Horoscarf จากผ้าพันคอสายมู แก้ชงแบบชิคๆ กระตุ้นยอดขาย แตกไลน์อีกหลายไอเทม

TEXT : Sir.Nim

PHOTO : Horoscarf

 

     เพราะความเชื่อเป็นเรื่องไม่เข้าใครออกใคร และปฏิเสธไม่ได้ว่าแม้ทุกวันนี้เทคโนโลยีจะล้ำหน้าไปมากสักแค่ไหน แต่ศาสตร์ความเชื่อทางโหราศาสตร์ ดวงชะตา หรือฮวงจุ้ยก็ยังคงอยู่ แถมยังมีการพัฒนาให้เข้ากับยุคสมัยและไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่เกิดเป็นธุรกิจสายมูที่นอกจากประโยชน์การใช้งานแล้ว ยังช่วยเสริมกำลังใจให้แก่ผู้สวมใส่ และยังสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าด้วย

     Horoscarf ผ้าพันคอ 12 นักษัตร ผลงานการถ่ายทอดภาพวาดจิตรกรรมสีน้ำลงบนผ้าพันคอของอาจารย์สาวสวยด้านศิลปะ ดร. ณัฐธิดา ภู่จีบ อาจารย์ประจำสาขาวิชาศิลปศึกษา คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวโรฒ (มศว) ที่สร้างความแตกต่างเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค ด้วยการออกแบบตามโฉลกและสีมงคลของปีนักษัตร ทำให้นอกจากจะสวมใส่ได้อย่างสวยงามแล้ว ยังช่วยเสริมดวงชะตาแก่ผู้สวมใส่ และทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้นด้วย

เพราะของขวัญเป็นเหตุ

     “จุดเริ่มต้นจริงๆ ไม่ได้ตั้งใจจะทำเพื่อเชิงพาณิชย์ แต่มาจากตอนนั้นเรียนปริญญาเอกไม่ค่อยมีเวลาได้วาดรูป เลยใช้โอกาสวาดรูปเพื่อบำบัดตัวเอง และทำเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับคนที่เรารักด้วย เพราะส่วนตัวเป็นคนชอบผ้าพันคออยู่แล้ว ซึ่งบังเอิญปีใหม่ปีนั้นเป็นปีแพะ เราก็เลยวาดเป็นรูปแพะออกมา แต่ด้วยความที่หากจะสั่งผลิตได้ต้องมีขั้นต่ำ 30 ผืน แต่เรามีคนที่อยากจะให้ 10 คน เลยลองโพสต์ถามในเฟซบุ๊กว่ามีใครสนใจจะแจมด้วยไหม กลายเป็นว่าขายหมด แล้วก็เริ่มมีคนถามมาเรื่อยๆ ว่าทำไมไม่ทำปีนักษัตรอื่นๆ ด้วย จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นให้สร้างแบรนด์และทำเป็นธุรกิจขึ้นมา โดยใช้ชื่อว่า “Horoscarf” โดยมาจากคำว่า Horoscope ที่แปลว่า ดวงชะตาราศี กับคำว่า Scarf ที่แปลว่าผ้าพันคอ ความหมายโดยรวมก็คือ ผ้าพันคอเสริมดวงชะตานั่นเอง”

 

สร้างมูลค่าเพิ่มประยุกต์ให้ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน

     “สำหรับคนที่มีความเชื่อในเรื่องพวกนี้ เรามองว่าทุกปีเขาต้องหาของมงคลเพื่อเสริมดวงชะตาหรือแก้ชงให้กับตัวเองอยู่แล้ว แต่แทนที่จะต้องห้อยจี่ที่เป็นปีฮะเพื่อแก้ชงตรงๆ ซึ่งบางคนก็ไม่ได้ชอบใส่ แต่ถ้าเราสามารถ Adapt ปรับให้เข้ากับชีวิตประจำวันเขาได้ด้วย เป็นสิ่งที่เขาสามารถนำมาใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว ก็น่าจะดีกว่า จึงเป็นอีกเหตุผลให้เราทำเป็นผ้าพันคอเสริมดวงขึ้นมา ซึ่งนอกจากเป็นประโยชน์ให้ผู้บริโภคโดยตรงแล้ว ในแง่การขายก็ช่วยดึงดูดผู้บริโภคให้สนใจสินค้าของเรามากขึ้นด้วย โดยจุดเด่นอีกอย่างของสินค้าเรา คือ เป็นภาพวาดจริงๆ จากสีน้ำ ไม่ได้ใช้กราฟฟิกแต่งขึ้นมา ดังนั้นก็เหมือนเขาได้งานศิลปะจากภาพวาดจริงๆ ไปใช้ในชีวิตประจำวันด้วย โดยเราจำหน่ายที่ผืนละ 1,350 บาท”

