ส่อง 10 เทรนด์ธุรกิจเกษตรทำเงินในตลาดโลก

Text วิมาลี วิวัฒนกุลพาณิชย์

 

 

     หนึ่งในปัจจัยสี่พื้นฐานสำคัญของมนุษย์คือ “อาหาร” นี่อาจส่งผลต่อกระแสธุรกิจที่กำลังมาแรงและเป็นที่สนใจของคนรุ่นใหม่ในเวลานี้คือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร สอดคล้องกับที่ธนาคารโลกระบุว่าอุตสาหกรรมการเกษตรเป็นอุตสาหกรรมหลักอย่างหนึ่งที่ผลักดันผลิตภัณฑ์มวลรวมหรือจีดีพีของโลกเนื่องจากเป็นภาคธุรกิจที่เลี้ยงปากท้องของชาวโลกจำนวนหลายพันล้านคนในแต่ละวัน ข้อมูลวิเคราะห์ของบริษัทรีเสิร์ชแอนด์มาร์เก็ตชี้ธุรกิจการเกษตรในตลาดโลกเมื่อปี 2020 ที่ผ่านมามีมูลค่า 3.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ก่อให้เกิดการจ้างงานแก่ผู้คนราว 1,400 ล้านคนทั่วโลก

     สำหรับผู้ที่สนใจทำธุรกิจการเกษตรที่ไม่ต้องใช้เงินลงทุนในการเบื้องต้นสูงนัก วันนี้เรามี 10 อันดับธุรกิจเกษตรที่สร้างรายได้ทำกำไรในตลาดโลกมาเล่าสู่กันฟัง

1. การทำฟาร์มสัตว์ปีก (Poultry Farming)

     มูลค่าตลาดโลก 319,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นธุรกิจในภาคการเกษตรที่ทำกำไรสูงสุดคือการทำฟาร์มสัตว์ปีก ในที่นี้น่าจะหมายถึงไก่เป็นหลัก ก็เพราะเป็นที่ต้องการในตลาด และเป็นความต้องการที่สูงและคงที่อยู่ตลอดเวลา ทั้งยังเป็นอุตสาหกรรมที่เติบโตเร็วสุดด้วย ประเทศที่ผลิตเนื้อสัตว์ปีกมากสุด 3 อันดับแรกของโลกในปี 2019 ได้แก่ สหรัฐฯ (23 ล้านตัน) จีน (20 ล้านตัน) และบราซิล (16 ล้านตัน) และหนึ่งในบริษัทที่ผลิตเนื้อไก่มากสุดในโลกได้แก่ บริษัทไทสัน ฟู้ดส์ ในสหรัฐอเมริโดกา ยทำรายได้ถึง 10,500 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปี 2021   

 

2. ธุรกิจปุ๋ย (Fertilizer)

     มูลต่าตลาดโลก 196,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ธุรกิจนี้ครอบคลุมทั้งการผลิตและจำหน่ายปุ๋ย ปัจจัยหลักสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้ภาคธุรกิจนี้ประสบความสำเร็จอย่างมีนัยยะคือการเติบโตของภาคการเกษตร รวมถึงการที่เกษตรกรจำเป็นต้องปรับปรุงที่ดินเพาะปลูกให้อุดมสมบูรณ์ และเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร การลงทุนในธุรกิจจำหน่ายปุ๋ยและวัสดุปรับปรุงดินจึงน่าสนใจ

3. เครื่องทุ่นแรงในฟาร์ม (Farm Machinery)

     มูลค่าตลาดโลก 103,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เครื่องทุ่นแรงหรือเครื่องจักรกลเข้ามามีบทบาทในภาคการเกษตรตั้งแต่การปรับพื้นที่เพาะปลูก  การจ่ายน้ำ การเพาะปลูก การให้ปุ๋ย การผลิตฟาง ไปจนถึงการเก็บเกี่ยว ประกอบกับแนวทางการทำการเกษตรยุคใหม่ที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีต่าง ๆ ให้การทำการเกษตรในรูปแบบใหม่ง่ายและสะดวกมาขึ้น ที่เกี่ยวเนื่องกับการเกษตร บวกกับรายได้จากฟาร์มที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ตลาดเครื่องจักร เครื่องทุ่นแรงทางการเกษตรเติบโตโดยคาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่องในอีกหลายปีข้างหน้า

4. ผัก-ผลไม้อินทรีย์ (Organic Fruits and Vegetables)

     มูลค่าตลาดโลก 30,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ การปลูกผักผลไม้ออร์แกนิกสามารถก่อให้เกิดกระแสรายได้ที่มั่นคง และเป็นธุรกิจหนึ่งที่ที่เติบโตเร็วสุดในอุตสาหกรรมการเกษตรเนื่องจากความต้องการอาหารเพื่อสุขภาพมีอยู่ตลอด ผักผลไม้ออร์แกนิกจำหน่ายได้ราคาสูง ทำกำไรดีเพราะผู้บริโภคย่อมจ่ายแพงขึ้นเพื่อให้ได้สินค้าที่ปลอดสารเคมีและยาฆ่าแมลง เรียกได้ว่าเป็นสินค้าที่สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

5. การเพาะเห็ด (Mushroom Cultivation)

     มูลค่าตลาดโลก 16,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับคนที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจเกี่ยวกับเกษตรกรรมแบบลงทุนน้อยแต่กำไรดี การทำฟาร์มเห็ดอาจเป็นทางเลือกที่ดี โดยเลือกเพาะเห็ดชนิดที่ตลาดต้องการ เช่นเห็ดหอม หรือเห็ดนางรมหลวง เห็ดนางฟ้าภูฏาน เป็นต้น เหล่านี้เป็นเห็ดขายดีตลอดกาล หรืออาจจะลองเพาะเห็ดที่จำหน่ายได้ในราคาสูงอย่างเห็ดแชมปิญองหรือเห็ดกระดุม หากทำได้จะสร้างรายได้งามทีเดียว

6. อาหารจากพืช (Vegan Food)

     มูลค่าตลาดโลก 14,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เหตุผลที่ตลาดอาหารวีแกนเติบโตและความต้องการเพิ่มมากขึ้นทุกขณะไม่ใช่เพราะผู้บริโภคคำนึงถึงเรื่องสุขภาพอย่างเดียวแต่ยังเกี่ยวข้องกับการใส่ใจสิ่งแวดล้อม อย่างที่ทราบกัน การทำปศุสัตว์และกระบวนการแปรรูปเนื้อสัตว์เป็นอุตสาหกรรมที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเข้าสู่บรรยากาศจำนวนมาก ผู้บริโภคที่ตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมจึงเปลี่ยนมาทานอาหารจากพืชแทน ช่วงหลังจะเห็นเหล่าสตาร์ทอัพได้พัฒนาโปรตีนจากพืชกันเป็นล่ำเป็นสันจนทำให้แจ้งเกิดในตลาดโลกอย่างงดงาม อาทิ บริษัท Beyond Meat ที่ปี 2020 รายได้เพิ่มขึ้น 36.6 เปอร์เซนต์มาอยู่ที่ 406.8 ล้านดอลลาร์

7. การเพาะผักต้นอ่อน (Microgreens)

     มูลค่าตลาดโลก 10,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ข้อมูลจาก greenery.org ระบุไมโครกรีนเป็นที่รู้จักครั้งแรกช่วงกลางยุค 80 เมื่อร้านอาหารในแคลิฟอเนียร์นำต้นกล้าของผักโขมสีแดงมาใช้ตกแต่งเมนูอาหารโดยไม่รู้เลยว่าพวกมันอุดมด้วยวิตามิน ไม่นานนักโภชนาการก็พบว่าผักจิ๋วเหล่านี้มีสารอาหารมากกว่าผักโตเต็มวัย ทว่ากระแสไมโครกรีนก็เงียบหายไปราวกลางยุค 90 ก่อนกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้งพร้อมเทรนด์กินดีอยู่ดีเมื่อเร็วๆ นี้ ผักต้นอ่อนที่ได้รับความนิยมได้แก่ ต้นอ่อนทานตะวัน ต้นอ่อนข้าวสาลี หรือวีทกราสไควาเระ หรือต้นอ่อนหัวไชเท้า และโตวเหมี่ยว หรือต้นอ่อนถั่วลันเตา

8. การเลี้ยงผึ้ง (Apiculture

     มูลค่าตลาดโลก 8,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ การเลี้ยงผึ้งเป็นอีกธุรกิจในภาคการเกษตรที่ทำกำไรดีเนื่องจากความต้องการน้ำผึ้ง และผลิตภัณฑ์พลอยได้เป็นที่ต้องการสูงในตลาดและน้ำผึ้งแท้จากธรรมชาตินั้นหายาก ทำให้เกิดฟาร์มเลี้ยงผึ้งเชิงพาณิชย์ผุดขึ้นจำนวนมากทั่วโลก เหตุผลที่น้ำผึ้งเป็นที่ต้องการในอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะธุรกิจอาหารเนื่องเพราะกระแสสุขภาพทำให้ผู้บริโภคหันมาใช้น้ำผึ้งแทนน้ำตาล และน้ำผึ้งก็มีภาพลักษณ์ดีในฐานะอาหารเพื่อสุขภาพอย่างหนึ่ง

9. Smart Farming หรือเกษตรแม่นยำสูง (Precision Farming)

มูลค่าตลาดโลก 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เกษตรแม่นยำสูงคือรูปแบบการเกษตรที่นำเอาเทคโนโลยี อาทิ ซอฟต์แวร์ ปัญญาประดิษฐ์ และระบบการจัดการข้อมูลมาใช้ภายในฟาร์ม เพื่อการบริหารจัดการพื้นที่ในฟาร์มให้มีความเหมาะสมและแม่นยำยิ่งขึ้น เช่น การนำ Internet of things (IoT) หรือ ”อินเทอร์เน็ตแห่งสรรพสิ่ง” มาใช้ควบคุมปัจจัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะสภาพอากาศ อุณหภูมิ ความชื้น น้ำ ทำให้ผลผลิตที่ออกมาได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย เรียกง่าย ๆ ว่าเป็นการทำ smart farming ที่เกษตรกรสามารถคาดเดาสิ่งที่จะเกิดขึ้น ในอนาคตได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้นนั่นเอง

10. เกษตรแนวตั้ง (Vertical Farming)

     มูลค่าตลาดโลก : 3,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เกษตรแนวตั้งหรือเรียกอีกอย่างการทำการเกษตรในอาคาร (Indoor Agriculture) เป็นธุรกิจในภาคการเกษตรที่ทำกำไรเป็นลำดับ 10 และเป็นธุรกิจที่มักเกิดขึ้นในพื้นที่เมืองจึงแก้ปัญหาเรื่องพื้นที่จำกัด  ยกตัวอย่าง การทำฟาร์มแนวตั้งในพื้นที่ปิด เช่น ตู้คอนเทนเนอร์ หรือบนหลังคาอาคาร นอกจากนั้น พืชผักที่ปลูกมักเก็บเกี่ยวได้เร็วกว่าเมื่อเทียบกับเกษตรแบบดั้งเดิม สตาร์ทอัพหลายแห่งหันมาจับธุรกิจนี้ และส่วนใหญ่ได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากนักลงทุน

 

Cr: https://finance.yahoo.com/news/10-most-profitable-agricultural-business-071053845.html

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
                 

RECCOMMEND: MARKETING

มิติใหม่แห่งการย้อมสีผม ใช้ “ใบตอง” แทนฟอยล์ ลดต้นทุน ลดโลกร้อนง่ายๆ แบบ 2 in 1  

ปกติเวลาที่พูดถึงใบตองสด ภาพแรกๆ ที่เด้งขึ้นมาในหัวของเรา ไม่ใช้ห่อขนมไทย ก็คงนึกถึงเทศกาลลอยกระทง แต่วันนี้น้องใบกล้วยสีเขียวคุ้นตานั้นมาในลุคที่เดิร์นกว่าคือ “ใช้ห่อผมเวลาทำสี” แทนฟอยล์กันแล้ว

เคสยาดม ชวนหิว ไอเดียทำเงิน จากไอเทมฮิต ว้าว! จนอยากหยิบมาใช้

พบไอเดียสุดเก๋ “เคสยาดม ฉบับคนหิว” ที่นำเอาเมนูสรีทฟู้ดแบบไทยๆ รวมถึงอาหารฟาสฟู้ดมาปั้นด้วยดินไทย ทำเป็นเมนูต่างๆ อาทิ ผัดไท, ส้มตำ, ก๋วยเตี๋ยว, มาม่า ต้มยำกุ้ง, แฮมเบอร์เกอร์, ถังไก่ KFC

รู้จัก FOMO Marketing กลยุทธ์ปลุกความกลัวพลาด ที่ช่วยเร่งยอดขายโต

ลูกค้าไม่ได้ซื้อเพราะอยากได้เสมอไป แต่ซื้อเพราะ ‘กลัวพลาด’ รู้จัก FOMO Marketing กลยุทธ์ต้นทุนต่ำที่ช่วยให้ SME ปิดการขายได้ไวขึ้น