ส่องนโยบายส่งเสริม SME 4 พรรคใหญ่ก่อนเลือกตั้ง ปี 66

TEXT : กองบรรณาธิการ

Main Idea

  • ก่อนเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤษภาคม รู้หรือไม่? ว่าพรรคการเมืองไหน มีนโยบายอะไรบ้าง

 

  • หลากหลายพรรคก็แข่งกันนำเสนอนโยบายต่างๆ ออกมามากมาย วันนี้เราชวนมาดูแต่ละพรรค มีข้อเสนออะไร มาหนุนผู้ประกอบการรายย่อยบ้าง

 

     เราได้รวบรวมนโยบายที่ส่งเสริม SME เอาไว้ให้ทุกคนที่มีสิทธิในการเลือกตั้งเป็นข้อมูลในการตัดสินใจ เพื่อให้ SME สามารถเติบโตเป็นกำลังสำคัญให้กับประเทศได้ ต้องคิดให้ดี เลือกอย่างฉลาด เพราะการเลือกครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อตัวเราเองในอนาคต 

พรรคประชาธิปัตย์

     SME ต้องมีแต้มต่อ 3 แสนล้าน ยกระดับ ขีดความสามารถของ SME ไทยให้สามารถแข่งขันทั้งตลาดภายใน และ ต่างประเทศ โดยเฉพาะกับธุรกิจขนาดใหญ่ได้ ตลอนจน เพื่อเสริมสร้าง ความมั่งคงให้กับเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ ทั้งนี้ จะดำเนินมาตรการ เพื่อเป็นแต้มต่อให้กับ SME 3 ข้อ

     แต้มต่อที่ 1 ด้านการผลิต สนับสนุนให้ SME มีการบริหารธุรกิจที่ ทันสมัย บนพื้นฐานของนวัตกรรมสมัยใหม่ เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดของการ ดำเนินธุรกิจ สร้างการยอมรับของตลาด และมุ่งปรับเปลี่ยนองค์กรสู่ยุค ระบบเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Transformation)

     แต้มต่อที่ 2 ด้านการตลาด ผลักดัน SME ให้มีโอกาสเข้าสู่ตลาดทั้ง ภายใน และต่างประเทศ โดยให้สิทธิพิเศษด้านการตลาดในนิทรรศการที่ เกี่ยวข้อง เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้า และบริการของตนต่อตลาดภายนอกได้

     แต้มต่อที่ 3 จัดตั้งกองทุน 3 แสนล้านบาท เพื่อให้กลุ่ม SME สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน สำหรับการพัฒนา ต่อเติม ขยายกิจการ ตลอดจนการเพิ่มทุนธุรกิจเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้กับประเทศ ต่อไปได้

    นโยบายเพิ่มเติมที่ https://www.democrat.or.th/นโยบาย/ 

พรรคก้าวไกล

      พรรคก้าวไกลเสนอนโยบาย แต้มต่อหนุน เงินทุนมี และภาษีช่วยเหลือSME  พรรคยังเน้นในเรื่องของการคัดค้านการควบรวมของธุรกิจรายใหญ่ เพื่อให้SMEมีโอกาสในการทำธุรกิจมากขึ้น ให้แรงงานและผู้ประกอบการเติบโตไปด้วยกัน

  • เพิ่มลูกค้าให้ SMEs โดยการเพิ่มแรงจูงใจให้ประชาชนที่เลือกซื้อสินค้า SME ได้รับแถมสลากกินแบ่งของรัฐบาลไปลุ้นรางวัล

 

  • สำหรับคนซื้อ หรือ ประชาชนทั่วไป: เมื่อซื้อสินค้าจาก SMEs ครบ 500 บาท สามารถแลกสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ 1 ใบ (จำกัดไม่เกิน 2 ใบ/คน/เดือน และ จำนวน 10 ล้านคน/เดือน)

 

  • เพิ่มโอกาสลุ้นหวยให้ SMEs โดยการนำยอดขายมาแลกเป็นสลากกินแบ่งของรัฐบาลได้ด้วย

 

