​กระตุ้นส่งออกรายย่อยปี 62 ปรับหลักสูตรติวเข้ม SME


 

     การส่งออก นับว่ายังคงเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และมีผู้ประกอบการ SME จำนวนมากที่มีการส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถแข่งขันในระดับสากลได้ จำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ประกอบการต้องมีความรู้ โดยที่ผ่านมากรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โดยสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) กระทรวงพาณิชย์ ได้มีการทำหลักสูตรให้ความรู้เบื้องต้นในการประกอบธุรกิจส่งออก เพื่อเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการไทยสู่สากล


     ล่าสุดสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) ได้มีการปรับหลักสูตร “ความรู้เบื้องต้นในการประกอบธุรกิจส่งออก” ใหม่ ในรื่องนี้ บรรจงจิตต์ อังสุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า หลักสูตรดังกล่าวจะมุ่งเน้นในการให้ความรู้พื้นฐานในการส่งออก ให้สามารถเข้าสู่กระบวนการค้าระหว่างประเทศที่ได้มาตรฐานสากล  โดยผู้เข้าร่วมจะได้สิทธิพิเศษและโอกาสเข้าร่วมโครงการส่งเสริมและเพิ่มศักยภาพของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs Pro-active) ตามนโยบายรัฐบาลในการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ผู้ประกอบการรายใหม่ในธุรกิจ Tech Startup  การเข้าร่วมงานแสดงสินค้าและกิจกรรมเจรจาการค้าในต่างประเทศ ฯลฯ    





     ด้าน พรวิช ศิลาอ่อน ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) กล่าวว่า การอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตร “ความรู้เบื้องต้นในการส่งออก” ในปี 2562 มีการปรับปรุงหลักสูตรให้มีความกระชับของเนื้อหาและปรับเวลาให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น  ครอบคลุมเนื้อหาสาระของการดำเนินธุรกิจส่งออกได้ตั้งแต่เบื้องต้นไปจนถึงขั้นนำไปปรับใช้ได้จริง พร้อมทั้งเพิ่มเติมหัวข้อการบรรยายใหม่ๆ เพื่อเติมเต็มองค์ความรู้และประสบการณ์จากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้านให้หลากหลายมิติมากยิ่งขึ้น ละลายพฤติกรรมของผู้เข้าร่วมอบรมด้วยการทำ Team Building เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดี อีกทั้งยังเป็นการสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการให้มีความเข้มแข็งและสามารถสนับสนุนกันในด้านการทำธุรกิจในอนาคต  โดยใช้เวลาอบรมตลอดหลักสูตรเพียง 5 วัน





     นอกจากนั้น ยังได้เพิ่มเติมโอกาสในการฝึกลงมือปฏิบัติให้กับผู้ประกอบการได้ร่วมกันทำกิจกรรม Workshop จากธุรกิจต้นแบบร่วมกัน ทำให้เกิดประสบการณ์การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการทดลองคิดและวางแผนกลยุทธ์การพาธุรกิจส่งออกได้ด้วยตนเอง  ภายใต้การดูแลและให้คำปรึกษาจากวิทยากรมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญโดยตรง อาทิ หัวข้อ “การสร้างโมเดลธุรกิจพิชิตตลาดโลก” กับ ผศ.ดร.สิงหะ ฉวีสุข รองคณบดีคณะบริหารจัดการจากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง, หัวข้อ “นวัตกรรมธุรกิจและการตลาด 4.0 เพิ่มพูนศักยภาพการแข่งขัน กับนายคริษฐ์ ไข่มุก กรรมการผู้จัดการบริษัท เอ็กซาไบรท์ จำกัด และ หัวข้อ “ขั้นตอนการดำเนินธุรกิจส่งออก-นำเข้า และระบบโลจิสติกส์ กับ ดร.ศรีสลา ภวมัยกุล กรรมการบริหารสายซัพพลายเชน บริษัท สยามอุตสาหกรรมเกษตรอาหาร จำกัด(มหาชน) เป็นต้น


     อย่างไรก็ตาม หลักสูตรดังกล่าว เปิดอบรมกว่ากว่า 25 ปี ผู้เข้าร่วมกว่า 15,000 ราย  และกำหนดเปิดในปี 2562 อีก 300 ราย  ในรุ่นที่ 134-135 นั้น  โดยการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตร “ความรู้เบื้องต้นในการประกอบธุรกิจส่งออก”รุ่นที่ 134 ระหว่างวันที่ 18-22 มีนาคม 2562 และรุ่นที่ 135 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-12 กรกฎาคม 2562 ณ สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) ถ.รัชดาภิเษก กรุงเทพฯ


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

2 คำที่ทายาทต้องเข้าใจก่อนทุกอย่างพัง ศิลปะการสืบทอดธุรกิจครอบครัวให้รอด จากเจ้าของเพจ ‘ทำที่บ้าน’

กวาง–เสสินัน นิ่มสุวรรณ์ ทายาทธุรกิจปั๊มน้ำมันในลพบุรี และเจ้าของเพจ “ทำที่บ้าน” มีผู้ติดตามกว่า 2 แสนคน หลังสัมภาษณ์ทายาทกว่า 100 ครอบครัว พบว่าทายาททุกคนต้องเจอกับ “สามก้อนปัญหาใหญ่” ที่ไม่มีสูตรสำเร็จใดแก้ได้

ทิ้งเก้าอี้ผู้บริหารบริษัทระดับโลก มาปั้นแบรนด์บะหมี่ขาย เดือนละ 60 ตู้คอนเทนเนอร์!

ได้ขึ้นแท่นตำแหน่งสูง งานดี เงินดี น้อยคนนักที่จะคิดอยากลงมาเริ่มต้นใหม่ แต่อาจไม่ใช่กับ ยัง ชาง หนุ่มไต้หวันที่ตัดสินใจละทิ้งทุกอย่าง เพื่อออกมาเป็นผู้ประกอบการปั้นแบรนด์บะหมี่ของตัวเองขาย

ส่งไม้ต่อจากรุ่นสู่รุ่น “ไชยแสง” โมเดิร์นเทรดตำนานเมืองสิงห์ ทำอย่างไรจึงยืนหยัดนานกว่า 30 ปี

เมื่อทายาทรุ่นใหม่เข้ามาสานต่อกิจการ ไม่ได้เพียงรับช่วงต่อ แต่ยังรับเอาหัวใจของธุรกิจ คือความเข้าใจผู้คนในท้องถิ่น และกล้าที่จะปรับเปลี่ยน จึงทำให้ธุรกิจไม่เพียงอยู่รอด แต่ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับ “ห้างไชยแสง” สิงห์บุรี