13 บทเรียนที่ SME ควรรู้ ถ้าอยากประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ

 

 

     คนเก่งเรียนรู้จากประสบการณ์ของตัวเอง

     คนฉลาดเรียนรู้จากประสบการณ์ของผู้อื่น

     แต่คนสำเร็จเรียนรู้จากประสบการณ์ของตัวเองและผู้อื่น

      ผมเชื่อว่าผู้ประกอบการทุกท่านก็อยากจะประสบความสำเร็จในธุรกิจที่เราทำอยู่แล้วไม่มากก็น้อย ผมจึงรวบรวมข้อคิดสิ่งที่ได้เรียนรู้ในการทำธุรกิจ ที่ผมคิดว่าเป็นแก่นสำคัญและได้ตกผลึกมาเป็นข้อๆ เพื่อเรียนรู้ร่วมกันครับ

1. Timing : ทุกธุรกิจมี Cycle มีช่วงเวลาของเค้า บางช่วงขยายเติบโต แต่บางช่วงเวลาของธุรกิจควรจะลดไม่ใช่เพิ่ม ต้อง Lean ธุรกิจ เพื่อโฟกัสกับเนื้องานให้มากที่สุด เช่นในภาวะวิกฤตต้องรีดศักยภาพออกมาให้ได้มากที่สุด

2. Adaptive Skill : สภาพแวดล้อมทางธุรกิจในปัจจุบัน เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วมากๆ Business Plan แทบจะต้องเขียนใหม่ทุกเดือน การปรับตัวจึงเป็นสิ่งสำคัญของธุรกิจในยุคปัจจุบัน โดยที่เราสามารถปรับตัวจากข้อมูลที่ผ่านการวิเคราะห์แล้วก็จะทำให้ธุรกิจสามารถเติบโตต่อเนื่องไปได้

3. Free Cashflow : ธุรกิจที่ Working Capital เป็นบวก (ธุรกิจที่ได้รับเงินเข้ามาก่อนจ่ายค่าต้นทุนวัตถุดิบออกไป เช่น ธุรกิจนายหน้า ธุรกิจรับเงินสดแล้วจ่ายเงินเชื่อกับคู่ค้าวัตถุดิบ เป็นต้น) ยังคงดีเสมอ ยิ่งในภาวะวิกฤต

4. God in the Details : วิธีการแก้ปัญหาธุรกิจจะอยู่ในรายละเอียด ดังนั้น ต้องรู้ปัญหาให้ไว (Speed) วิเคราะห์ปัญหาให้ชัด ซึ่งการจะวิเคราะห์ปัญหาได้ก็ต้องลงรายละเอียดให้ได้มากที่สุด การแบ่งส่วนโครงสร้างงานและงบการเงินที่ดีจะทำให้เราเห็นปัญหาได้ชัดเจน (Data Driven Organization)

5. ReLearn : ความรู้สามารถ Outdate ได้ เหมือนที่เราเรียนจากมหาวิทยาลัย แต่ความฉลาดไม่ Outdate ดังนั้น เราเรียนรู้มาต้องตกผลึกเป็น Wisdom ให้ได้

6. Learning : วิธีการเรียนรู้ความรู้คือ : ทำความเข้าใจ > นำไปประยุกต์ใช้ > Get Feedback แล้วทำให้ดีกว่า

7. Scalable : Growth ไม่เท่ากับ Scale การ Scale คือ การที่ธุรกิจสามารถเติบโตแบบ Exponential ได้ กล่าวคือสามารถสร้างรายได้ที่มากขึ้นได้โดยที่ต้นทุนไม่เพิ่มขึ้นมากนัก ธุรกิจที่ทำเเล้ว Scale ไม่ได้ “ไม่ควรทำ“ ยกเว้นแต่เราพอใจกับความพอดีของธุรกิจนั้นๆ

8. Discipline : ไอเดียเป็นตัวตั้ง การลงมือทำเป็นตัวคูณของธุรกิจ วินัยในการเรียนรู้พัฒนาจะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ

9. Human Insight : เข้าใจกลุ่มเป้าหมายให้ลึกซึ้ง ไม่ได้มองแค่เป็นลูกค้า มองให้ลึกถึงความเป็นมนุษย์ของเค้า โดยที่มนุษย์นั้น Act Emotionally ไม่ได้ Think Logically ถ้าเราเข้าใจความต้องการที่ซ่อนเร้นอยู่ได้โอกาสที่จะประสบความสำเร็จก็จะมาก

10. Think Thing Though : มองคนให้ทะลุ คือ การเข้าใจอย่างแท้จริง, ลึกซึ้ง เมื่อมองทะลุแล้วให้คิดเชิงวิพากษ์ (Critical Thinking) เพื่อกำหนดเป็นกลยุทธ์ธุรกิจต่อไป

11. Focus : ไม่ควรทำทุกอย่างที่อยากทำพร้อมกัน เพราะเเบบนี้จะทำเราโฟกัสไม่ได้สักโปรเจค ทำให้ธุรกิจตกอยู่ในความเสี่ยงค่อนข้างมาก

12. Communication : ศึกษาให้เข้าใจ Perception/ Attitude ของกลุ่มเป้าหมาย โดยการช่างสังเกตุ ตั้งคำถาม วิเคราะห์มุมมอง แล้วทำการทดลองสื่อสารสิ่งที่เข้าใจว่าถูกต้องไหม

13. Obstruction : คิดเยอะไป-ทำช้าไป-ทำเยอะไป ศัตรูหลักๆ สามตัวของคนทำธุรกิจ

      ผมเชื่อว่าคงมีบทเรียนข้อคิดต่างๆ อีกมากมายที่เราสามารถเรียนรู้ได้มากกว่าที่ผมสรุปออกมา เพียงแต่ 13 ข้อคิดนี้เป็นสิ่งที่ผมใช้ในการทำงานบ่อยๆ ในการช่วยผลักดันธุรกิจของลูกค้า หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกท่านครับ

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

ละเลียดวิธีคิด สุรชัย พุฒิกุลางกูร Illustrator ไทย ผู้ยืนหนึ่งเวทีโลก

ละเลียดวิธีคิดของ สุรชัย พุฒิกุลางกูร Illustrator อันดับหนึ่งของโลก CEO แห่ง Illusion CGI Studio ที่พาสตูดิโอขึ้นแท่นเป็น No.1 ของโลกติดต่อกันถึง 11 ปี เขามีวิธีคิดและกลยุทธ์อย่างไร ถึงพาธุรกิจไปได้ไกลขนาดนี้

เมื่อคำว่า “Luxury” สิ้นมนต์ขลัง สูตรลับใหม่แบรนด์ระดับโลก ทำให้สินค้าดูแพงโดยไม่ต้องพูดว่าหรู

ทำไมแบรนด์หรูระดับโลก ตั้งแต่ Hermès,Porsche และ LVMH ถึงเลิกพูดคำว่า Luxury และเริ่มใช้กลยุทธ์ใหม่ในการสร้าง “ความพิเศษ” ..นี่คือสูตรลับที่แบรนด์ระดับโลกกำลังใช้  กลยุทธ์ที่ทำให้สินค้าดูแพงขึ้น แม้ไม่ต้องพูดคำว่า Luxury

Top Table บาร์ปิงปอง มิติใหม่การแฮงค์เอาท์ เมื่อโค้ชกีฬาผันตัวมาทำธุรกิจ ฮอต! จนคืนทุนได้ใน 2 เดือน

จะดีกว่าไหมถ้าคุณสามารถดื่มแฮงค์เอาท์กับเพื่อน ขณะเดียวกันก็ได้ออกกำลังกาย มีเกมสนุกๆ ให้เล่นได้ด้วย “Top Table” บาร์ปิงปองแห่งแรกของสิงคโปร์ ที่ผสมผสานระหว่างกีฬา การดื่ม และพบปะสังสรรค์ได้อย่างลงตัว