Koongtung (กุ้งถัง) ตั้งใจให้แตกต่าง







Text : กองบรรณาธิการ



    Koongtung ร้านอาหารซีฟู้ดเล็กๆ ณ  ตลาดนัดเลียบด่วนรามอินทรา ที่มีเพียง 8 โต๊ะ และเปิดบริการเวลา 18.00-24.00 น.แต่เชื่อหรือไม่ที่นี่กลับมีคิวจองโต๊ะถึง 70 คิวต่อวัน!! ทั้งๆ ที่เพิ่งเปิดบริการมาเพียง 2 เดือนเท่านั้น 

    ด้วยความตั้งใจตั้งแต่แรกที่จะมีธุรกิจเป็นของตนเอง และจะต้องแตกต่างไม่เหมือนใคร เพราะรู้ดีว่าความต่างนี่แหละจะนำไปสู่ความสำเร็จได้ในก้าวแรก  ดังนั้น ในขณะที่เป็นฟรีแลนซ์ให้กับงานออแกไนซ์ กิ๊ฟท์-ปิยฉัตร ปิยวัชรวิจิตร จึงพยายามมองหาธุรกิจที่เหมาะกับตัวเองและมีความแปลกใหม่สำหรับเมืองไทยไปด้วยตลอดเวลา 

    “เนื่องจากทำงานออแกไนซ์ แล้วมีโอกาสเดินทางไปทำงานที่อเมริกา ก็เลยพยายามดูโน่นดูนี่ว่ามีอะไรที่น่าสนใจบ้าง  ก็ไปเจอร้านอาหารซีฟู้ดซึ่งโดยสไตล์ของที่นั่นจะเป็นซีฟู้ดที่ทานกับซอสแล้วมีซอสให้เลือกเยอะมาก เสิร์ฟอาหารใส่ตะกร้า  แล้วก็ใช้มือรับประทาน ซึ่งจริงๆ แล้วการทานซีฟู้ดก็ควรจะเป็นเช่นนั้น เลยได้ไอเดียว่าน่าจะทำร้านอาหารซีฟู้ดในสไตล์แบบนี้บ้าง เพราะเท่าที่เห็นเมืองไทยยังไม่มีใครทำ ก็เริ่มศึกษาหาสูตรทำซอส แล้วทดลองทำไปเรื่อยๆ  เพราะเดี๋ยวนี้การหาความรู้ไม่ใช่เรื่องยากสามารถเสิร์ชหาได้ง่าย ทำจนกระทั่งได้ซอสที่ถูกใจ” 


 

 
    ปิยฉัตร เลือกที่จะเปิดร้านที่ตลาดนัดเลียบด่วนรามอินทรา ด้วยเหตุผลที่ว่าอย่างไรเสียก็ต้องมีคนมาเดิน และเปิดร้านเล็กๆ มีเพียง 8 โต๊ะ แต่สิ่งที่แปลกออกไปคือรูปแบบร้านอาหารซีฟู้ดทั้งในแง่เมนู และวิธีการรับประทาน กล่าวคือ ที่นี่ไม่ใช้จานใส่อาหาร ไม่มีช้อนให้ใช้รับประทานอาหาร แก้วน้ำก็เป็นแบบใช้ครั้งเดียว สิ่งเหล่านี้เป็นทั้งความสะดวกของทางร้าน และกลยุทธ์การตลาดที่ปิยฉัตรตั้งใจตั้งแต่แรก
     
    “การรับประทานอาหารซีฟู้ดที่ใช้มือรับประทานถือเป็นธรรมชาติของการทานอาหารประเภทนี้อยู่แล้ว ฉะนั้น เราก็เลยคิดว่าไม่จำเป็นต้องมีช้อน ส่วนจานเราก็ไม่มี ใช้กระดาษที่มีพลาสติกที่ทนความร้อนได้ สะอาด มีความปลอดภัย ปูวางบนโต๊ะ และเสิร์ฟวางอาหารลงบนกระดาษนั้น เมนูก็อาจจะไม่มีให้เลือกมากมายเหมือนร้านอาหารไทยทั่วไปคือวิธีการเลือกเมนูจะง่ายๆ มีวัตถุดิบให้เลือกแค่ 4 อย่าง คือ กุ้งขาว กุ้งแม่น้ำ หอยตลับ หอยแมลงภู่นิวซีแลน์ด์ แต่มีท็อปปิ้งให้เลือก และมีซอสให้เลือกหลายสูตร ในระดับความเผ็ดที่แตกต่างกัน ซึ่งแรกๆ ลูกค้าอาจแปลกใจแต่ก็ชอบในความแปลกใหม่ แล้วอาหารทะเลเราก็มีความสด”