บาลานซ์ 2 สเตปอย่างลงตัว

     “ในการออกแบบแต่ละลายขึ้นมา เราต้องทำงานมากกว่าคนอื่น 2 สเตป คือ 1. ความหมายต้องดี เป็นสิริมงคลแก่ผู้สวมใส่ และ 2. ออกแบบยังไงให้พอมาใส่เป็นผ้าพันคอแล้วต้องสวย ซึ่งบางทีสองเรื่องนี้ก็ไม่ได้มาคู่กันเสมอไป เหมือนกันบ้านที่สวยกับบ้านที่ฮวงจุ้ยดีก็มักไม่ได้มาด้วยกัน ขึ้นอยู่ที่สถาปนิกว่าจะออกแบบยังไงให้ทั้งสองส่วนบาลานซ์ไปด้วยกันได้ การทำผ้าพันคอก็เช่นกันนอกจากเราจะศึกษามาอย่างดีแล้วว่าแต่ละปีถูกโฉลกกับสีไหน มีปีฮะที่มาช่วยแก้ชงและเสริมดวง คือ อะไร เราก็ต้องมาดูด้วยว่าเราจะนำสิ่งต่างๆ เหล่านั้นมาผสมผสานลงไปยังไงให้เป็นผ้าพันคอเวลาพันออกมาแล้วสวยที่สุด จุดสวยที่สุดจะอยู่ตรงไหน แล้วฮวงจุ้ยหรือศาสตร์ความเชื่อต่างๆ ยังได้อยู่ไหม ทำให้กว่าจะสำเร็จออกมาได้แต่ละผืนใช้เวลา 4 - 6 เดือนทีเดียว”

ขยายจากความเชื่อจากเอเชีย สู่สากลมากขึ้น

     “ในช่วงแรกนั้นเราเริ่มต้นทำจากลาย 12 นักษัตรก่อน โดยค่อยๆ ดูว่าในปีนั้นๆ มีปีอะไรที่ชงบ้าง และแต่ละปีมีปีฮะอะไรที่มาช่วยเสริมดวง แก้ชง เป็นสิริมงคลให้กับเขาได้บ้าง ไปจนถึงสีไหนที่ถูกโฉลก ซึ่งสำหรับคนเอเชียแล้วเรื่องพวกนี้อาจเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ไม่ยาก แต่กับลูกค้าชาวต่างชาติยุโรป อเมริกา ความเชื่อเขาไม่เหมือนกับเรา อีกอย่างเรื่องวัน เดือน ปีเกิดก็ถือเป็นเรื่องส่วนตัว บางคนก็ไม่โอเคที่อยากจะเปิดเผย เราเลยลองทำคอลเลคชั่น Lucky Animal ออกมาด้วย โดยไม่เกี่ยวกับวัน เดือน ปีเกิด แต่เป็นการเสริมดวงจากสัตว์มงคล

     “เช่น ปลาคาร์ฟ 9 ตัวว่ายทวนน้ำ เพื่อเสริมดวงการงานการเงิน หรือรูปแมว 9 ตัวเสริมดวงความโชคดีและการเงิน โดยเราก็มีวาดทั้งแมวไทย คือ สีสวาด, เก้าแต้ม และพันธุ์สก๊อตทิช โฟลด์ของฝรั่งผสมใส่ลงไปด้วย หรืออย่างลายกวาง ซึ่งเป็นความเชื่อของชาวญี่ปุ่นที่หมายถึงความมั่งมีศรีสุข สุภาพแข็งแรง โดยในแต่ละผืนเราจะทำเป็นกล่องใส่และแนบการ์ดอวยพรเขียนความหมายลงไปทุกอัน เพื่อให้สามารถนำไปมอบเป็นของขวัญให้ผู้อื่นได้ด้วย

     “จนปัจจุบันนี้เรามีผลิตออกมาทั้งหมดกว่า 30 แบบ และที่กำลังจะทำเพิ่มคอลเลคชั่นใหม่ คือ “Thai Amulet” เกี่ยวกับความเชื่อของคนไทยโดยตรงเลย โดยจะทำออกมาเป็นรูป เช่น พญานาค, สาลิกาลิ้นทอง, ท้าวเวสสุวรรณ ซึ่งเรามีลูกค้าขาประจำที่รอซื้ออยู่เรื่อยๆ บางคนซื้อที 5 – 6 ลายทีเดียว ซึ่งตอนนี้เรามีจำหน่ายอยู่ที่คิงพาวเวอร์,บลูพอร์ต หัวหิน และช่องทางออนไลน์ Facebook, Instagram ของแบรนด์”

ต่อยอดแมสเสริมดวง กระตุ้นยอดขายปัง!

