ทำไมต้องรอไฮซีซัน เฮินไต ต้นแบบรีสอร์ตกลางทุ่ง ที่สร้างฤดูทำเงินของตัวเองได้ทุกวัน

TEXT : Nitta Su.

PHOTO : สองภาค, ชาญ Travel Trap

 

     ในฤดูฝนที่เฉอะแฉะ อาจเป็นโลว์ซีซันของที่พักหลายแห่ง แต่สำหรับ “เฮินไต” รีสอร์ตเล็กๆ กลางทุ่งนาในอำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน นี่คือ ฤดูทำเงินของธุรกิจ นาข้าวกำลังเขียวขจีจากความชุ่มฉ่ำของสายฝนที่โปรยปรายลงมา ทำให้ไฮซีซันของที่นี่ยาวนานขึ้นกว่าปกติ โดยเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่สิงหาคม จนถึงกลางกุมภาพันธ์ ซึ่งหากใครคิดอยากจองเข้าใช้บริการอาจต้องเผื่อเวลาล่วงหน้ากันเอาไว้เยอะหน่อย เพราะขึ้นแท่นเป็นอีกหนึ่งรีสอร์ตจองยากที่สุดไปแล้ว

      ซึ่งหากพูดถึงแม่ลาน้อย วันนี้ไม่มีใครไม่รู้จัก เฮินไต แต่กว่าจะมาเป็นอย่างทุกวันนี้ได้ ที่พักสุดฮอตแห่งนี้เคยถูกลูกค้าปฏิเสธมาแล้วในราคาห้องไม่ถึงพันบาทด้วยซ้ำ ยังไม่นับถึงความยากลำบากในการเปลี่ยนเมืองทางผ่านที่ใครๆ ก็ผ่านเลยไป เพราะไม่มีจุดเด่นน่าสนใจอะไร ให้กลายเป็นเมืองกรีนซีซันที่กลับขายดีในช่วงหน้าฝน แถมบางครั้งยังทำราคาดีแซงหน้าสายหมอกแห่งฤดูหนาวไปแล้วด้วยซ้ำ ทั้งหมดทั้งมวลนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ลองมาฟังคำตอบจาก ถิรมนัส วงศ์คีรี หรือ เน็ต ชายหนุ่มผู้ปลุกปั้นผืนดินแห่งนี้ขึ้นมากัน

Season Change ฤดูเปลี่ยน ชีวิตเปลี่ยน

     ย้อนไปราวสิบปีก่อน หลังเรียนจบด้านสัตวศาสตร์ สิ่งแรกที่เน็ตใฝ่ฝันและอยากทำ ก็คือ อยากทำงานสวนสัตว์ เพราะเขาเป็นคนรักสัตว์เป็นชีวิตจิตใจ แต่แล้วชีวิตก็ต้องผกผัน เมื่อคุณพ่อต้องของเขามาด่วนจากไปกระทันหันจากโรคเส้นเลือดหัวใจเปราะ จนทำให้เขาต้องเบนเข็มชีวิตตัวเอง

     “มันเกิดขึ้นค่อนข้างกะทันหันมาก จำได้วันที่พาคุณพ่อไปผ่าตัดคุณหมอแจ้งว่ามีความเสี่ยงแค่ 5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นในโอกาสที่จะเสียชีวิต ซึ่งถือว่าต่ำมาก เราจึงไม่ได้กังวลอะไร คุณแม่ก็ยังไม่ไปส่งเลย จนกระทั่งเมื่อเข้ารับการผ่าตัดไปแล้ว คุณหมอก็ค่อยๆ ออกมาบอกว่าความเสี่ยงเริ่มเพิ่มขึ้นจาก 10 เป็น 30 เป็น 50 เปอร์เซ็นต์ จนสุดท้าย คือ ท่านไม่ไหวแล้วและจากไปในที่สุด ตอนนั้นยอมรับว่าช็อกและเสียใจมาก เพราะคุณพ่อเป็นเหมือนเสาหลักของครอบครัว”

