ปิดตำนานตบเท้าจากลาไปอีกหนึ่งแบรนด์กับร้านอาหารจานด่วน A&W ที่มีเครื่องดื่มรสซ่า “Root Beer” หรือที่คนไทยชอบเรียกกันว่า “น้ำยาหม่อง” เป็นพระเอกชูโรงของแบรนด์ เพราะนอกจากรสชาติจะหวาน ซาบซ่านทุกครั้งที่ดื่มแล้ว ยังมีกลิ่นและรสที่เป็นเอกลักษณ์จากสมุนไพรสูตรเฉพาะไม่เหมือนใครด้วย โดยเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ บมจ.โกลบอล คอนซูเมอร์ เจ้าของสิทธิ์ดำเนินธุรกิจร้านอาหาร A&W ในประเทศไทยได้ประกาศเตรียมเลิกกิจการหลังจากประสบภาวะขาดทุนต่อเนื่องหลังได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยมีข้อมูลรายงานว่าในปี 2564 บริษัทขาดทุนถึง 70 ล้านบาท เพื่อเป็นการสั่งลาก่อนจากกันในวันนี้เราจึงขอนำ 10 เรื่องไม่ลับของแบรนด์ A&W มาบอกเล่าให้ฟังกันอีกครั้ง
เป็นร้านฟาสต์ฟู้ดที่เก่าแก่ที่สุด
ถ้าพูดถึงร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด เรามักนึงถึงแมคโดนัลด์ หรือเคเอฟซีกันซะเยอะ แต่รู้ไหมว่าจริงๆ แล้วร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดที่เกิดมาเป็นแบรนด์แรกๆ ของอเมริกากลับ คือ A&W โดยถือกำเนิดขึ้นในปี 2462 ในขณะที่แมคโดนัลด์ก่อตั้งเมื่อปี 2491 และเคเอฟซี ปี 2482 (เปิดอย่างเป็นทางการปี 2495) นอกจากนี้ยังเป็นร้านอาหารสไตล์อเมริกาแบรนด์แรกๆ ที่ขยายสาขาไปยังต่างประเทศด้วย
ตั้งชื่อสั้นๆ ให้จำง่ายไปเลย
โดยชื่อแบรนด์นั้นก็ตั้งขึ้นมาง่ายๆ จากอักษรนำหน้านามสกุลผู้ร่วมก่อตั้ง คือ Roy Allen ผู้คิดค้นสูตรขึ้นมาจากการใช้ผลไม้และสมุนไพรหลายชนิด และ Frank Wright ที่มาเป็นหุ้นส่วนธุรกิจช่วยขยายกิจการในภายหลัง ซึ่งชื่อแรกที่ใช้ คือ A&W Root Beer (ปี 2468) ซึ่งเริ่มมีการขายแฟรนไชส์ให้กับผู้ที่สนใจด้วย
นำมาขายเป็นน้ำอัดลม แต่คนคิดจริงๆ กลับเป็นเภสัช
แม้ว่าแบรนด์ A&W จะมีจุดเด่นอยู่ที่เครื่องดื่มรูทเบียร์ซึ่งรู้จักกันดี แต่มีการเล่าว่าความจริงแล้วนั้นต้นกำเนิดของรูทเบียร์มาจากน้ำสมุนไพรของชาวอินเดียนแดงที่ทำมาจากเปลือกไม้ ดอกไม้ และพืชหลายชนิด ต่อมาภายหลังเมื่อมีการอพยพเข้ามาของชาวยุโรปและอเมริกา จึงมีการนำมาต่อยอดผลิตเป็นเครื่องดื่มยอดนิยม โดยผู้ที่นำมาดัดแปลงคิดค้นให้กลายเป็นเครื่องดื่มที่เรียกว่ารูทเบียร์ คือ เภสัชกรชาวอเมริกันคนหนึ่งชื่อ “Charles Elmer Hires” แต่เนื่องจากกฎหมายสหรัฐในยุคนั้นไม่อนุญาตให้จดสิทธิบัตรในคำนามที่ถูกนำมาบันทึกและปรากฏในพจนานุกรมได้ จึงทำให้มีการทำสูตรรูทเบียร์ออกมาขายจำนวนมาก หนึ่งในนั้นก็คือ A&W ด้วยที่ขอซื้อสูตรมา ภายหลังต่อมาจึงนำมาต่อยอดพัฒนาเป็นสูตรของตัวเอง จนสร้างแบรนด์โด่งดังขึ้นมาในที่สุด
เกี่ยวโยงกับสงครามโลกถึง 2 ครั้ง
รู้ไหมว่ารูทเบียร์ของ A&W นั้นกลับมีเหตุการณ์สำคัญเกี่ยวข้องกับสงครามโลกถึง 2 ครั้ง โดยครั้งแรก Roy Allen ได้นำไปใช้เสิร์ฟในงานเลี้ยงต้อนรับทหารผ่านศึกที่กลับมาจากการสู้รบในสงครามโลกครั้งที่ 1 จนทำให้กลายเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมในยุคนั้น จนเขาคิดอยากต่อยอดจากเครื่องดื่มให้กลายเป็นร้านอาหารขึ้นมา กระทั่งต่อมาหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ผ่านพ้นไป ร้าน A&W Root Beer ได้เติบโตเพิ่มมากขึ้น เหตุผลหนึ่งเนื่องมาจากรัฐบาลได้ให้สิทธิประโยชน์แก่เหล่าทหารผ่านศึก ที่เรียกว่า GI Bill เพื่อสามารถนำมาขอแลกเปลี่ยนนำเงินมาลงทุนทำธุรกิจกับร้าน A&W Root Beer ได้
