วิธีทำ 2 ธุรกิจ ให้ประสบความสำเร็จในเวลาเดียวกัน เมื่อการมีธุรกิจเดียวมันเสี่ยงเกินไปในยุคนี้

 

 

      สำนวนจับปลาสองมืออาจไม่เหมาะกับการทำธุรกิจยุคนี้ที่ต้องกระจายความเสี่ยงที่ต้องมีมากกว่าหนึ่งธุรกิจ ทั้งที่การทำธุรกิจหนึ่งให้ประสบความสำเร็จก็ไม่ใช่เรื่องง่ายและอาจทำให้หลายคนแทบไม่มีเวลาพักผ่อนแล้ว ดังนั้น แนวคิดในการสร้างธุรกิจ 2 อย่างไปพร้อมๆ กันอาจฟังดูว่าเป็นเรื่องยากแต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ทำไม่ได้ ลองดูวิธีการดังนี้

มอบหมายงานให้คนที่เหมาะสม

      อย่างแรกคุณต้องคิดว่าสิ่งใดคุณไม่สามารถวางมือได้จริง ๆ และสิ่งใดที่คุณสามารถมอบให้แก่พนักงาน การจ้างบุคคลภายนอก (Outsourcing) หรือฟรีแลนซ์ที่มีความชำนาญเฉพาะทาง จะช่วยให้คุณมีเวลาเพิ่ม ลดปริมาณงานของคุณได้ถึง 40% ทำให้คุณสามารถใช้เวลาที่จำเป็นกับงานด้านอื่นๆ ที่จำเป็นต้องการความเอาใจใส่จากคุณอย่างแท้จริง

     ทั้งนี้โดยปกติ การมอบหมายงานที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่มาจากการจ้างทีมที่เหมาะสมตั้งแต่เริ่มต้น ที่สำคัญคุณต้องบอกวิสัยทัศน์และเป้าหมายของคุณกับทีมงานเหล่านี้ให้ชัดเจนด้วย

จัดตารางเวลาให้เหมาะสม

      กับดักทั่วไปที่มักพบในการธุรกิจหลายๆ อย่างพร้อมกันคือ เจ้าของธุรกิจมักจะให้ความสำคัญกับบริษัทหนึ่งมากกว่าอีกบริษัทหนึ่งหรือในทำนองให้ความสำคัญกับบริษัทหลักมากกว่าบริษัทรอง ซึ่งหากสถานการณ์เป็นเช่นนี้มักจะนำไปสู่เหตุการณ์ธุรกิจหนึ่งเติบโตในขณะที่ธุรกิจอื่นๆ เหี่ยวเฉา

     เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้ คุณควรเริ่มต้นด้วยการจัดตารางเวลาว่าคุณจะทุ่มเทเวลาให้กับแต่ละบริษัทอย่างไรให้ชัดเจน ตัวอย่างเช่น คุณใช้เวลาช่วงเช้ากับทีมการตลาดและการขายของ Business A และในช่วงบ่ายของคุณทำการพิจารณาเรื่องลอจิสติกส์สำหรับธุรกิจ B แต่ทั้งนี้คุณต้องแน่ใจว่าคุณกำลังใช้เวลาเหล่านี้อย่างมีประสิทธิภาพ เครื่องมือติดตามเวลาจะช่วยให้คุณเห็นว่าคุณใช้เวลากี่ชั่วโมงในแต่ละงาน รวมทั้งความพยายามของคุณมุ่งเน้นไปที่ KPI ที่มีความหมายหรือไม่ "

สองธุรกิจอยู่ในพื้นที่เดียวกัน

      การใช้สถานที่แห่งเดียวในการทำงานกับทั้งสองบริษัทจะทำให้ง่ายต่อการบริหารดูแลจัดการในแต่ละวันได้ง่ายขึ้นมาก เนื่องจากคุณไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง ทำให้คุณไม่ต้องเหนื่อยมาก การเดินทางนานๆ ร่างกายอาจเหนื่อยล้าจะส่งผลต่อจิตใจและอารมณ์ จนเกิดภาวะหมดไฟก็เป็นได้

