ป้ายยายังไง ให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ รวมเทคนิคเด็ด จากร้านฮิปหนองคาย

     เพราะแพ็กเกจจิ้ง คือ ด่านหน้าการส่งต่อสินค้าจากผู้ผลิต จนถึงมือลูกค้า บางทีจะประทับใจ ไม่ประทับใจก็อยู่กันที่ตรงนี้

     วันนี้มีเรื่องเล่าจากร้านแห่งหนึ่งมาเล่าให้ฟัง เป็นความประทับใจที่เกิดขึ้นหลังจากได้รับกล่องพัสดุใส่สินค้าที่ได้สั่งไป โดยร้านดังกล่าวมีชื่อ Mitrijit Homemade & Gallery (ไมตรีจิต โฮมเมด แอนด์ แกลลอรี) เป็นร้านกาแฟและเบเกอรีโฮมเมดเล็กๆ ที่ตั้งตัวอยู่ในอำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย โดยมี ทหาร - มนัสชนก รัตนมณี คู่รักผู้หลงใหลในมนต์เสน่ห์ของกาแฟเป็นคนรังสรรค์ขึ้นมา

     ซึ่งโดยปกตินอกจากวางขายที่หน้าร้าน ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของร้านไมตรีจิต ไม่ว่าจะเป็นเมล็ดกาแฟคั่ว, คุกกี้, ขนมปัง และเบเกอรีต่างๆ อีกกว่าครึ่งหนึ่งจะถูกส่งขายให้กับลูกค้าที่สั่งเข้ามาผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งกระจายตัวอยู่ทั่วประเทศ จึงทำให้ทั้งคู่ให้ความสำคัญกับการเลือกใช้แพ็กเกจจิ้งเพื่อส่งไปให้ลูกค้า ไม่ต่างจากการสร้างประสบการณ์พิเศษที่หน้าร้าน

     “จริงๆ เริ่มมาจากการที่ตัวเราเองเคยได้รับความประทับใจแบบเดียวกันนี้เช่นกันเวลาสั่งสินค้าจากหลายๆ ร้าน เลยมีความคิดว่าถ้าวันหนึ่งมีโอกาสได้ทำธุรกิจของตัวเองเราก็จะทำให้กับลูกค้าแบบเดียวกันด้วย อีกส่วนน่าจะมาจากความชอบส่วนตัวชอบอะไรกระจุกกระจิกเล็กๆ น่ารัก เห็นอะไรที่คิดว่ายังใช้ได้และน่ารักก็จะเก็บไว้ก่อน อย่างกระดาษห่อของขวัญ จนวันหนึ่งเราก็ได้นำมาใช้ห่อคุกกี้ให้กับลูกค้า ลูกค้ามีความสุขที่ได้รับ เราก็มีความสุขที่ได้มอบสิ่งดีๆ ไปให้” ทหารและมนัสชนกเล่าถึงที่มาแรงบันดาลใจให้ฟัง

ถอดรหัสความฟินเหนือชั้น ยิ่งแกะยิ่งเจอ

     ก่อนที่จะเล่าถึงเคล็ดลับการเลือกใช้แพ็กเกจจิ้ง และเรื่องราวอื่นๆ ของร้านต่อ ขอรีวิวความประทับใจจากกล่องพัสดุที่ได้รับในวันนั้นก่อน

ฟินแรก : จากกล่องพัสดุที่ใช้ใส่สินค้ามา โดยรอบตัวกล่องมีข้อความน่ารักๆ ส่งต่อความรู้สึกดีๆ มาให้ จนทำให้อยากรีบเปิดดูของที่อยู่ข้างใน

ฟินสอง : เมื่อแกะกล่องพัสดุ ก็เจอกับการ์ดใบน้อยที่นอกจากจะเขียนขอบคุณที่อุดหนุนแล้ว ยังอธิบายการใช้งานและความปรารถนาดีของผลิตภัณฑ์แต่ละอย่างที่ส่งมาให้

ฟินสาม : แทนที่จะเลือกใช้โฟมหรือบับเบิ้ลกันกระแทกอย่างร้านทั่วไป แต่ด้วยความตั้งใจดีและเป็นร้านที่ทำสินค้าแบบโฮมเมด ทางร้านจึงเลือกใช้ก้านกล้วยตากแห้งจากกลุ่มเกษตรกรที่ทำขายแทนเพื่อปกป้องสินค้า แม้จะต้องจ่ายแพงขึ้นมาสักหน่อย แต่ก็ยินดีจ่ายเพื่อไม่ทิ้งภาระไว้ให้กับโลก

ฟินสี่ : ถึงเวลาหยิบสินค้าแต่ละตัวออกมาพิจารณา ซึ่งทางร้านก็ยังใส่ใจบรรจงทำหีบห่อแต่ละชิ้นได้อย่างน่าสนใจให้เหมาะกับสินค้าแต่ละอย่าง ไม่ว่าจะเป็นกระปุกคุกกี้ที่แปะกระดาษติดโลโก้แบรนด์อยู่ด้านบน ถุงผ้าที่มัดด้วยเชือกกระสอบมาอย่างดี ถุงกาแฟ หรือข้าวสารที่ร้านปลูกเองก็ตาม