     เน็ตเล่าต่อว่าหลังจากบวชเรียนและบวชให้คุณพ่อนานเกือบ 3 เดือน เมื่อสึกออกมาชีวิตของเขายังไม่ได้ตั้งเป้าหมายอะไร แรกๆ เขาไปช่วยกิจการพี่ชายขายโทรศัพท์มือถืออยู่ในตัวเมืองแม่สะเรียงอยู่พักหนึ่ง แต่มีสิ่งหนึ่งที่ยังค้างอยู่ในใจ คือ บ้านสวนของพ่อที่แม่ลาน้อย ซึ่งปลูกไว้เพื่อใช้ชีวิตปั้นปลายหลังเกษียณ ซึ่งโดยปกติแล้วครอบครัวของเขาจะอาศัยอยู่ที่อำเภอแม่สะเรียงเป็นหลัก

     ระหว่างที่กำลังคิดหาวิธีดูแลบ้านสวนของพ่อ คุณแม่ของเน็ตก็ได้นำเครื่องทำกาแฟสดเข้ามา ซึ่งถือเป็นร้านกาแฟสดแรกๆ ของแม่สะเรียงเลยก็ได้ เน็ตย้ายไปช่วยดูแลกิจการร้านกาแฟสดเล็กๆ ให้แม่ พร้อมๆ กับเริ่มทำโฮมสเตย์บ้านสวนที่แม่ลาน้อยของพ่อควบคู่กันไปด้วย โดยใช้ร้านกาแฟเป็นจุดช่วยโปรโมตและแนะนำบอกต่อลูกค้า พร้อมกับถ่ายรูปมาติดแปะในร้าน ซึ่งความตั้งใจแรกเขาคิดเพียงแค่อยากมีรายได้เล็กน้อยเพื่อจ้างคนมาดูแลทำความสะอาดบ้างเท่านั้น

     แต่ด้วยความที่อำเภอแม่ลาน้อยเอง ก็ยังไม่ค่อยมีที่พักให้คนเดินทางสักเท่าไหร่ เน็ตจึงมองว่านี่อาจเป็นโอกาสหากเขาคิดจะทำธุรกิจที่พักจริงจังขึ้นมา จากโฮมสเตย์บ้านสวนของพ่อเน็ตเริ่มมองหาจุดเด่นให้กับที่พักของเขา จนกระทั่งมาสะดุดกับภาพปกนิตยสารท่องเที่ยวฉบับหนึ่งเป็นรูปที่พักและสะพานไม้ที่ทอดยาวไปในทะเลที่หมู่เกาะมัลดีฟส์ เขาจึงเกิดแรงบันดาลใจอยากทำมัลดีฟส์ที่แม่ลาน้อยขึ้นมาบ้าง เพียงแต่ไม่ใช่ในท้องทะเลสีคราม แต่เป็นทะเลท้องทุ่งสีเขียวขจีของนาข้าวแทน

ขายแค่หลักร้อย ยังถูกต่อ เหมือนโยนเงินให้

     เน็ตเริ่มใช้เงินทุนจากที่มีอยู่ค่อยๆ ปรับปรุงภาพในฝันของเขาขึ้นมาทีละส่วน จากเรือนบ้านสวนหลังใหญ่ของพ่อที่เป็นจุดศูนย์กลาง เขาเริ่มสร้างหลังเล็กหลังน้อยยื่นเข้าไปในท้องนาเพิ่มเติมขึ้นมา โดยใช้สะพานไม้เป็นจุดเชื่อมต่อในพื้นที่ ซึ่งแต่ละหลังก็มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป เพราะเน็ตมีความตั้งใจว่าเขาอยากให้ที่นี่เป็นเหมือนหมู่บ้านของชาวไทยใหญ่เล็กๆ ที่อยู่ร่วมกันตามอย่างชื่อ “เฮินไต” ที่แปลว่าบ้านของชาวไทยใหญ่ เพราะจริงๆ แล้วคุณพ่อของเขาก็สืบเชื้อสายมาจากชาวไทยใหญ่เช่นกัน

    ถึงแม้จะมีคนไม่เห็นด้วยกับเขาในช่วงแรก เพราะไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้ อำเภอเล็กๆ เงียบๆ แบบนี้ใครจะมาพัก แต่สุดท้ายสิ่งที่เน็ตคิดไว้ก็เริ่มสัมฤทธิ์ผล เริ่มมีคนชอบเหมือนเขา ชอบในธรรมชาติ ชอบในเมืองเล็กๆ ที่ไม่วุ่นวาย สงบเงียบ แต่อย่างว่าเมื่อมีคนชอบ ก็ย่อมมีคนไม่ชอบ และไม่เข้าใจ เน็ตเล่าว่าช่วงแรกที่เริ่มทำธุรกิจเขาเคยถูกลูกค้าปฏิเสธ ด้วยเงินเพียงหลักร้อยบาทมาแล้ว