  • สำหรับคนขาย หรือ ผู้ประกอบการ SMEs ที่เข้าร่วมโครงการ: เมื่อขายสินค้าครบ 5,000 บาท สามารถแลกสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ 1 ใบ

 

  • รัฐช่วยสมทบค่าประกันสังคมในส่วนของผู้ว่าจ้าง สำหรับแรงงานที่ถูกกระทบโดยการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ (6 เดือนแรก)

 

  • เปิดให้ SME นำค่าแรงมาหักค่าใช้จ่ายทางภาษีได้ 2 เท่า (2 ปีแรก)

 

  • ลดภาษีเงินได้นิติบุคคล SMEs ให้เหลือ 0-15%

 

  • ลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลให้ SMEs (ช่วงกำไร 3 แสนบาท ถึง 3 ล้านบาท) จาก 15% เป็น 10%

 

  • ลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลให้ SMEs (ช่วงกำไร 3 ล้านบาท ถึง 30 ล้านบาท) จาก 20% เป็น 15%

 

  • เปิดให้ SMEs หักค่าใช้จ่ายเหมาภาษีบุคคลได้เพิ่มเป็น 90% (จากเดิม 60%)

 

  • ปล่อยกู้ให้ SME เข้าถึงแหล่งทุนในระบบ (สำหรับเงินทุนหมุนเวียนและเงินทุนขยายกิจการ) โดยการจัดสรรงบอุดหนุนให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ค้ำประกันความเสี่ยงให้ SMEs เพื่อให้ SME กู้เงินได้โดยไม่ต้องใช้หลักประกัน ผ่าน 2 โครงการ: “ทุนแสนตั้งตัว” (1 แสนบาท/ราย) สำหรับ SME 200,000 ราย/ปี  และ “ทุนล้านสร้างตัว” (1 ล้านบาท/ราย) สำหรับ SME 25,000 ราย/ปี

 

  • จัดตั้งสภา SMEs ในทุกจังหวัด เพื่อให้ SMEs มีตัวแทนช่วยสะท้อนความต้องการสู่ทุกภาคส่วน

 

  • นิยาม SMEs ใหม่ ป้องกันไม่ให้กลุ่มทุนใหญ่แตกบริษัทออกมาเป็นบริษัทย่อยๆ เพื่อมารับสิทธิประโยชน์ของ SMEs ได้

 

     นโยบายเพิ่มเติมที่ https://election66.moveforwardparty.org/policy/collection/PolicyCategory/40 

พรรคเพื่อไทย

     พรรคเพื่อไทย เน้นแก้ปัญหาSME 3 ข้อ ที่กระทบSME คือ ต้นเงิน ต้นทุน ต้นตอของปัญหาด้วยกุญแจ 3 ดอก ด้วยการสร้างเขตธุรกิจใหม่ เพื่อดึงเงินนอก ปลุกเงินใน เปลี่ยนเงินที่หลับใหล เป็นเงินที่สร้างเงิน

     สร้างเขตธุรกิจใหม่ 4 แห่งเป็นพื้นที่นำร่อง ได้แก่ กรุงเทพ เชียงใหม่ ขอนแก่น และหาดใหญ่ ด้วยความพร้อมทางด้านมหาวิทยาลัย สนามบิน และโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมเพื่อขับเคลื่อน Start-ups และ SMEs สู่การสร้างรายได้ใหม่ให้แก่ประชาชน ด้วยกุญแจ 3 ดอก

     กุญแจดอกที่ 1 “กฎหมายธุรกิจชุดใหม่” เพื่อเป็นการปลดล็อกปัญหาการทำธุรกิจของ Start-ups และ SMEs ในทุกมิติรวมถึงดึงเงินนักลงทุนจากต่างชาติ เข้าแก้ไขปัญหาด้านใบอนุญาตต่างๆ ปัญหาแรงงาน การนำเข้าส่งออก และการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ 

     กุญแจดอกที่ 2 “สิทธิประโยชน์ใหม่” ให้สิทธิในการยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ภาษีนำเข้า จะไม่แพ้ที่ใดในโลก 

     กุญแจดอกที่ 3 “ระบบนิเวศทางธุรกิจใหม่” โดยการสร้างสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานใหม่ ระบบการศึกษาและการผลิตคนทำงานใหม่ ระบบธนาคารใหม่ เพื่อผลักดันให้ภาคเอกชนขับเคลื่อนได้

     นโยบายเพิ่มเติมที่ https://ptp.or.th/นโยบายหลักพรรคเพื่อไทย/นโยบายด้านเศรษฐกิจ

พรรคไทยสร้างไทย

     พรรคไทยสร้างไทยชูนโยบาย แก้หนี้ เติมทุน ลดรายจ่าย ขจัดอุปสรรค เปิดการลงทุนให้กับSMEเพิ่มเติม โดยสนับสนุนนิคมสำหรับเอสเอ็มอี ทำกองทุนนวัตกรรม และแพลตฟอร์มสำหรับเอสเอ็มอีด้วย โดยสนับสนุนให้มีกองทุนเพื่อSME

     กองทุนสร้างไทย

     แหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำ เงื่อนไขผ่อนปรน เพื่อผู้ประกอบการ SMEs ขนาดเล็กที่มีข้อจำกัดเข้าไม่ถึงแหล่งทุนสามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้ ซึ่งประกอบด้วย 5 กองทุนย่อย ได้แก่ กองทุน SMEs กองทุน Startup กองทุนวิสาหกิจชุมชน กองทุนการท่องเที่ยว และกองทุน Venture Capital

     กองทุน SMEs

     SMEs คือตัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยเพราะประเทศเรามี SMEs อยู่กว่า 3 ล้านราย จ้างงานกว่า 13 ล้านคน สร้าง GDP กว่า 5.60 ล้านล้านบาท หรือ 34.6% ของ GDP รวม แต่มี SMEs ไม่ถึง 400,000 ราย ที่สามารถกู้เงินจากธนาคารได้ SMEs กลางลงล่างเข้าไม่ถึงแหล่งทุน เช่น ธุรกิจการท่องเที่ยว ธุรกิจการบริการ ร้านอาหาร เราจึงจำเป็นต้องตั้งกองทุน SMEs เพื่อให้ SMEs ขนาดเล็กสามารถเข้าถึงแหล่งทุน เพื่อฟื้นธุรกิจจากโควิดและสามารถต่อยอดธุรกิจให้เติบโตต่อไปได้

     กองทุน Start Up

     เพื่อให้คนรุ่นใหม่ที่เก่งมีโอกาสตั้งตัวได้ หลังจากที่ทางพรรคได้มีนโยบายที่จะทำการแก้ไขกฎหมายต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการประกอบการหาเลี้ยงชีพของประชาชน รวมถึงผู้ประกอบการคนตัวเล็ก ซึ่งรวมถึงธุรกิจของคนตัวเล็กอย่างเช่น Startup ที่ทางพรรคตั้งใจจะให้โอกาสคนรุ่นใหม่ได้มีโอกาสตั้งตัวเป็นเจ้าของธุรกิจด้วยความรู้ความสามารถที่ตนเองเป็นผู้คิดค้นขึ้นมา กองทุน Start Up มีวัตถุประสงค์เพื่อการนี้

     กองทุนวิสาหกิจชุมชน

     เพื่อให้เกษตรกร และลูกหลานได้รวมตัวกันในการประกอบธุรกิจจากผลิตภัณฑ์ในพื้นที่ โดยการแปรรูปเพิ่มมูลค่าของสินค้าเกษตรกร

     กองทุนการท่องเที่ยว

     ที่มีเกี่ยวข้องหลายสิบล้านคนได้รับผลกระทบอย่างหนักในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา ทั้งผู้ประกอบการโรงแรมขนาดเล็ก ร้านอาหาร สถานบันเทิง จนไปถึงร้านนวดสปา