เคยจับมือร่วมสร้างธุรกิจกับเชนโรงแรมยักษ์ใหญ่ด้วย
โดยในช่วงแรกนั้น A&W Root Beer คือ ร้านที่เน้นจำหน่ายเครื่องดื่มเพียงอย่างเดียว ต่อมาภายหลังเมื่อแห็นว่ามีโอกาสเพิ่มขึ้นทางธุรกิจ จึงได้จับมือร่วมกับกลุ่ม Marriott ซึ่งเป็นกลุ่มคนแรกๆ ที่ขอซื้อแฟรนไชส์จาก A&W โดยขณะนั้นยังไม่ได้ทำธุรกิจโรงแรม โดยได้มีการนำมาขายคู่กับอาหาร และใช้ชื่อว่า “Hot Shoppes” ต่อมาภายหลังจึงได้กระโดดเข้าสู่ธุรกิจโรงแรม (ปี 2500) จนกลายมาเป็นเชนยักษ์ใหญ่ของโลกอย่างที่เรารู้จักกันดีในทุกวันนี้นั่นเอง
เป็นผู้สร้างวัฒนธรรม Drive In รายแรกๆ
จากการเป็นร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดเจ้าแรกๆ ในอเมริกา ซึ่งทยอยสาขาไปทั่วประเทศ จึงทำให้ A&W เป็นหนึ่งในร้านอาหารที่มีการนำรูปแบบการซื้อสินค้าแบบ Drive In คือ ขับรถเข้ามาสั่งซื้อสินค้าได้ โดยไม่ต้องลงจากรถเข้ามาใช้เป็นเจ้าแรกๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า โดยภายหลังต่อมาจากที่ใช้ชื่อ A&W Root Beer ก็เปลี่ยนมาเป็น A&W Restaurant จำหน่ายทั้งเครื่องดื่ม ขนมหวาน และอาหารคาวเต็มรูปแบบมากขึ้น
ทำตลาดในไทยมานานกว่า 39 ปี
อย่างที่บอกว่า A&W คือ ร้านฟาสต์ฟู้ดที่ถือกำเนิดขึ้นเป็นรายแรกๆ ดังนั้นแล้วก่อนที่แมคโดนัลด์หรือเคเอฟซีจะเข้ามาสู่เมืองไทย เรามีร้าน A&W เปิดตัวอยู่ก่อนแล้ว โดยเปิดตัวครั้งแรกในไทยเมื่อปี 2526 ที่เซ็นทรัลลาดพร้าว ซึ่งก่อนจะลาลับปิดกิจการไปนั้น A&W มีเวลาสาขาอยู่ในไทยทั้งสิ้น 26 แห่งด้วยกัน
ชื่อเป็นเบียร์ แต่ไม่ใช่เบียร์
หลายคนอาจเคยสงสัยว่าเหตุใด รูทเบียร์ เครื่องดื่มสุดฮิตของ A&W ต้องมีคำต่อท้ายว่าเบียร์ด้วย ว่ากันว่าเป็นเพราะช่วงแรกที่ผลิตขึ้นมานั้นสหรัฐฯ ได้ออกฏหมายห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จึงมีการตั้งขึ้นมาเพื่ออยากล้อเลียนให้ขำๆ และดึงดูดลูกค้าเท่านั้น ซึ่งแม้จะกลิ่นจากสมุนไพรจนคนไทยหลายคนมองว่าคล้ายยาหม่อง แต่รูทเบียร์ก็ไม่ได้มีส่วนผสมจากแอลกอฮอลล์จริงๆ เหมือนกับชื่อ
“Chicken Waffle” อีกหนึ่งเมนูสุดฮอต
นอกจากรูทเบียร์แล้ว อีกหนึ่งเมนูซิกเนเจอร์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ A&W ก็คือ “Chicken Waffle” โดยในช่วงแรกๆ นั้นร้านฟาสต์ฟู้ดทั่วไปยังไม่มีเมนูวาฟเฟิลทำออกมาขาย ซึ่งพอ A&W ทำขึ้นมาจึงได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ยิ่งพอมีการผสมเนื้อสัตว์เพิ่มเข้าไปกลายเป็นเมนู Chicken Waffle ผสมทั้งอาหารคาวและหวานรวมกัน ก็ยิ่งได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น ไม่แพ้ฮอตดอกอาหารฟาสต์ฟู้ดยอดฮิตเลย
ไม่ดังเปรี้ยง แต่ยืนยาวได้เป็นร้อยปี
ถึง A&W จะเป็นร้านฟาสต์ฟู้ดแบรนด์แรกๆ ที่ถือกำเนิดขึ้นมาในอเมริกาแถมมีเมนูซิกเนเจอร์ของตัวเองอย่างรูทเบียร์ แต่เพราะต้องผ่านวิกฤตมาหลายครั้ง ทั้งสงคราม เศรษฐกิจ จึงทำให้ต้องมีการปรับสูตรธุรกิจ รวมถึงถูกเปลี่ยนเจ้าของไปหลายมือ การเติบโตและการตลาดของ A&W จึงอาจมีสะดุดไม่ดังเปรี้ยงเหมือนแมคโดนัลด์หรือเคเอฟซี แต่สุดท้ายก็สามารถยืนหยัดมาได้เป็นร้อยกว่าปี ซึ่งแม้ในไทยอาจต้องหยุดการดำเนินธุรกิจไป แต่ในหลายประเทศ A&W ก็ยังคงอยู่ สำหรับแฟนๆ ชาวไทยสาวกรูทเบียร์ และ Chicken Waffle คงต้องลุ้นกันต่อไปว่าอนาคตจะมีใครขอซื้อแฟรนไชส์กลับมาทำต่อไปหรือไม่
TEXT : กองบรรณาธิการ
www.smethailandlcub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี