ส่องปัจจัยที่จะนำ Soft Power มาใช้ ให้ทรงพลังกับธุรกิจ SME

 

     เป็นกระแสที่ร้อนแรงอย่างยิ่งกับ Soft Power ของศิลปินแร็ปเปอร์หญิงชาวไทย AKA มิลลิ (MILLI) ผู้เป็นศิลปินเดี่ยวไทยคนแรกที่ได้ไปทำการแสดงในเทศกาลดนตรีระดับโลก Coachella 2022 และได้ทำการปลุกกระแส #ข้าวเหนียวมะม่วง ซึ่งถือได้ว่าเป็น Soft Power ของไทย ที่ทำให้คนต่างชาติได้รู้จัก

     จากภาพจะเห็นได้ว่าเกิดปรากฏการณ์ Mango Sticky Rice ฟีเวอร์ในวันที่ 17 และ 18 ที่ผู้คนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต่างให้ความสนใจค้นหาคำคีย์เวิร์ดสูงโดดขึ้นมาอย่างมากเมื่อเทียบกับวันก่อนแสดง (ทั้งโซนอเมริกา แคนาดา ยุโรป และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยที่จะมีความสนใจค้นหาสูงที่สุดที่ประเทศไทย)

     ปรากฎการณ์นี้ยังทำให้ผู้คนเกิดอุปสงค์ในเมนูข้าวเหนียวมะม่วงมากขึ้นแบบฉับพลัน ส่งผลให้ร้านข้าวเหนียวมะม่วงหลายต่อหลายร้านสามารถทำยอดขายได้แบบถล่มทลายในช่วงหลังจากการแสดง เฉกเช่นเดียวกับกรณีลูกชิ้นยืนกินที่ถูกกล่าวถึงโดย LISA Blackpink และอาจรวมไปถึงกรณีของ แบมแบม ที่ช่วยโปรโมทให้กับนักกีฬาบาสเก็ตบอล NBA ได้เป็นตัวจริงใน All Star Game ก็ล้วนแล้วแต่เป็น Soft Power ของศิลปินชาวไทยทั้งสิ้น

     จะเห็นได้ว่าพลังของ Soft Power นั้นยิ่งใหญ่และสร้างผลกระทบทางบวกให้แก่ธุรกิจได้มากมายอย่างมหาศาล ส่วนตัวจึงเกิดคำถามขึ้นในใจว่า แล้วทำไม Soft Power ถึงทรงพลังขนาดนี้ ?

     ความเห็นส่วนตัวได้ให้คำตอบไว้ว่า กระแส Soft Power นั้นก็เกิดมาจาก Human Insight ของคน คนเรานั้นอ่อนแอ หากมองให้ลึกถึง Human Instinct พื้นฐานแล้วผมนึกถึง บาปทั้ง 7 เป็นหลักคำสอนของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิคในอดีตกาล คือ ความอยากได้อยากมี Greed เพราะคนเรามีการเปรียบเทียบอยู่เสมอ ซึ่งทำให้เราอ่อนแอจนพอถูกกระตุ้นถูกจุดก็เลยระเบิดเป็นพลังมหาศาลออกมา

     และหากถามว่าแล้ว SME จะใช้ประโยชน์จาก Soft Power ได้อย่างไร ส่วนตัวเคยมีเคสจริงที่ได้ใช้ Soft Power ไปกับกลุ่มตลาดเฉพาะเมื่อหลายปีก่อนกับ ซีรีย์ Make it Right ผมได้ไปสนับสนุนซีรีย์กับครีมซองเซเว่นเจ้านึง พอเป็นกลุ่มเฉพาะกับแนวคอนเทนต์ที่บางประเทศไม่มี แต่มีความต้องการที่จะเสพคอนเทนต์แนวนี้ ทำให้สินค้าที่อยู่ในเซเว่นเป็นที่รู้จักและต้องการยิ่งขึ้นในประเทศนั้นๆ มีแม่ค้าจากหลายประเทศติดต่อเข้ามาเพื่อต้องการสินค้าไปจัดจำหน่ายเลยทีเดียว