 



    ด้วยรูปแบบร้านอาหารที่แปลกใหม่ ทำให้กลายเป็นกระแสการกบอกต่อกระจายในเวลาอันรวดเร็ว ปิยฉัตรเปิดร้าน Koongtung เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่ในวันนี้ร้านอาหารเพียง 8 โต๊ะ ต้องต่อคิวกันรับประทาน โดยมีคนหมุนเวียนเข้ามารับประทานถึง 70 คิว  ปิยฉัตร บอกว่า เนื่องจากร้านกุ้งถังเพิ่งเปิดไม่นานเเละเป็นร้านเล็กๆ ทางร้านจึงจัดระบบสำรองที่นั่งด้วยการ Walk in เขียนลำดับคิวด้านหน้าร้าน ไม่มีบริการสำรองที่นั่งทางโทรศัพท์ 

    “บางวันก็มีคนมารอคิวถึง 80 คิว ซึ่งเกินกว่าที่ร้านจะรับไหว ตอนนี้เต็มที่คือ 70 คิว เมื่อลูกค้ามาที่ร้าน ลงเบอร์โทรศัพท์ จำนวนคนแล้วก็สามารถไปเดินเล่นในตลาดนัดรอได้เลย และเมื่อถึงคิวทางร้านจะโทรตามเอง แล้วก็เป็นเช่นนี้แทบทุกวัน ล่าสุดเราจึงได้ขยายสาขา 2 ไปที่ JJ Green เรียบร้อยแล้ว และกำลังจะขยายสาขาไปที่หาดใหญ่เร็วๆนี้”

    เพราะพิสูจน์แล้วว่าความแปลกใหม่ไม่เหมือนใครในก้าวแรก ย่อมสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี และยังจะเป็นแรงผลักในการเติบโตไปข้างหน้าอีกด้วย 
    
ขอบคุณรูปภาพสวยๆจาก www.facebook.com/Koongtung
ติดต่อสอบถาม  08 6761 5558



RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

น้ำพริกโรยข้าวบ้านสองช่อ รสมือจากครัวบ้าน สู่ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ชีวิตคนยุคใหม่

“บ้านสองช่อ” คือน้ำพริกโรยข้าวที่เกิดจากความตั้งใจของ ภัชดาพร มากูล ผู้มองเห็นโอกาสในการพัฒนาน้ำพริกอาหารคู่ครัวไทยให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่พกพาสะดวก รับประทานง่าย และเข้ากับวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคในปัจจุบัน

เจ้ฮุ้งฟู๊ด ผักกาดดองปลอดสาร เริ่มต้นจากงานอดิเรก สู่ธุรกิจครอบครัวพ่อ แม่ ลูก

จากงานอดิเรกที่คิดจะทำเล่นๆ ในวัยเกษียณ กลับกลายเป็นธุรกิจหลักให้กับครอบครัว.. “เจ๊ฮุ้งฟู๊ด” ผักกาดดองปลอดสาร สูตรจีนแต้จิ๋ว ที่ใช้กรรมวิธีการดองจากน้ำซาวข้าวแท้ๆ จากเมล็ดข้าวหอมมะลิ ทำให้มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ และปลอดภัย

Party Villa Balloons ก้าวออกจากธุรกิจเดิม เติมความสำเร็จในธุรกิจใหม่

เมื่อสิ่งหนึ่งจบลงสิ่งใหม่ย่อมเกิดขึ้นเสมอ เพียงแค่ต้องปรับมุมมองใหม่ ไม่จมอยู่กับสิ่งเดิม เช่นเดียวกับ ธัญอินทร์ กิ่งรัตน์ เจ้าของแบรนด์ Party Villa Balloons ที่เปลี่ยนมือจากธุรกิจร้านกาแฟมาจับธุรกิจลูกโป่งจัดตกแต่งสถานที่