Toxic Leadership หรือผู้นำที่แสดงพฤติกรรมในเชิงลบ มักจะทำให้บรรยากาศการทำงานเป็นพิษ จนทำให้พนักงานรู้สึกไม่มีความสุข สุขภาพจิตใจแย่ และประสิทธิภาพในการทำงานลดลง แล้วมีสัญญาณอะไรที่บ่งบอกถึงผู้นำที่ Toxic บ้าง ไปดูกัน
ใครจะคิดว่า เพียงเพราะอยากให้ซอสมาสเตอร์ที่คิดค้นขึ้นเป็นที่รู้จักในวงกว้าง จึงเปิดร้านสุกี้พรศิริ ในพื้นที่ลานจอดรถของอพาร์ทเม้นท์ ที่เจ้าของพื้นที่ให้วันเวลาขายที่จำกัด จะกลายเป็นร้านสุกี้ที่มีคนต่อคิวรอ 80-100 คิวต่อคืน และทำยอดขายได้ 700 จาน
ถ้าอยากเป็นผู้นำยุคใหม่ พร้อมปั้นองค์กรให้มี Green Flag สะบัดไกว ซึ่งเป็นสัญญาณของความปลอดภัยและไม่เป็นพิษ ต้องจำและนำ A – Z แบบใหม่นี้ไปใช้
รู้จัก Mood Tracker เครื่องมือช่วยติดตาม บันทึก และวิเคราะห์อารมณ์ของตัวเองในแต่ละวัน ที่จะช่วยเช็คว่าวันนี้คุณอารมณ์เป็นแบบไหน?
หัวหน้าไม่ใช่มนุษย์ Perfect จึงเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนเคยทำผิดพลาด แต่หัวหน้าที่มีพฤติกรรม “เป็นพิษ” (Toxic) นอกจากจะทำให้บรรยากาศในการทำงานไม่ดีแล้ว ยังทำให้ผลผลิต (Productivity) ของทีมและองค์กรแย่ลงอีกด้วย
ปัญหาหลักในการเติบโตขยายตัวต่อของ SME คือ การปั้นพัฒนาพนักงานเพื่อแตกกิ่งก้าน ซึ่งก็มีหลากหลายปัจจัยที่ทำให้การพัฒนานั้นเกิดขึ้นได้ยากและมีปัญหาในหลายๆ มิติ วันนี้จะชวนมารู้จัก "Empathy" หรือความสามารถในการเข้าใจคนอื่นในมุมมองที่เขาเป็นกัน
การลางานของพนักงานในบริษัทที่เราเห็นอยู่กันในปัจจุบัน คือ มีลาป่วย ลากิจ ลาพักร้อน หรือลาคลอด เป็นต้น แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้มีหลายบริษัทได้ออกนโยบายการลาใหม่ๆ ออกมา เพื่อให้เข้ากับความเป็นอยู่ของพนักงานมากยิ่งขึ้น
จ้างงานแบบเงียบ (Quiet hiring) เป็นศัพท์ใหม่ของเทรนด์การทำงานปี 2023 มีความหมาย คือ การที่บริษัทหรือองค์กรเพิ่มทักษะและเติมช่องว่างในที่ทำงานได้โดยไม่ต้องจ้างพนักงานเข้ามาใหม่ และจะดีต่อ องค์กร และ พนักงาน อย่างไร
ปัจจัยอะไรที่จะทำให้พนักงานทำงานได้ดีขึ้นถ้าไม่ใช่เบี้ยเลี้ยง เรื่องนี้ได้เป็นประเด็นที่มีคนสงสัยและได้ทำการทดลองไว้เกือบ 100 ปีแล้ว เป็นการทดลองเชิงจิตวิทยาที่เรียกกันว่า Hawthorne Effect
ปัจจุบันได้มีเทรนด์ใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมายแม้แต่รูปแบบการทำงานที่เคยตอกบัตรก็เริ่มเปลี่ยนไป โดยการทำงานในยุคนี้จะเป็นการทำงานแบบผสมผสานระหว่างบ้านกับออฟฟิศ (Hybrid Workplace) กำลังกลายเป็นสิ่งปกติใหม่สำหรับหลายๆ องค์กร
ปัญหาโลกแตกที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ก็คือ “การหาตรงกลางระหว่างกันไม่เจอ” เพราะฉะนั้น การโดนกดดันอยู่เสมอจนนำไปสู่ความเครียดที่กัดกินทั้งร่างกายและจิตวิญญาณของคนทำงาน จึงกลายเป็นโจทย์แห่งความท้าทายที่เจ้าของธุรกิจต้องหาคำตอบให้เจอ