     โดยในปัจจุบันโอกาสของซีรีย์สายวายกับความท้าทายในการลงเวลา Prime time ของช่องหลัก หากดูที่เรตติ้งจะเห็นได้ว่าเสียงตอบรับจะไม่ดีมากนักทางทีวีกับเรตติ้งโดยเฉลี่ย 1 แต่ก็ไม่ใช่ว่าซีรีย์สายวายจะไม่ประสบความสำเร็จ เพราะปกติแล้วกลุ่มเป้าหมายจะดูในแอปต่างๆ หรือดูออนไลน์มากกว่าเป็นพฤติกรรมเดิมอยู่แล้ว ประกอบกับคอนเทนต์แนวนี้สามารถส่งออกไปต่างประเทศได้มากมายหลายประเทศอีกด้วย

     ดังนั้นปัจจัยที่จะใช้ Soft Power ให้ทรงพลังกับธุรกิจ คือ

     1. เลือกให้ถูกกลุ่ม ว่ากลุ่มเป้าหมายของเราคือใคร Key Opinion Leader ของเค้าคือใครที่เราจะเลือกใช้เพื่อนำสารผ่าน Soft Power ไปถึงกลุ่มเป้าหมาย

     2. เลือกให้ถูกช่องทาง เนื่องจากในปัจจุบันมีช่องทางการติดตาม Key Opinion Leader แต่ละช่องทางก็มีกลุ่มผู้ติดตามและพฤติกรรมการติดตามที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นการที่ธุรกิจจะใช้ Soft Power ก็ต้องพิจารณาช่องทางการเผยแพร่ข้อมูลด้วยเช่นกัน

     3. ติดตามกฏระเบียบของประเทศนั้นๆ ด้วย เพราะ จากเคสจริงที่กล่าวถึงข้างต้น กับหลายๆ เคสที่ผมได้เคยทำ ก็ได้รับผลกระทบโดยตรงจากกฏระเบียบที่เปลี่ยนไปของประเทศนั้นๆ เช่น ประเทศจีนที่ได้ประกาศปฏิวัติวัฒนธรรมใหม่ทำให้หลายๆ อย่างที่เคยทำแล้วประสบความสำเร็จในอดีตปัจจุบันไม่สามารถกระทำได้

Ref : https://trends.google.co.th/trends/explore?date=now%207-d&q=%2Fg%2F11b6cn_mpy

https://th.wikipedia.org

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

ละเลียดวิธีคิด สุรชัย พุฒิกุลางกูร Illustrator ไทย ผู้ยืนหนึ่งเวทีโลก

ละเลียดวิธีคิดของ สุรชัย พุฒิกุลางกูร Illustrator อันดับหนึ่งของโลก CEO แห่ง Illusion CGI Studio ที่พาสตูดิโอขึ้นแท่นเป็น No.1 ของโลกติดต่อกันถึง 11 ปี เขามีวิธีคิดและกลยุทธ์อย่างไร ถึงพาธุรกิจไปได้ไกลขนาดนี้

เมื่อคำว่า “Luxury” สิ้นมนต์ขลัง สูตรลับใหม่แบรนด์ระดับโลก ทำให้สินค้าดูแพงโดยไม่ต้องพูดว่าหรู

ทำไมแบรนด์หรูระดับโลก ตั้งแต่ Hermès,Porsche และ LVMH ถึงเลิกพูดคำว่า Luxury และเริ่มใช้กลยุทธ์ใหม่ในการสร้าง “ความพิเศษ” ..นี่คือสูตรลับที่แบรนด์ระดับโลกกำลังใช้  กลยุทธ์ที่ทำให้สินค้าดูแพงขึ้น แม้ไม่ต้องพูดคำว่า Luxury

Top Table บาร์ปิงปอง มิติใหม่การแฮงค์เอาท์ เมื่อโค้ชกีฬาผันตัวมาทำธุรกิจ ฮอต! จนคืนทุนได้ใน 2 เดือน

จะดีกว่าไหมถ้าคุณสามารถดื่มแฮงค์เอาท์กับเพื่อน ขณะเดียวกันก็ได้ออกกำลังกาย มีเกมสนุกๆ ให้เล่นได้ด้วย “Top Table” บาร์ปิงปองแห่งแรกของสิงคโปร์ ที่ผสมผสานระหว่างกีฬา การดื่ม และพบปะสังสรรค์ได้อย่างลงตัว