     กองทุน Venture Capital (VC) หรือ กองทุนธุรกิจเงินร่วมลงทุน

     เป็นแหล่งเงินทุนที่ทำหน้าที่สนับสนุนด้านการเงินให้แก่ธุรกิจ มุ่งเน้นไปที่ธุรกิจ Startup ที่มีเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมที่ก้าวหน้า หรือธุรกิจที่ทำงานด้านการวิจัยและพัฒนาเพื่อประโยชน์ของ SMEs โดยส่วนรวม รูปแบบทั่วไปของการเข้าไปช่วยเหลือ VC จะเข้าไปร่วมลงทุนในกิจการ เป็นช่วงที่ธุรกิจเริ่มมีรายได้เข้ามาแล้ว และต้องการใช้เงินทุนในการปรับปรุงสินค้า/บริการ เพื่อต้องการขยายกิจการ ขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น หรือการเข้าสู่ตลาดใหม่ๆ

     โดยทั่วไป VC จะมีระยะเวลาลงทุนประมาณ 3-5 ปี นานสุดไม่เกิน 10 ปี โดยจะมีการลงเงินเป็นรอบๆ ตาม Stage ของธุรกิจ นอกจากการให้เงินลงทุนแล้ว VC ยังให้คำปรึกษาทางด้านการบริหารกิจการ เพื่อให้สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว VC ภายใต้กองทุนนี้ไม่มีวัตถุประสงค์ในการเข้าครอบงำกิจการเพื่อยึดเป็นเจ้าของเหมือนดั่งเช่น VC อื่นๆ ทำกัน ถ้ากิจการเติบโตและขยายตัวได้ตามที่คาดหวัง VC ก็จะหาจังหวะที่เหมาะสมที่จะถอนตัว (Exit) เพื่อทำกำไรจากเงินลงทุน โดยวิธีการต่างๆ ที่ VC อาจเลือกเป็นทางออก ได้แก่ การขายหุ้นให้แก่กิจการขนาดใหญ่ที่มีความสนใจซื้อ การนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หรือการควบรวมกับกิจการอื่นและมีการแลกหุ้นกัน เป็นต้น

     นโยบายเพิ่มเติมที่ https://thaisangthai.org/party-policies/ 

     รักษาสิทธิของตัวเองไปเลือกตั้งกันนะครับ 1 เสียงของเรา อาจจะเป็นตัวกำหนดอนาคตของประเทศได้เลยนะ วันเลือกตั้งทั่วไป คือวันที่ 14 พฤษภาคม เข้าคูหาได้ตั้งแต่ 08.00-17.00 น. อย่าลืมพกบัตรประชาชนไปด้วย!

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

จับตาผลกระทบการค้าชายแดนไทย เส้นทางธุรกิจแม่สอดเปลี่ยนเป็นสนามรบ

กับสถานการณ์การสู้รบในเมียนมาใกล้ชายแดนไทยยังคงร้อนระอุนับตั้งแต่กองกำลังกะเหรี่ยง KNU และกองกำลังปกป้องประชาชน PDF “เข้ายึดฐานปฏิบัติการ 275 ในเมียวดี” ส่งผลต่อกระทบเส้นทาง “แนวระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก (East-West Economic Corridor-EWEC)” ของไทย

ทำธุรกิจซัก-รีด ยังไงให้มีรายได้สาขาละแสน ล้วงความลับกับเจ้าของแบรนด์ ตั้งใจซัก

หนึ่งในธุรกิจที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “เสือนอนกิน” นั้นต้องมีธุรกิจเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญติดในลิสต์เป็นอันดับต้นๆ ทำให้ธุรกิจนี้เติบโตเป็นพิเศษโดยเฉพาะในช่วงโควิดที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการที่สนใจเปิดธุรกิจนี้มากมาย แต่ถึงแม้จะเป็นธุรกิจเสือนอนกิน ใช่ว่าทุกคนจะเป็นเสือที่ได้กินธุรกิจนี้ง่ายๆ

Erabica Coffee ผู้ปักหมุด กาแฟน่าน ให้เป็นที่รู้จักระดับประเทศ

นี่คือสองสามีภรรยา ที่อยากมาใช้ชีวิตบั้นปลายที่น่าน คิดสร้างแบรนด์กาแฟของตัวเองขึ้นมาในชื่อ Erabica (เอราบิก้า) กลายเป็นการยกระดับกาแฟน่านเป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น