     “ยังจำได้ถึงทุกวันนี้เลย คือ ตอนนั้นเป็นช่วงแรกที่เปิดได้ไม่กี่ปี บริการของเราอาจไม่พร้อมเท่ากับวันนี้ แอร์ไม่มี ทีวีไม่มี แต่เราก็คิดว่าดีที่สุดแล้วในตอนนั้น เป็นช่วงไฮซีซันด้วยอากาศกำลังดี ต้นข้าวกำลังสวยเลย ก็มีลูกค้าขับรถเข้ามาคันหนึ่งมาถามหาห้องพัก และเปิดกระจกลงถามว่าห้องราคาเท่าไหร่ เราก็บอก 700 บาทครับ พี่ลงมาดูหน่อยไหม ที่พักเราสวยนะ บรรยากาศดี บริการเต็มที่เลย เขาก็ตอบมาทันทีว่าแพง! แล้วก็ปิดกระจก ขับรถออกไปเลย บางคนก็ต่อราคาบอกว่าไม่ได้ตั้งใจมาพัก แต่หลงมา พักแค่คืนเดียวๆ ลดให้หน่อย 500 บาทได้ไหม ทำให้เราค่อนข้างเสียใจและสูญเสียความมั่นใจเหมือนกัน”

             

จุดประกายการท่องเที่ยวหน้าฝน

     หลังเปิดให้บริการผ่านมาได้ 5 -6 ปี เฮินไตก็เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นบนโลกโซเชียล เริ่มมีการบอกต่อปากต่อปาก เริ่มมีบล็อกเกอร์ท่องเที่ยวเข้ามารีวิว จนทำให้ทุกวันนี้หากพูดถึงการมาท่องเที่ยวที่แม่ลาน้อย ก็ต้องนึกถึงเฮินไตก่อนเป็นอันดับแรก

     แต่เน็ตเล่าว่ากว่าจะผ่านมาถึงจุดนี้ได้ ไม่ใช่เรื่องง่าย เขาเคยลองทำธุรกิจโต๊ะจีนรับจัดเลี้ยงในช่วงหน้าร้อนที่เป็นโลว์ซีซัน เพื่อให้พนักงานมีงานทำและหารายได้ให้กับธุรกิจมาแล้ว จนกระทั่งเริ่มเกิดความคิดว่านอกจากต้องรอคอยฤดูหนาวที่เป็นไฮซีซันแล้ว เขาอยากให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสแม่ลาน้อยในฤดูกาลอื่นบ้าง โดยเฉพาะหน้าฝนท้องนากำลังเป็นสีเขียวชอุ่ม ซึ่งเขามองว่าเป็นฤดูที่สวยที่สุด

     สิ่งที่เน็ตเลือกทำ คือ การเดินทางไปบอกเล่าด้วยตนเอง ในทุกๆ ปีเขาจะเข้ากรุงเทพฯ เพื่อไปออกบู๊ธงานท่องเที่ยว โปรโมตที่พักของเขาให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น นำภาพสวยๆ ของฤดูฝนกับท้องนาและสะพานไม้ออกไปให้ผู้คนเห็นมากขึ้นว่ามันมีอยู่จริง และสามารถเดินทางมาเที่ยวได้ ปลอดภัย ไม่มีอันตรายใดๆ จนในที่สุดจากโลว์ซีซัน ก็สามารถเปลี่ยนเป็นกรีนซีซันขึ้นมาได้

     “สารภาพว่าตอนแรกเราไปแบบไม่รู้อะไรเลย ไปตั้งเป็นบู๊ธเล็กๆ ตั้งอยู่ข้างบู๊ธจากโรงแรมใหญ่ๆ โบรชัวร์ก็ถ่ายเอกสารสีดำไป และก็ตั้งคอมฯ ไว้หนึ่งตัว เก้ๆ กังๆ ไม่รู้เรื่องอะไร ป้ายไวนิลก็ไม่มี จนเห็นเขาจัดโปรโมชั่น ทำวอยเชอร์ ทำแพ็กเกจขายกัน เราก็ลองทำตามบ้าง ของคนอื่นมีกำหนดวันหมดอายุ แต่ของเราใช้ได้ไม่มีกำหนด จำได้ว่าไปออกงานครั้งแรกได้ลูกค้ากลับมา 3 คน ซึ่งไม่ใช่นักท่องเที่ยวนะ เป็นผู้ประกอบการในแม่ฮ่องสอนที่มาออกบู๊ธด้วยกันแหละ แต่ก็ทำให้เราได้คอนเนคชั่นได้เพื่อนได้รู้จักผู้ประกอบการในแม่ฮ่องสอนมากขึ้น ซึ่งพอออกบ่อยๆ ขึ้นคนก็เริ่มรู้จักเยอะขึ้น ช่วยกันบอกต่อ จนมีบล็อกเกอร์มาช่วยรีวิวให้ เราก็พาเขาไปรู้จักแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ในแม่ลาน้อยด้วย เช่น โครงการหลวงแม่ลาน้อย, บ้านห้วยห้อม พอคนเริ่มรู้ว่าแม่ลาน้อยมีที่เที่ยวอะไรบ้าง และมีที่พักแบบที่เขาชอบนะ ก็ทำให้คนมาเที่ยวแม่ลาน้อยเยอะขึ้น จากรถตู้โดยสาร แต่ก่อนไม่เคยแวะจอด คนจะผ่านไปแต่แม่สะเรียง แม่ฮ่องสอน ปาย ก็เริ่มมีสถานีแม่ลาน้อยขึ้นมา”

หัวใจนักสู้

      นอกจากความเป็นนักสู้ที่ต้องอดทนทุ่มเทกับเรื่องราวต่างๆ ในการทำธุรกิจแล้ว เน็ตยังต้องต่อสู้กับสังขารของตัวเองด้วย ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าเมื่อ 5 ปีก่อนในวัยยังไม่ถึงสามสิบดีนั้นเขาจะป่วยเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่วกับการใช้ชีวิตที่หนักหน่วง กินเหล้า นอนดึก โดยมีเพียง 1 ในแสนรายเท่านั้นในอายุเท่าเขาที่จะป่วยเป็นโรคดังกล่าวได้ โดยเขาเริ่มจากอาการอ่อนเพลีย ไม่มีแรง เหนื่อยหอบ หายใจติดขัด จนต้องขอติดรถลูกค้าเข้าไปตัวเมืองเชียงใหม่เพื่อหาหมอ ในวินาทีที่รู้ว่าป่วยเน็ตเล่าว่าเขาบรรยายความรู้สึกไม่ถูก ทั้งกลัว ทั้งกังวล และเป็นห่วงแม่ แต่สุดท้ายทุกอย่างก็ผ่านมาได้ด้วยดี และมีแม่คอยเป็นกำลังใจให้

     “ตอนที่ป่วยอยู่ แม่ให้กำลังใจว่ายังไงเน็ตก็ต้องหาย เพราะพ่อได้ให้ไว้ตั้งแต่เกิดแล้ว ถิรมนัส แปลว่า ผู้มีใจซื่อสัตย์มั่นคง ส่วนนามสกุล วงศ์คีรี ก็เหมือนแกร่งดั่งขุนเขา รวมๆ แล้วความหมาย คือ การมีหัวใจที่แข็งแกร่ง ซึ่งหลังจากผ่าตัด 9 เดือน เน็ตก็ไปปีนเขาที่ EBC หรือ Everest Base Camp เพราะก่อนหน้านั้นเราก็ชอบเดินป่าขึ้นเขาอยู่แล้ว จริงๆ ตอนนั้นมีแต่คนไม่อยากให้ไป เพราะกลัวเน็ตตาย แต่แม่กลับอนุญาตให้ไป และบอกว่าไปเถอะชีวิตเราก็เท่านี้แหละ อยากไป อยากทำอะไรก็ทำ แม่เป็นคนที่อยู่ข้างเรามาตลอด” เน็ตเล่าถึงช่วงชีวิตที่เฉียดตายของเขาให้ฟัง

