‘เรียนรู้ให้เป็น’ เชื่อเถอะ! ทุกการเปลี่ยนแปลงมีความหมายกับ SME เสมอ

TEXT : นิตยา สุเรียมมา
 


 

Main Idea
 
  • ในการทำธุรกิจแน่นอนว่าการพบเจอปัญหาอุปสรรคต่างๆ ย่อมเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว ซึ่งก็มีทั้งปัญหาที่ควบคุมได้และควบคุมไม่ได้ แต่สิ่งสำคัญคือ เราสามารถเรียนรู้อะไรจากวิกฤตครั้งนั้นได้บ้างหรือเปล่าต่างหาก
 
  • ในครั้งนี้จึงอยากชวนผู้ประกอบการ SME มาเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส โดยการตรวจเช็ก สำรวจธุรกิจของตัวเองว่ามีอะไรที่เราควรปรับและเปลี่ยน หรือมีอะไรที่พอลงมือทำได้บ้างในช่วงที่กำลังเกิดวิกฤตเช่นนี้
 
 

     Charles Darwin นักธรรมชาติวิทยาชาวอังกฤษ ได้กล่าวไว้ว่า มนุษย์ไม่ใช่เผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่จะมีชีวิตรอด หรือฉลาดที่สุดในการมีชีวิตอยู่ แต่คือ สิ่งที่สามารถปรับตัวและเปลี่ยนแปลงได้มากที่สุดต่างหาก


     นี่น่าจะเป็นคำกล่าวที่บอกได้ดีที่สุดถึงศักยภาพของมนุษย์ในยามเจอวิกฤตแต่ละครั้งตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ว่าเราสามารถผ่านพ้นมันมาได้อย่างไร เพราะมนุษย์ คือ ผู้ที่รู้จักปรับตัวกับสภาพแวดล้อมต่างๆ ได้ดีนั่นเอง ซึ่งครั้งนี้ก็เช่นกันนอกจากร่องรอยบาดแผลที่ทิ้งไว้แล้ว ลองมาดูกันสิว่าผู้ประกอบการธุรกิจสามารถเรียนรู้และปรับตัวจากวิกฤตนี้อย่างไรได้บ้าง ถ้าจะกล่าวคำว่า เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส เวลานี้น่าจะเหมาะสมที่สุดแล้วล่ะ
 



 
  • ยอมรับวิถีดิจิทัล
               
     หากคุณเป็นองค์กรหนึ่งที่อาจยังไม่ได้มีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้ในองค์กรมากนัก เวลานี้น่าจะเรียกได้ว่าดีที่สุดแล้วที่คุณจะลองเปิดใจนำนวัตกรรมต่างๆ เหล่านั้นเข้ามาทดลองใช้ในการบริหารจัดการธุรกิจของคุณดูบ้าง เพราะอย่างที่ได้เห็นแล้วว่าปัจจุบันมีตัวช่วยจากเทคโนโลยีสมัยใหม่เกิดขึ้นมากมาย แถมเทคโนโลยีสมัยนี้ก็มีราคาถูก และใช้งานได้ง่ายขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องลองสำรวจดูบ้าง เพื่อหาเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาใช้กับธุรกิจของตัวเองดู เช่น หากคุณเป็นร้านออฟไลน์อย่างเดียว ก็อาจนำออนไลน์เข้ามาใช้ หรือหากขายอาหารที่มีหน้าร้านอย่างเดียว ก็อาจลองใช้บริการดิลิเวอรีดูบ้าง
               
     ลองถามตัวเอง : เทคโนโลยีอะไรบ้างที่สามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับธุรกิจได้?
 