ฟินสุดท้าย : เมื่อได้ลองชิมผลิตภัณฑ์แต่ละแล้ว ก็รู้สึกได้ถึงความใส่ใจของผู้ทำที่ตั้งใจทำขึ้นมาแบบโฮมเมด พิถีพิถันอยากส่งต่อสิ่งดีๆ มาให้

แพ็กเกจจิ้งดี ช่วยเสริมแบรนด์ปัง

     จากความฟินที่เล่าไป เราถามทหารและมนัสชนกต่อถึงเทคนิคการเลือกใช้แพ็กเกจจิ้งในสไตล์ของ Mitrijit Homemade & Gallery โดยทั้งคู่ได้ตอบไว้ดังนี้

     “บอกตรงๆ คือ เราเลือกจากความชอบของตัวเองก่อนเลย ซึ่งก็เป็นตัวตนของร้านด้วย เพราะทุกอย่างออกมาจากความชอบของตัวเราเองอยู่แล้ว ซึ่ง Mitrijit Homemade & Gallery เป็นร้านที่ทำผลิตภัณฑ์แบบโฮมเมด เราจึงเลือกใช้แพ็กเกจจิ้งโทนสีธรรมชาติ เช่น กระดาษสีน้ำตาล เชือกก็ใช้เป็นเชือกกระสอบ ที่สำคัญ คือ พยายามลดการใช้พลาสติกให้ได้มากที่สุด อย่างโฟมกันกระแทกหรือบับเบิ้ลเราก็หันมาใช้เป็นก้านกล้วยตากแห้งแทน และทุกครั้งถ้าไม่ลืมเราจะเขียนการ์ดขอบคุณแนบไปด้วยเสมอ แต่ก่อนก็เขียนมือทุกอันนี้ ตอนนี้ส่งเยอะเขียนไม่ไหว ก็ใช้ปริ้นใส่กระดาษสีน้ำตาลแทน”

    โดยนอกจากแพ็กเกจจิ้งที่เป็นมาตรฐานหลักของร้านแล้ว ในช่วงเทศกาลโอกาสพิเศษต่างๆ ทางร้านไมตรีจิตก็จะมีการตกแต่งแพ็กเกจจิ้งที่ใช้ให้เข้ากับธีมนั้นๆ ด้วย อาทิ เทศกาลคริสมาสต์ หรือวันลาเลนไทน์เป็นต้น

     ก่อนจบบทสนทนา ทหารและมนัสชนกได้ทิ้งท้ายถึงประโยชน์และความสำคัญของแพ็กเกจจิ้งที่มีต่อธุรกิจว่า

     “การที่เราให้ความใส่ใจตั้งแต่แพ็กเกจจิ้งมันช่วยให้ลูกค้ารับรู้ได้ถึงความตั้งใจที่เราอยากมอบสิ่งดีๆ ให้แก่เขา จนส่งต่อไปถึงสินค้าที่อยู่ด้านใน แม้บางทีสินค้าข้างในอาจเป็นสินค้าธรรมดา ไม่ได้ดีเวอร์หรือพรีเมียมกว่าคนอื่นมากนัก แต่ก็สามารถทำให้เกิดความแตกต่างได้ จึงเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าได้อีกวิธีหนึ่ง ทำให้ลูกค้าจดจำแบรนด์เราได้ บางทียังช่วยเอาไปช่วยโปรโมต เอาไปโฆษณาต่อให้ด้วย พอเพื่อนๆ เขาหรือคนอื่นเห็นก็กลายมาเป็นลูกค้าเราต่อได้ เป็นผลพลอยได้ต่อไปอีก ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ของร้านเราก็เป็นแบบนี้ คือ บอกต่อๆ กันมา” ทหารและมนัสชนกกล่าว

     ทุกวันนี้นอกจากเมล็ดกาแฟและขนมปังแล้ว ในทุกๆ สัปดาห์ยังมีวันพิเศษที่มนัสชนกจะทำกับข้าวใส่ปิ่นโตเสิร์ฟให้กับลูกค้าขาประจำในละแวกใกล้เคียงกับร้านด้วย ซึ่งแม้จะเป็นการทำเล็กๆ น้อยๆ เธอก็ไม่ลืมที่จะเขียนการ์ดขอบคุณติดใส่ไปด้วย

     และนี่คือ ตัวอย่างธุรกิจที่อยากมานำเสนอให้เห็นว่าไม่ว่าจะขายสินค้าหรือบริการอะไรก็ตาม หากเราสามารถใส่ใจในตัวผลิตภัณฑ์และในแต่ละขั้นตอนได้มากเท่าไหร่ ลูกค้าก็ยิ่งรับรู้และสัมผัสได้มากเท่านั้น ซึ่งไม่ว่าลูกค้ารายไหนก็ตามลองได้เจอแพ็กเกจจิ้งดีๆ แบบนี้ ยังไงก็ไม่พลาดมาอุดหนุนเป็นลูกค้าขาประจำแน่นอน

TEXT : Sir.Nim

PHOTO : Mitrijit Homemade & Gallery, Surang. Su

ข้อมูลติดต่อ

https://web.facebook.com/mitrijit

โทร. 061 695 6396

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี