Atom’s Last Shot   การต่อสู้ของคนตัวเล็ก ที่จะโดนธุรกิจยักษ์ใหญ่เทคโอเวอร์

TEXT : อรุษา กิตติวัฒน์

Main Idea

  • หลายต่อหลายครั้งในโลกของธุรกิจ SME เราอาจเคยได้เห็นเรื่องราวการต่อสู้ของคนตัวเล็กกับยักษ์ใหญ่มาบ้าง

 

  • หากอยากได้แรงบันดาลใจดีๆ ดูสนุก อยากนำเสนอ “Atom’s Last Shot” ซีรีส์ญี่ปุ่นให้ชมกันเพิ่มเติมด้วย

 

     Atom’s Last Shot เป็นซีรีส์ญี่ปุ่นที่ฉายทางสตรีมมิ่ง Disney+ Hotstar นำเสนอเรื่องราวของนักพัฒนาเกมอัจฉริยะ “จอห์น โด” ผู้ได้รับสมญานามว่าเป็น Banksy หรือศิลปินสตรีทอาร์ตนิรนามแห่งโลกวิดีโอเกม ซึ่งหวนคืนวงการ จับมือกับ “อะตอม” บริษัทผลิตของเล่นเก่าแก่ที่ใกล้ล้มละลาย และกำลังถูกบริษัทมหาชนยักษ์ใหญ่เทคโอเวอร์ เพราะต้องการครอบครองความรู้และเทคโนโลยีที่สั่งสมมายาวนาน 50 ปี การต่อสู้ระหว่างคนเล็กๆ กับยักษ์ใหญ่จึงเกิดขึ้น นอกจากเนื้อหาที่เข้มข้นสนุกทุกตอน ซีรีส์เรื่องนี้ยังแทรกความรู้ แง่คิด และสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ประกอบการได้เป็นอย่างดี         

เกมเรียบง่ายที่สร้างขึ้นด้วยความรัก
             

     ในปี 1978 เมื่อเกมอินเวดเดอร์เปิดตัว ทำให้คนทั่วโลกคลั่งไคล้เกมจากญี่ปุ่น อุตสาหกรรมเกมเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว  นินเทนโดเปิดตัวแฟมิคอม โซนีก็เปิดตัวเพลย์สเตชัน วิดีโอเกมพัฒนาไปอย่างน่าอัศจรรย์ แทรกซึมเข้าไปในชีวิตผู้คน ผู้เล่นเกมทั่วโลกเชื่อมต่อกันได้ทางออนไลน์ กลายเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่ทำเงินเกินหนึ่งแสนห้าหมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี มีคนเล่นเกมมากกว่าสามพันล้านคนทั่วโลก

     อุตสาหกรรมเกมเต็มไปด้วยความฝันและความท้าทาย มีผู้ลงมาเล่นในตลาดนี้ตั้งแต่บริษัทยักษ์ใหญ่ไปจนถึงนักพัฒนาเกมอิสระรายเล็กๆ เช่น จอห์น โด ผู้พัฒนาเกม “ดาวน์เวล” ในปี 2015 เริ่มต้นจากสองหนุ่ม นายูตะ กับ สึโก ที่อยากสร้างเกมให้ โคยะ เพื่อนอีกคนเล่น เมื่อดาวน์เวลไปได้สวย พวกเขาเริ่มฝันถึงการเป็นนักพัฒนาเกมระดับโลก และทุ่มเทกับโปรเจคท์ใหม่ที่มีความซับซ้อนมากขึ้น โคยะรับหน้าที่หาผู้ลงทุนและได้เซ็นสัญญากับบริษัทมหาชนซากาสโดยไม่ได้อ่านรายละเอียดอย่างรอบคอบ

     ต่อมาซากาสก็เปิดตัวเกมที่เหมือนกับออกมา พวกเขาเสียสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาของตัวเองไป โคยะจบชีวิตตัวเองด้วยความรู้สึกผิดต่อเพื่อน จอห์น โด ทั้งสองเผชิญความเจ็บปวดในแบบของตัวเองและเดินคนละเส้นทาง นายูตะไปทำงานเป็นช่างในอู่ซ่อมรถ ขณะที่สึโกตัดสินใจไปทำงานที่ซากาส

     ในปี 2022 เกมที่ถูกขโมยไปกลายเป็นเกมที่สร้างชื่อของซากาส มีการเปิดตัวเวอร์ชั่นใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เกมทุนต่ำอย่าง ดาวน์เวล ก็ยังคงได้รับความนิยมแม้จะผ่านไปหลายปี แม้ยอดดาวโหลดจะไม่มากนัก แต่ก็มีคะแนนรีวิวสูงสุด เทียบกับขณะที่เกมของซากาสแม้มียอดดาวโหลดสูงสุด แต่ก็มีคะแนนรีวิวต่ำลงไปในทุกๆ เวอร์ชั่น แต่ซากาสไม่สนใจเรื่องนี้ เพราะธุรกิจหลักคือการค้นหาข้อมูลบนอินเตอร์เน็ต สิ่งที่มีค่าที่สุดก็คือข้อมูลที่ได้จากคนเล่นเกมกว่าสามพันล้านคน      

 

แฟนพันธุ์แท้ และการสานต่อธุรกิจ

     อูมิ เป็นหนึ่งในสาวกเกมดาวน์เวล เธอทำงานฝ่ายสินเชื่อของธนาคาร พ่อของเธอซึ่งเป็นประธานบริษัทของเล่นอะตอมนำแผนธุรกิจฉบับแก้ไขมาขอกู้เงินที่ธนาคารอีกครั้ง เธอบอกให้พ่อมองดูความเป็นจริง สินค้าของเล่นอะตอมที่ขายไม่ออกวางกองเต็มทางเดิน ผลประกอบการบริษัทมีแต่แย่ลงเรื่อยๆ ปกติอายุขัยของบริษัทจะอยู่ที่ 30 ปี อะตอมอยู่มาตั้ง 50 ปีก็คงมากพอแล้ว เมื่อพ่อล้มป่วยเพราะภาวะเส้นเลือดในสมอง และขอให้อูมิรับช่วงกิจการต่อ เธอปฏิเสธ  

     สิ่งที่หล่อเลี้ยงจิตใจของนายูตะที่ใช้ชีวิตไปวันๆ คือการหยอดตู้กาชาของบริษัทอะตอม อธิษฐานขอให้ได้ตัวคาแรกเตอร์ที่ต้องการ แล้วหยอดเหรียญลงไป ลุ้นด้วยความรู้สึกตื่นเต้นรอคอยว่าจะได้อะไร แม้ทายาทธุรกิจอย่างอูมิมองว่าก็แค่ของเล่นพลาสติก แต่แฟนพันธุ์แท้อย่างเขาสัมผัสความรู้สึกของคนที่สร้างมันขึ้นมาได้ ซึ่งอยู่ในทุกๆ รายละเอียด ดีไซน์ที่ละเอียดยิบจนต่อยากมาก แต่ทำให้รู้สึกได้ถึงความเอาใจใส่ อะตอมทำสิ่งที่ที่อื่นไม่ทำ คงมีคนมากมายที่ร่าเริงมีกำลังใจขึ้นมาได้เพราะของเล่นอะตอม  

     ซากาสต้องการนำความรู้และเทคโนโลยีที่อะตอมพัฒนาและสั่งสมมา 50 ปี แปลงเป็นรูปแบบดิจิตอล พัฒนาขึ้นมาเป็นเกมสามมิติแนวใหม่ และจะจ้างพนักงานทั้งหมดที่ทำงานอยู่ด้วย อูมิคิดว่าโอกาสดีๆ แบบนี้หาไม่ได้อีกแล้ว แต่ก็เกิดเหตุไฟไหม้บริษัทเสียก่อน พนักงานทุกคนปลอดภัย ทว่าทุกอย่างก็ถูกเผาวอดวายไปหมด อูมิบอกพ่อให้ขายกิจการเพื่อจะได้เอาเงินมาสะสางหนี้ของบริษัท โทมินากะยอมรับว่าสถานการณ์ที่เป็นอยู่เลวร้ายสุดๆ แต่ปู่ก็ก่อตั้งกิจการขึ้นมาจากไม่มีอะไรเลย ต่อให้บริษัทไหม้ไปหมด แต่ตราบใดที่เขายังหลงเหลือความรู้สึกชอบของเล่นอยู่เต็มอก แค่นั้นก็พอแล้ว ของเล่นทำให้ผู้คนตื่นเต้นและมีรอยยิ้ม ยิ่งในเวลาแบบนี้ที่ห้ามสิ้นหวัง ต้องฝ่าฟันไปให้ได้

     อูมิบอกพ่อว่า เพราะโง่แบบนี้แหละแม่จึงหมดรักและออกจากบ้านไป แต่ว่าโง่แล้วยังมาได้ไกลขนาดนี้ ก็ทำให้เธอวางใจ เป็นถึงบริษัทที่ดิ้นรนต่อสู้ ต่อให้ครอบครัวต้องพัง จะมาแพ้แค่ไฟไหม้ได้ยังไง เธอตัดสินใจรับช่วงกิจการบริษัทของเล่นอะตอม ซึ่งตอนนี้เหลือเพียงห้องโรงรถของบ้าน ประสบการณ์ ความรู้ และคาแรกเตอร์ที่สั่งสมมา 50 ปี ในยุคนี้ขอแค่มีคอมพิวเตอร์ก็สร้างเกมได้ ไม่จำเป็นต้องผลิตหรือสต๊อกสินค้าแบบสมัยก่อน หากนำต้นทุนที่มีอยู่มาใช้ ก็น่าจะสร้างเกมที่สนุกและมี "จิตวิญญาณของอะตอม" ได้

     อูมิ ก็เป็นสาวกเกม ดาวน์เวล ทำไมเกมหน้าตาง่ายๆ ที่เปิดตัวมา 6 ปีแล้ว ยังมีคนเล่นอยู่ เพราะมันสนุกและคลายเครียดได้ดี ดังนั้นนักพัฒนาเกมที่เธอนึกถึงก็คือ “จอห์น โด” แบงชี่แห่งวงการเกม

ไม่ว่าต้องล้มกี่ครั้งก็ยังลุกขึ้นใหม่ได้

     นายูตะได้ร่วมงานกับบริษัทของเล่นที่เขาเป็นแฟนพันธุ์แท้มาโดยตลอด และ จอห์น โด ทั้งสองได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง พวกเขาต้องเผชิญอุปสรรคจากซากาส ทั้งโค้ดที่เขียนจนเกือบเสร็จหายไป ต้องเปลี่ยนมาสร้างฉากทั้งหมดด้วยมือ ซึ่งกลับถ่ายทอดความเป็นอะตอมออกมาได้ดีกว่า การปิดโอกาสหาผู้สนับสนุน และหลังจากพัฒนาเกมสำเร็จก็ถูกปิดกั้นช่องทางจำหน่าย ต้องเปิดตัวในร้านเกมเล็กๆ ให้คนเข้ามาทดลองเล่นฟรี เมื่อของที่ระลึกตัวคาแรกเตอร์เนกกี้ที่แจกในงานเปิดตัวถูกนำไปโพสต์ลงในโซเชียล แฟนคลับอะตอมทั่วโลกต้องการซื้อ อะตอมจึงขายคาแรกเตอร์ที่มีคิวอาร์โค้ดที่สามารถดาวโหลดเกมอะตอมมาเล่นได้ สองช่องทางนี้สนับสนุนกัน ทำให้สามารถจ่ายเงินกู้งวดแรกได้ 

     แต่อูมิก็ได้รู้ว่าผู้จัดการธนาคารหัวหน้าเก่าของเธอที่อนุมัติเงินกู้ให้เป็นพิเศษร่วมมือกับซากาส ตั้งใจใช้ช่องว่างของสัญญายึดบ้านและบริษัทขายทอดตลาดให้ซากาส บริษัทของเล่นอะตอมจึงต้องปิดกิจการถาวร อูมิย้ายออกไปเช่าห้องเล็กๆ อยู่กับพ่อ และกลับไปทำงานธนาคาร นายูตะกลับไปทำงานที่อู่ซ่อมรถและทำงานพิเศษเป็นครูผู้ช่วยที่โรงเรียนอนุบาล ต่อมาจึงพัฒนาเกมที่ช่วยฝึกทักษะให้เด็กๆ นำมาใช้ในชีวิตจริง ส่วนสึโกไปเป็นฟรีแลนซ์พัฒนาระบบจำลองอุบัติเหตุ พวกเขาได้รู้ว่าเกมเป็นได้มากกว่าความสนุก พวกเขาเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ก่อตั้งบริษัท ลูกหลานอะตอม พัฒนาเกมเพื่อการเรียนรู้ ขณะที่ซากาสกลับประสบปัญหาถูกกลุ่มทุนจากต่างประเทศเข้ามากว้านซื้อหุ้น

     เรื่องราวของคนหนุ่มที่ทะเยอทะยาน คนแก่ที่ทำงานด้วยความหลงใหล หญิงสาวที่กลับมาสานต่อธุรกิจครอบครัวด้วยความรักและผูกพัน และนักธุรกิจที่เจตนาดีต่อประเทศ แต่แย่งชิงของดีจากบริษัทเล็กๆ บทสรุปของเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร ตามไปดูได้จากซีรีส์เรื่องนี้    

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

อย่างอาร์ต! MAMAD แบรนด์แฟชั่น X ศิลปะ วาดลวดลายสไตล์ Semi Abstract สร้างความแปลก ออกแบบ “ศิลปะที่สวมใส่ได้”

“Me As My Art Daily” ศิลปะคือส่วนหนึ่งของตัวตนเราในทุกวัน คือนิยามของแบรนด์แฟชั่นสุดอาร์ตอย่าง MAMAD ที่นำเอาศิลปะและแฟชั่นมาผสานกัน กลายเป็นกระเป๋า เสื้อผ้า และหมวกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ความแปลกตา และสไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร

Nyana Nyana Eco Fashion อดีตสถาปนิกนักสู้มะเร็ง สู่เจ้าของแบรนด์แฟชั่นออร์แกนิก เป็นมิตรต่อผู้สวมใส่ และสิ่งแวดล้อม

Nyana Nyana Eco Fashion แบรนด์แฟชั่นของอดีตสถาปนิกหญิงสิงคโปร์ที่ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา แม้พบว่าป่วยเป็นมะเร็ง แต่ “Clara Simanjuntak” กลับใช้เป็นแรงบันดาลใจ เพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิต ทำสิ่งดีๆ รวมถึงการสร้างแบรนด์เสื้อผ้าจากผ้าออร์แกนิก

บ้านโอบอุ่น ธุรกิจเล็กๆ ของนักศึกษาพยาบาล ที่ทำให้คนแปลกหน้ากลายเป็นเพื่อนกัน

พาไปรู้จักบ้านโอบอุ่น ธุรกิจโฮมสเตย์เล็กๆ ที่ปลูกขึ้นกลางทุ่ง ของ อั้ม-พัชราภา อ่ำปั้นนักศึกษาพยาบาล ที่นั่งรถไฟจากพิษณุโลกไปเชียงดาวทุกสัปดาห์เพื่อมาทำโฮมสเตย์เล็กๆ ที่เปลี่ยนคนแปลกหน้าให้กลายเป็นเพื่อนกัน