 
  • ค้นหาศักยภาพที่ซ่อนอยู่

     ในยามที่เกิดวิกฤตขึ้นเช่นนี้ อยากให้คุณลองตั้งคำถามกับตัวเองขึ้นมาสิว่า คุณจะสามารถใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ทั้งหมดอย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อตอบสนองความต้องการให้กับลูกค้าของคุณ ณ เวลานี้ได้อย่างไรบ้าง เพราะในเวลานี้การเอาตัวรอดให้ได้ คือสิ่งสำคัญที่สุด คุณอาจจะต้องลองปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจสินค้าหรือบริการของตัวเอง โดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในมือขณะนี้ เหมือนเช่นกับแบรนด์แฟชั่นเครื่องสำอางและเสื้อผ้าหลายแบรนด์กำลังทำกันอยู่ในขณะนี้ เช่น แทนที่จะมุ่งผลิตเครื่องสำอางคอลเลกชันใหม่ ก็อาจเลือกที่จะผลิตเป็นน้ำยาฆ่าเชื้อออกมาขายแทน หรือจากเสื้อผ้าดีไซน์ใหม่ๆ ก็หันมาผลิตหน้ากากอนามัยออกมาจำหน่ายแทน เป็นต้น
               
     ลองถามตัวเอง : ลูกค้าต้องการอะไรมากที่สุดในตอนนี้ ธุรกิจของเราจะเติมเต็มสิ่งเหล่านั้นได้อย่างไรบ้าง?
 



 
  • แบ่งปัน เพื่อสร้างคุณค่า
               
     เพราะทุกคนตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันหมดในขณะนี้ ไม่ว่าผู้ประกอบการหรือลูกค้าของธุรกิจเอง ดังนั้นถึงแม้อาจจะไม่สามารถช่วยเหลือหรือทำอะไรได้มากในตอนนี้ คุณอาจลองใช้เวลาว่างที่มีในช่วงนี้ใช้ศักยภาพ องค์ความรู้ คุณค่าที่มีอยู่สร้างให้เกิดประโยชน์ต่อลูกค้าและสังคมขึ้นมาได้ อย่าปล่อยให้สถานการณ์ที่เข้ามาเป็นเพียงแค่ฝันร้าย แต่จงใช้มันให้เกิดประโยชน์กับธุรกิจของคุณได้ อย่างน้อยๆ ก็เพื่อภาพลักษณ์ที่ดีของแบรนด์และการสื่อสารกับลูกค้าของคุณเอง เช่น หากเป็นร้านตัดผม ซึ่งตอนนี้หลายร้านปิดกิจการชั่วคราวอยู่ คุณอาจลองแบ่งปันภาพทรงผมเท่ๆ แนะวิธีจัดแต่งทรงพร้อมกับการสื่อสารข่าวสารไปถึงลูกค้าด้วย เช่น พวกเราคิดถึงคุณและหวังว่าจะได้พบกันในไม่ช้า
               
     ลองถามตัวเอง : เราจะมีวิธีมีส่วนร่วมและสื่อสารกับลูกค้าธุรกิจได้อย่างไรบ้าง?
 



 
  • มองหาพันธมิตรธุรกิจใหม่ๆ

     มีคำกล่าวที่ว่าถ้าต้องการเติบโตอย่างรวดเร็วให้ไปคนเดียว แต่ถ้าต้องการไปได้ไกลให้ไปด้วยกัน จากเดิมคุณอาจเคยชินกับการดำเนินธุรกิจเพียงลำพังคนเดียว แต่ในสถานการณ์เช่นนี้บางครั้งก็อาจยากลำบากเกินไปหากจะต้องรับมืออยู่คนเดียว คุณอาจลองมองหาพันธมิตรธุรกิจใหม่ๆ ที่สามารถทำประโยชน์ร่วมกันได้ด้วย อย่างน้อยๆ สองหัวก็ดีกว่าหัวเดียว ช่วยกันคิด ช่วยกันสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ นอกจากจะช่วยให้สร้างรายได้เข้ามาเพิ่มขึ้นแล้ว อาจทำให้คุณได้รู้จักลูกค้ากลุ่มใหม่ ตลาดใหม่ รวมถึงโอกาสธุรกิจใหม่ๆ เข้ามาด้วยก็ได้ ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวสามารถทำได้หลายระดับ ไม่จำเป็นต้องเป็นโปรเจกต์ใหญ่ๆ เสมอไป อาจเป็นโปรเจกต์เล็กๆ ความร่วมมือง่ายๆ ก่อนก็ได้ เช่น การทำโปรโมชั่นร่วมกัน การแบ่งปันพื้นที่วางจำหน่ายสินค้าร่วมกัน

     ลองถามตัวเองว่า : ธุรกิจของเราสามารถปรับเปลี่ยนหรือทำอะไรร่วมกับใครได้บ้าง?
 