     ปัจจุบันนี้เฮินไตมีห้องพักด้วยกันทั้งหมด 19 ห้อง ซึ่งเน็ตมองว่าเป็นขนาดที่กำลังพอดีที่เขาสามารถดูแลได้อย่างทั่วถึง และทุกวันนี้เขายังสนุกกับการดูแลธุรกิจและรับรองแขกด้วยตัวเองอยู่เสมอ

     ในทุกๆ วันเน็ตจะตื่นประมาณ 06.20 น. เพื่อออกมารับรองแขกและส่งลูกค้าเช็คเอ้าท์ และก็แทบจะเป็นคนสุดท้ายของวัน เพื่ออยู่จัดการความเรียบร้อยต่างๆ ซึ่งการบริการด้วยใจและทุ่มเทอย่างนี้ จึงทำให้เขามีกลุ่มลูกค้าแฟนคลับที่ค่อนข้างเหนียวแน่น หลายคนเดินทางมาเป็นสิบๆ รอบแล้ว ไม่ใช่ญาติ ก็เป็นเหมือนญาติเหมือนเพื่อนที่กลับมาเยี่ยมเยือนกัน

     “ถามว่าผ่านมาสิบกว่าปีแล้ว รู้สึกยังไงกับตัวเอง ก็ภูมิใจนะครับกับสิ่งที่เราได้ตั้งใจทำมา แล้วมีคนชอบเหมือนเรา ยังคุยกับแม่เล่นๆ ว่าถ้าวันนี้พ่อรู้ก็คงหัวเราะว่าอยู่ดีๆ เน็ตมาปั้นเฮินไตมาทำที่พักได้ยังไง แต่ก็คงจะดีใจด้วยที่มีคนมาพักเยอะเลย เพราะจริงๆ พ่อรู้อยู่แล้วว่าเน็ตเรียนสัตว์ศาสตร์ เพราะรักสัตว์ ไม่น่าจะมาทำอะไรแบบนี้ได้ ซึ่งความสำเร็จทางธุรกิจก็ส่วนหนึ่ง แต่อย่างน้อยๆ วันนี้เราก็ได้ทำให้คนรู้จักแม่ลาน้อยเพิ่มขึ้นด้วย ได้ช่วยให้คนแม่ลาน้อยมีงานทำ อย่างน้อยถึงจะช่วยได้แค่ 5 – 10 คน แต่นั่นก็หมายถึง 5 – 10 ครอบครัวเลยนะ ยังมีคนที่อยู่ข้างหลังอีกหลายคน เราโต เขาก็เติบโตไปด้วย” เน็ตกล่าวทิ้งท้าย

ข้อมูลติดต่อ

https://www.facebook.com/HerntaiResortMaelanoi

โทร. 086 915 3555

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี 

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

ทำธุรกิจซัก-รีด ยังไงให้มีรายได้สาขาละแสน ล้วงความลับกับเจ้าของแบรนด์ ตั้งใจซัก

หนึ่งในธุรกิจที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “เสือนอนกิน” นั้นต้องมีธุรกิจเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญติดในลิสต์เป็นอันดับต้นๆ ทำให้ธุรกิจนี้เติบโตเป็นพิเศษโดยเฉพาะในช่วงโควิดที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการที่สนใจเปิดธุรกิจนี้มากมาย แต่ถึงแม้จะเป็นธุรกิจเสือนอนกิน ใช่ว่าทุกคนจะเป็นเสือที่ได้กินธุรกิจนี้ง่ายๆ

Erabica Coffee ผู้ปักหมุด กาแฟน่าน ให้เป็นที่รู้จักระดับประเทศ

นี่คือสองสามีภรรยา ที่อยากมาใช้ชีวิตบั้นปลายที่น่าน คิดสร้างแบรนด์กาแฟของตัวเองขึ้นมาในชื่อ Erabica (เอราบิก้า) กลายเป็นการยกระดับกาแฟน่านเป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น

HEH ร้านอาหารย่านภูเก็ต เชฟใช้เวลาในครัวให้เหมือนอยู่ในสนามแข่ง ไม่อยากเป็นแค่ Just Another Restaurant

“HEH (เห)” ร้านอาหารสไตล์  Australian Contemporary กลางเมืองภูเก็ต สร้างเมนูอาหารให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพราะไม่อยากเป็นเพียง แค่ร้านอาหารร้านหนึ่ง