ตลาดท่องเที่ยวปี 58 เงินจะสะพัดทั่วไทยเฉียด 8 แสนล้าน

     


    แม้นว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจะมีความสำคัญต่อภาคการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของไทยก็ตาม แต่นักท่องเที่ยวไทยก็เป็นอีกหนึ่งตัวแปรที่สร้างเม็ดเงินสะพัดไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ได้อย่างทั่วถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่การท่องเที่ยวไทยประสบภาวะวิกฤติ 

    หากจะให้มองทิศทางตลาด "ไทยเที่ยวไทย" ในปี 2558 มีหลายปัจจัยแวดล้อมที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศของคนไทย ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางท่องเที่ยวกันของกลุ่มครอบครัว กลุ่มเพื่อน รวมถึงกลุ่มองค์กร และการทำการตลาดของผู้ประกอบการธุรกิจที่เกี่ยวข้องร่วมกับพันธมิตร ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจสายการบินและธุรกิจโรงแรม รวมถึงสถาบันการเงิน 
 



    นอกจากนี้ คนไทยยังได้รับอิทธิพลจากสื่อสังคมออนไลน์มากขึ้น โดยเฉพาะการแบ่งปันรูปภาพและประสบการณ์ระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวไปยังจังหวัดต่างๆ ของไทย และเมื่อประกอบกับในปี 2558 ภาครัฐมีการส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวไทยภายใต้แคมเปญ “ปีท่องเที่ยววิถีไทย 2558” ซึ่งไม่เพียงแต่จะเป็นการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทยไปยังกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติเท่านั้น  แต่ก็ยังได้ให้ความสำคัญต่อการทำตลาดการท่องเที่ยวภายในประเทศเช่นกัน
 
    โดยเฉพาะการเน้นประชาสัมพันธ์สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญใน 12 เมืองต้องห้ามพลาด ได้แก่ ลำปาง น่าน เพชรบูรณ์ บุรีรัมย์ เลย สมุทรสงคราม ราชบุรี ตราด จันทบุรี ชุมพร ตรัง และนครศรีธรรมราช ที่ส่วนใหญ่เป็นปลายทางยอดนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวคนไทยอยู่แล้ว มีสัดส่วนนักท่องเที่ยวชาวไทยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณร้อยละ 90 ของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมดในแต่ละจังหวัด ซึ่งจะต่างจากเมืองท่องเที่ยวหลักของไทยอย่างภูเก็ตที่มีสัดส่วนนักท่องเที่ยวชาวไทยเพียงร้อยละ 30 ของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมดในจังหวัดภูเก็ต
 



     ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ภายใต้แคมเปญการท่องเที่ยว 12 เมืองต้องห้ามพลาดนี้ จะช่วยให้เกิดเม็ดเงินสะพัดไปสู่เมืองดังกล่าวเพิ่มขึ้นประมาณ 3,500 ล้านบาท เมื่อเทียบกับกรณีไม่มีแคมเปญดังกล่าว โดยแนวโน้มการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวและการใช้จ่ายระหว่างการเดินทางท่องเที่ยว ก็น่าจะส่งผลดีต่อธุรกิจบริการด้านท่องเที่ยวและธุรกิจเกี่ยวเนื่องในพื้นที่ 

     สำหรับผลจากมาตรการส่งเสริม 12 เมืองต้องห้ามพลาดของภาครัฐ คาดว่าจะยิ่งช่วยหนุนบรรยากาศการท่องเที่ยวของทั้ง 12 จังหวัด อย่างไรก็ดี บางพื้นที่ที่อาจจะมีการเติบโตที่โดดเด่น เช่น น่าน เพชรบูรณ์ เลย ตรัง ชุมพร ตราด เป็นต้น ส่วนหนึ่งก็มาจากจังหวัดดังกล่าวเป็นปลายทางที่คนไทยรู้จักและนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ประกอบกับในปัจจุบันมีธุรกิจสายการบินต้นทุนต่ำหลายรายเปิดเส้นทางการบินและเพิ่มจำนวนเที่ยวบินไปยัง 12 เมืองต้องห้ามพลาดมากขึ้น (เช่น น่าน ลำปาง เลย นครศรีธรรมราช เป็นต้น) นอกจากนี้บางจังหวัดอย่างบุรีรัมย์ก็อยู่ระหว่างการพัฒนาเป็นปลายทางท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sports Destination) เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่ม 

 

     
    แรงหนุนสำคัญอีกประการคือการนำค่าใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวทั้งแพ็กเกจทัวร์หรือค่าใช้จ่ายด้านที่พักในไทย มาลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลได้ แต่ต้องไม่เกิน 15,000 บาท โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า มาตรการนี้น่าจะช่วยให้เกิดเม็ดเงินสะพัดเพิ่มขึ้นประมาณ 3,800 ล้านบาท

    และจากปัจจัยแวดล้อมข้างต้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ในปี 2558 จะมีคนไทยเดินทางท่องเที่ยวในประเทศจำนวนประมาณ 148.5 ล้านคน-ครั้ง  ซึ่งจะช่วยสร้างเม็ดเงินสะพัดไปยังธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องมูลค่าประมาณ 7.72 แสนล้านบาท โดยการขยายตัวที่โดดเด่นน่าจะมาจากการเดินทางท่องเที่ยวของคนไทยไปยังเมืองท่องเที่ยวในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(อีสาน) และภาคใต้ ซึ่งมีสัดส่วนรวมกันเกือบครึ่งของตลาดไทยเที่ยวไทยทั้งหมดในปีนี้ 

    สำหรับความคึกคักของตลาดไทยเที่ยวไทยในแต่ละภาคค่อนข้างแตกต่างกัน ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยด้านสภาพอากาศซึ่งส่งผลต่อบรรยากาศการท่องเที่ยว อาทิ คนไทยนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวสัมผัสอากาศหนาวเย็นในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสานในช่วงปลายไตรมาส 3 (ช่วงปลายฝนต้นหนาว) ต่อเนื่องถึงไตรมาส 1 ของปีถัดไป 
 



    ขณะที่ภาคใต้เป็นปลายทางท่องเที่ยวที่คนไทยเลือกเดินทางไปตลอดทั้งปี ซึ่งรวมถึงในช่วงไตรมาส 3 ที่ประเทศไทยก้าวเข้าสู่ฤดูฝน แต่คนไทยก็ยังเดินทางไปท่องเที่ยวในภาคใต้อยู่ ส่วนหนึ่งก็ด้วยความเข้มข้นของการจัดโปรชั่นต่างๆ ของผู้ประกอบการในพื้นที่ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยทดแทนตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ชะลอตัวในช่วงดังกล่าว (ที่เป็นช่วงโลว์ซีซั่นของต่างชาติ) เป็นต้น 

     อย่างไรก็ดี ภาวะค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้นในปัจจุบัน อาจจะส่งผลต่อพฤติกรรมการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศของคนไทยบางกลุ่ม ให้มีการปรับแผนการเดินทาง เช่น การเดินทางแบบเช้าไป-เย็นกลับ การเดินทางท่องเที่ยวระยะใกล้ รวมถึงการใช้เวลาค้นหาข้อมูลต่างๆ มากขึ้น เพื่อแสวงหาโปรโมชั่นราคาค่าตั๋วเครื่องบินโดยสาร/ค่าห้องพัก เป็นต้น

 

RECCOMMEND: MARKETING

มิติใหม่แห่งการย้อมสีผม ใช้ “ใบตอง” แทนฟอยล์ ลดต้นทุน ลดโลกร้อนง่ายๆ แบบ 2 in 1  

ปกติเวลาที่พูดถึงใบตองสด ภาพแรกๆ ที่เด้งขึ้นมาในหัวของเรา ไม่ใช้ห่อขนมไทย ก็คงนึกถึงเทศกาลลอยกระทง แต่วันนี้น้องใบกล้วยสีเขียวคุ้นตานั้นมาในลุคที่เดิร์นกว่าคือ “ใช้ห่อผมเวลาทำสี” แทนฟอยล์กันแล้ว

เคสยาดม ชวนหิว ไอเดียทำเงิน จากไอเทมฮิต ว้าว! จนอยากหยิบมาใช้

พบไอเดียสุดเก๋ “เคสยาดม ฉบับคนหิว” ที่นำเอาเมนูสรีทฟู้ดแบบไทยๆ รวมถึงอาหารฟาสฟู้ดมาปั้นด้วยดินไทย ทำเป็นเมนูต่างๆ อาทิ ผัดไท, ส้มตำ, ก๋วยเตี๋ยว, มาม่า ต้มยำกุ้ง, แฮมเบอร์เกอร์, ถังไก่ KFC

รู้จัก FOMO Marketing กลยุทธ์ปลุกความกลัวพลาด ที่ช่วยเร่งยอดขายโต

ลูกค้าไม่ได้ซื้อเพราะอยากได้เสมอไป แต่ซื้อเพราะ ‘กลัวพลาด’ รู้จัก FOMO Marketing กลยุทธ์ต้นทุนต่ำที่ช่วยให้ SME ปิดการขายได้ไวขึ้น