เกณฑ์มาตรฐานวัดความสำเร็จ

      เมื่อคุณเริ่มมีธุรกิจที่สองที่สามคือ คุณจะมีข้อได้เปรียบอย่างหนึ่ง คุณได้พิสูจน์รูปแบบและกระบวนการทำงานจากธุรกิจแรกแล้ว คุณจะสามารถนำมาเปรียบเทียบได้ในการผจญภัยทางธุรกิจครั้งต่อไปของคุณเพื่อประหยัดเวลาและพลังงาน นอกจากนี้ยังใช้กับการเลือกเครื่องมือหรือแพลตฟอร์มที่จะใช้ให้เหมาะกับการดำเนินธุรกิจที่สอง

      แม้ว่าธุรกิจของคุณจะต่างกันโดยสิ้นเชิง คุณยังสามารถดึงบทเรียนจากความสำเร็จหรือแม้แต่ความล้มเหลวที่ผ่านมาไปปรับใช้กับธุรกิจอื่นๆ ได้ สิ่งเหล่านี้เปรียบเสมือนข้อมูลที่สำคัญ เมื่อมีข้อมูลเพิ่มเติมเข้ามาทุกวัน ในที่สุดมันจะกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นสำหรับคุณที่จะทำสองธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ

     อย่างไรก็ตามแม้การดำเนินธุรกิจหลายๆ อย่างไปพร้อมกันอาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่ในความท้าทายนั้นถ้าคุณทำสำเร็จมันสามารถให้ผลตอบแทนอย่างคุ้มค่า ถ้าคุณกำลังควบสองธุรกิจและนำวิธีการข้างต้นไปปรับใช้อาจช่วยให้คุณเดินทางทางสู่ความสำเร็จได้เร็วขึ้น

 

ที่มา: https://www.entrepreneur.com/article/369189

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

เพราะทุกการขนส่ง คือการเติบโต เมื่อมีพาร์ทเนอร์ที่ใช่ ธุรกิจก็ไปได้ไกลกว่าเดิม

ในยุคที่โลกธุรกิจหมุนเร็วกว่าเดิม การดำเนินธุรกิจเพียงลำพังคนเดียวอาจเป็นไปได้ยาก แต่หากมีพาร์ทเนอร์ที่รู้ใจเข้ามาช่วยต่อยอด ธุรกิจคงไปได้ไกลมากกว่าที่คิด

5 เหตุผลที่ SME ต้อง Recode ธุรกิจ   ก่อนจะถูกเกมใหม่กลืนปี 2026

ไม่ว่าคุณจะเป็นร้านเล็กหรือแบรนด์ใหญ่ ต่างต้องเผชิญคลื่นใหม่พร้อมกัน ตั้งแต่การตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยคอนเทนต์ ความเร็วของเทคโนโลยี พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และนี่คือ 5 เหตุผลที่ SME ทุกคนควร ‘Recode’ ธุรกิจของตัวเอง ก่อนจะสายเกินไป

2 คำที่ทายาทต้องเข้าใจก่อนทุกอย่างพัง ศิลปะการสืบทอดธุรกิจครอบครัวให้รอด จากเจ้าของเพจ ‘ทำที่บ้าน’

กวาง–เสสินัน นิ่มสุวรรณ์ ทายาทธุรกิจปั๊มน้ำมันในลพบุรี และเจ้าของเพจ “ทำที่บ้าน” มีผู้ติดตามกว่า 2 แสนคน หลังสัมภาษณ์ทายาทกว่า 100 ครอบครัว พบว่าทายาททุกคนต้องเจอกับ “สามก้อนปัญหาใหญ่” ที่ไม่มีสูตรสำเร็จใดแก้ได้