     “นอกจากผ้าพันคอแล้ว เมื่อกลางปีที่แล้วที่โควิดกำลังระบาดอย่างหนัก เรามีการทำเป็นแมสออกมาด้วย โดยตอนแรกตั้งใจทำมาใส่เองเล่นๆ และโพสต์ลงในเฟซส่วนตัว ปรากฏว่ามีคนถามเข้ามาเยอะมาก จนต้องทำออกมาขาย และเราขายไม่แพงราคาอันละ 199 บาท คนเข้ามาซื้อถล่มทลาย จนทำให้ต้องตัดสินใจจ้างแอดมินประจำขึ้นมา กลายเป็นสินค้าอีกอย่างที่ขายดีในตอนนี้

     “และนอกจากนี้ เรามีการประยุกต์นำผ้าไปทำสินค้าอื่นเพิ่มขึ้นเพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าด้วย เช่น กระเป๋า โดยทำขึ้นมาเป็นรุ่นลิมิเตด หมดแล้วหมดเลย หรือหากลูกค้าบางคนอยากให้ลองนำไปตัดเป็นชุดเป็นเสื้อผ้า เราก็มีบริการคัสตอมไมซ์ สั่งตัดเป็นไซส์เฉพาะให้กับลูกค้าได้เลย โดยนอกจากเลือกลายแล้ว ลูกค้าสามารถเลือกเนื้อผ้าได้เองด้วย ราคาอยู่ที่ชุดละ 2,500 -3,500 บาท ซึ่งจริงๆ กำไรไม่ได้เยอะเมื่อเทียบกับผ้าพันคอ แต่เราอยากให้ลูกค้าได้ใส่ โดยยอมรับว่าช่วง 1 – 2 ปีที่ผ่านมา ลูกค้าหันมาสนใจสั่งตัดเป็นเสื้อผ้ากันเยอะขึ้น บางช่วงขายดีกว่าผ้าพันคอด้วย เพราะเขาเอามาใช้ในชีวิตประจำวันได้เลย หรืออยากสั่งตัดเป็นปลอกหมอน ชุดเครื่องนอน ผ้ากันเปื้อน หมวก ฯลฯ เราทำได้หมด”

ใส่แล้ว โชคดีจริงไหม?

     “ถามว่าใส่แล้วโชคดีจริงไหม ต้องบอกว่าจริงๆ ทุกคนมีความเชื่อเป็นของตัวเอง ซึ่งบางทีก็ไม่ได้มีเหตุผล แต่อย่างหนึ่งที่เรามักจะได้จากการเชื่อสิ่งต่างๆ เหล่านี้ คือ ความสบายใจ และเป็นการสร้างพลังบวกให้กับตัวเอง บางทีก็เป็นเรื่องที่เราทำในชีวิตประจำวันกันอยู่แล้ว เช่น จะไปสมัครงานเราเตรียมความพร้อมมาดีอยู่แล้ว แต่ทำไมก่อนออกจากบ้านต้องไหว้พระขอพร หรืออย่างขับรถ ทำไมเราถึงมีพระเครื่อง มีแม่ย่านาง เพื่อให้ขับขี่ได้ปลอดภัย ซึ่งมองว่าเมื่อเราสบายใจก็จะส่งผลต่อความมั่นใจในการทำสิ่งต่างๆ ได้ไม่ยากเลย”

Horoscarf

Facebook : Horoscarf ผ้าพันคอเสริมสิริมงคลตามปีนักษัตร/สัตว์มงคลตามฮวงจุ้ย

โทร. 093 663 9494

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

อย่างอาร์ต! MAMAD แบรนด์แฟชั่น X ศิลปะ วาดลวดลายสไตล์ Semi Abstract สร้างความแปลก ออกแบบ “ศิลปะที่สวมใส่ได้”

“Me As My Art Daily” ศิลปะคือส่วนหนึ่งของตัวตนเราในทุกวัน คือนิยามของแบรนด์แฟชั่นสุดอาร์ตอย่าง MAMAD ที่นำเอาศิลปะและแฟชั่นมาผสานกัน กลายเป็นกระเป๋า เสื้อผ้า และหมวกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ความแปลกตา และสไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร

Nyana Nyana Eco Fashion อดีตสถาปนิกนักสู้มะเร็ง สู่เจ้าของแบรนด์แฟชั่นออร์แกนิก เป็นมิตรต่อผู้สวมใส่ และสิ่งแวดล้อม

Nyana Nyana Eco Fashion แบรนด์แฟชั่นของอดีตสถาปนิกหญิงสิงคโปร์ที่ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา แม้พบว่าป่วยเป็นมะเร็ง แต่ “Clara Simanjuntak” กลับใช้เป็นแรงบันดาลใจ เพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิต ทำสิ่งดีๆ รวมถึงการสร้างแบรนด์เสื้อผ้าจากผ้าออร์แกนิก

บ้านโอบอุ่น ธุรกิจเล็กๆ ของนักศึกษาพยาบาล ที่ทำให้คนแปลกหน้ากลายเป็นเพื่อนกัน

พาไปรู้จักบ้านโอบอุ่น ธุรกิจโฮมสเตย์เล็กๆ ที่ปลูกขึ้นกลางทุ่ง ของ อั้ม-พัชราภา อ่ำปั้นนักศึกษาพยาบาล ที่นั่งรถไฟจากพิษณุโลกไปเชียงดาวทุกสัปดาห์เพื่อมาทำโฮมสเตย์เล็กๆ ที่เปลี่ยนคนแปลกหน้าให้กลายเป็นเพื่อนกัน