ท่องศัพท์ A - Z แบบใหม่ ผู้นำจำให้แม่น! 26 คำ แก้ปัญหาลูกน้องลาออกบ่อย!

Text: วันวิสา งามแสงชัยกิจ


     ใครยังท่อง A Ant มด, B Bird นก, C Cat แมว อยู่ต้องพักก่อน!!

     ถ้าอยากเป็นผู้นำยุคใหม่ พร้อมปั้นองค์กรให้มี “ธงเขียว (Green Flag)” สะบัดไกว

      ซึ่งเป็นสัญญาณของความปลอดภัยและไม่เป็นพิษ ต้องจำและนำ A – Z แบบใหม่แบบสับไปใช้

     รับรองดึงดูดใจลูกน้องให้รักและอยู่ด้วยกันไปนานๆ หมดห่วงปัญหาเรื่อง Turnover Rate และห่างไกลจากความสัมพันธ์สุด Toxic ที่ใครๆ ก็ติด Red Flag หรือธงแดงสุดอันตรายให้ เพราะเป็นเจ้านายขาโหดหรือเป็นองค์กรที่คนไม่โปรดปราน  

     - Appreciation: ชื่นชมพนักงานให้เป็น อาจกล่าวเป็นคำพูด มอบของ หรือให้เงินรางวัล  

     - Balance: สร้างสมดุลให้การทำงานและชีวิตทั้งกับตัวเองและลูกน้อง 

     - Creativity: ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ไม่ด้อยค่าความคิดคนอื่น เพียงเพราะแค่ไม่เหมือนกับตัวเอง

     - Diversity: ยอมรับในความหลากหลาย ไม่แบ่งแยก ไม่เหมารวมแบบมีอคติ

     - Empathy: มีความเห็นอกเห็นใจ เข้าใจและรับรู้ความรู้สึกของผู้อื่น ให้ความสำคัญกับมิติทางอารมณ์ของทีมงาน              

     - Flexibility: มีความยืดหยุ่น เปลี่ยนแปลงแผนงาน / การทำงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์จริงได้

     - Growth: ให้โอกาสเติบโต ก้าวหน้า พัฒนาหรือทำสิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลาแก่คนในองค์กร  

     - Health: ใส่ใจสุขภาพทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ทั้งของตัวเองและพนักงาน

     - Innovation: ให้คุณค่านวัตกรรมและการคิดค้นโซลูชันใหม่ๆ

     - Justice: มีความยุติธรรม ไม่ลำเอียง ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง / มีลูกรัก

     - Kindness: มีพื้นฐานของการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับทีมงาน และสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นบวก

     - Leadership: มีความเป็นผู้นำ ตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ รู้จักรับผิดและรับชอบ

     - Mistake: ตระหนักเสมอว่า คนเรานั้นผิดได้ พลาดเป็น

     - Negotiation: เจรจาต่อรองได้แบบมีเหตุและผล และคำนึงถึงจรรยาบรรณ ศีลธรรม และมนุษยธรรม  

     - Open-minded: ใจกว้าง ยอมรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง

     - Passion: ไฟลุกเสมอ แม้มอดก็ต้องรู้จักหาฟืนมาเติม พร้อมสนับสนุนให้ลูกน้องร่วมมีไฟในการทำงานไปด้วยกัน

      - Questioning: เปิดโอกาสให้ถาม สร้างบรรยากาศที่เปิดกว้างให้ทุกคนรู้สึกปลอดภัยในการถามคำถามแบบไม่ต้องกลัวว่าจะถูกตัดสินหรือมีผลกระทบใดๆ ตามมา                    

     - Respect: เคารพและให้เกียรติผู้อื่น ไม่ถือตัวว่าเหนือกว่า ให้คุณค่าและร่วมสร้างความเท่าเทียม

     - Safety: สร้างสภาพแวดล้อมการทำงานให้ปลอดภัย ทั้งในเชิงพื้นที่แบบกายภาพและความปลอดภัยทางใจ (Psychological Safety)

     -Team: สร้างทีมให้แข็งแกร่ง รู้จุดอ่อน-จุดแข็ง รู้ว่าต้องหาคนแบบไหนมาเติมเต็ม รู้ความสามารถและนิสัยใจคอของคนในทีม

     - Uplift: สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่น กระตุ้นทีมงานให้ทำงานร่วมกันอย่างมีความสุข มีประสิทธิภาพ และสร้างผลกระทบที่เป็นบวกต่อองค์กร

     - Vision: มีวิสัยทัศน์ มองการณ์ไกล ชัดเจนในความคิด และสามารถถ่ายทอดให้คนอื่นเข้าใจได้แบบง่ายๆ

     - Word: สามารถเลือกใช้คำได้เหมาะสม ไม่ปล่อยให้ใครตีความผิดพลาด หรือใช้คำพูดทิ่มแทงใจพนักงาน

     - X-ray: สแกนตัวตนและองค์กรอยู่เสมอว่า ยังมีอะไรที่เป็น Red Flag และจะเปลี่ยนให้เป็น Green Flag ได้อย่างไร

     - Yes, and…: สร้างบรรยากาศแห่งการยอมรับและส่งเสริมความคิดของกันและกันให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นด้วยการใช้ Yes, and…(โอเค/ ดี + เพิ่มไอเดียเข้าไปเรื่อยๆ) แทน Yes, but (อืม ไม่เอาอะ! ฟังดูไม่เข้าท่าเลย)

     - Zealous: มีความกระตือรือร้น ถึงเจออุปสรรค ความยาก หรืออะไรที่ไม่ถนัดก็ไม่ย่อท้อ   

 

อ้างอิง:

https://www.linkedin.com/pulse/a-z-guide-building-company-culture-puts-people-first-rahman

https://www.linkedin.com/posts/infographic-insights_abcs-of-a-positive-culture-credit-to-justin-activity-7231329091847696385-Klte

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MANAGEMENT

Quiet cracking เทรนด์ใหม่มนุษย์เงินเดือน เมื่อคนเก่งเริ่มหมดใจกับงานที่รัก

Quiet Cracking อาการแตกสลายแบบเงียบๆ ของคนรักงาน ที่ยังชื่นชอบในงานที่ทำอยู่ แต่เริ่มไปต่อไม่ไหว จากงานที่หนักเกินไป ทำเท่าไหร่ก็ไม่พอ เมื่อคนรักงาน หมดใจกับงานที่ทำอยู่ เราจะเยียวยาพวกเขายังไงดี อะไร คือต้นตอสาเหตุ ไปหาคำตอบกัน

Pet Friendly Workplace สูตรลับรักษาคนเก่ง ขององค์กรยุคใหม่

เมื่อก่อนใครพูดว่า “อยากพาน้องหมาน้องแมวมาทำงานด้วย” อาจโดนมองว่าแปลก แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้ว เพราะหลายองค์กรทั่วโลกหันมาจริงจังกับ Pet Friendly Workplace ซึ่งช่วยลดอัตราการลาออก และรักษาคนเก่งให้อยู่ในองค์กร

สูตรลับจัดการเวลาฉบับ Pickle Jar Theory  

จะทำอย่างไรให้สามารถบริหารเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่ปล่อยให้สิ่งเล็กๆ มาบดบังสิ่งใหญ่ที่เป็นหัวใจของธุรกิจ? เราเลยจะพาไปรู้จัก Pickle Jar Theory แนวคิดการให้ความสำคัญกับงานหลักที่มีผลต่อเป้าหมาย ขณะเดียวกันก็ยังจัดพื้นที่ให้กับงานรองที่จำเป็น แต่ไม่เร่งด่วนด้วย