  



 
  • เป็นเวลาที่ดีของการทดลองสิ่งใหม่
               
     ในยามสถานการณ์ปกติ ไม่ง่ายเท่าไรนักที่เราจะได้ทดลองหรือปรับเปลี่ยนอะไรอย่างที่อยากลองทำ เพราะอาจส่งผลกระทบในหลายส่วนได้ แต่ในยามที่ทุกอย่างไม่มีอะไรจะเสียแล้วเช่นนี้ ก็นับเป็นโอกาสที่ดีเช่นกันหากเราอยากทดลองทำสิ่งใหม่ๆ ซึ่งแม้จะไม่ได้ผลที่ดีก็ไม่เป็นไร แต่เราก็ได้เรียนรู้ และสามารถนำข้อผิดพลาดต่างๆ เหล่านั้นมาปรับปรุงแก้ไขในอนาคตได้ แน่นอนว่าคุณอาจต้องทดลองซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่จงอย่าล้มเลิกความพยายาม กล้าหาญ และอดทนไว้ คุณอาจได้ค้นพบสิ่งใหม่ที่ดีกับธุรกิจของตัวเองขึ้นมาได้

     ลองถามตัวเอง : สำหรับความคิดใหม่นี้ อะไร คือ ความล้มเหลว หรือเลวร้ายที่จะเกิดขึ้น และเราจะได้เรียนรู้อะไรจากมันบ้าง?
 
             

  

     แม้วิกฤตครั้งนี้จะหนักหนานัก แต่จงจำไว้ว่าคุณไม่ใช่เพียงคนที่ได้รับผลกระทบ ยังมีเพื่อนๆ ผู้ประกอบการ รวมถึงลูกค้าหลายคนที่ได้รับผลกระทบไม่แตกต่างกัน ฉะนั้นอะไรที่อยู่เหนือการควบคุมก็จงปล่อยวาง ลองคิดและลงมือทำในสิ่งที่คุณทำได้ดีกว่า แล้วเราจะผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน
 


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
 

RECCOMMEND: MANAGEMENT

พลังของ Introvert ! ศักยภาพเงียบที่ธุรกิจไม่ควรมองข้าม

Introvert ไม่ได้แค่ “อยู่เงียบๆ” แต่คือพลังสำคัญในโลกการทำงาน ทั้งคิดลึก ฟังเก่ง สร้างสรรค์ และนิ่งภายใต้แรงกดดัน มาดูกันว่าทำไมธุรกิจถึงไม่ควรมองข้ามพลังเงียบนี้

Quiet cracking เทรนด์ใหม่มนุษย์เงินเดือน เมื่อคนเก่งเริ่มหมดใจกับงานที่รัก

Quiet Cracking อาการแตกสลายแบบเงียบๆ ของคนรักงาน ที่ยังชื่นชอบในงานที่ทำอยู่ แต่เริ่มไปต่อไม่ไหว จากงานที่หนักเกินไป ทำเท่าไหร่ก็ไม่พอ เมื่อคนรักงาน หมดใจกับงานที่ทำอยู่ เราจะเยียวยาพวกเขายังไงดี อะไร คือต้นตอสาเหตุ ไปหาคำตอบกัน

Pet Friendly Workplace สูตรลับรักษาคนเก่ง ขององค์กรยุคใหม่

เมื่อก่อนใครพูดว่า “อยากพาน้องหมาน้องแมวมาทำงานด้วย” อาจโดนมองว่าแปลก แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้ว เพราะหลายองค์กรทั่วโลกหันมาจริงจังกับ Pet Friendly Workplace ซึ่งช่วยลดอัตราการลาออก และรักษาคนเก่งให้อยู่ในองค์กร