยุดพัก หรือถอยออกมาก่อน หรือทางแก้อีกวิธี คือ หาคนมาบริหารจัดการแทน ไม่แน่ถ้าหากคุณได้หยุดพัก ไตร่ตรองความคิด วันหนึ่งคุณอาจจะปลุกไฟในตัว ลุกขึ้นมาสร้างสรรค์สิ่งใหม่ที่ดีเพิ่มมากขึ้นก็เป็นได้



 ​www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

เพราะคิดถึงรสชาติความหนึบของขนม    หนุ่มไต้หวันสร้างแบรนด์แพนเค้กโมจิ KiuKiu ที่ทำเงิน 100,000 ดอลลาร์ในเดือนแรก

ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่เริ่มจากไอเดียเล็กๆ แต่ลงมือทำอย่างจริงจัง ทดลองสูตรกว่า 80 ครั้ง จนทำให้ KiuKiu แบรนด์แพนเค้กและวาฟเฟิลสไตล์โมจิ เติบโตเร็วแบบชวนทึ่ง ทำรายได้แตะ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในเดือนแรกของการเปิดขาย

จาก Home School สู่ธุรกิจ Event เงินล้าน เจาะความคิด CEO วัย 19 ที่ทำให้ลูกค้ายอมไว้ใจ Gen Z

ทิ้งมหาลัย เพื่อออกมาเปิดบริษัท! นี่คือการเดิมพันครั้งใหญ่ของ CEO วัย 19 ที่พิสูจน์แล้วว่า 'ประสบการณ์' สร้างรายได้ถึง 'เงินล้าน' ได้จริง

MATCHAZUKI จากความหลงใหลสู่แบรนด์มัทฉะไทยกว่า 11 ปี ที่ “ใส่ใจ” ลูกค้าในทุกย่างก้าวของการเติบโต

แม้วันนี้มัทฉะจะฟีเว่อร์ แต่ไม่ใช่ 11 ปีก่อน เมื่อการหามัทฉะคุณภาพดีในไทยไม่ใช่เรื่องง่าย จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นให้ทีมเล็กๆ ก่อกำเนิด MATCHAZUKI แบรนด์ไทยที่หลงใหลในมัทฉะไม่แพ้ใคร พร้อมเปิดประตูชวนผู้คนให้ก้าวเข้าสู่โลกสีเขียวใบนี้ไปด้วยกัน