รู้จัก Gamification กลยุทธ์ทำให้ลูกค้าซื้อซ้ำได้ถึง 700% วิธีที่ SME นำไปปรับใช้ให้เกิดผลทางธุรกิจ

 

 

      เคยสงสัยไหมว่าทำไมเด็กๆ หรือแม้แต่ผู้ใหญ่หลายๆ คนติดการเล่นเกม เพราะในเกมต้องไต่ระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ จึงจะประสบความสำเร็จ ภานุวัฒน์ สัจจะวิริยะกุล Co-Founder of Nudge Thailand เผยว่า Nudge องค์กรที่ต้องการเผยแพร่องค์ความรู้เกี่ยวกับเรื่องเศรษฐศาสตร์ พฤติกรรมและพฤติกรรมศาสตร์ ให้แก่คนไทย กล่าวว่า Gamification คือ การนำเอาบางส่วนของเกมมาใช้ โดยจะใช้เทคโนโลยีทางจิตวิทยาจากเกมเพื่อมาสร้างแรงจูงใจให้คนรู้สึกเต็มใจ “ทำพฤติกรรม” บางอย่างจนเป็นนิสัยมาปรับใช้ในธุรกิจคือ อยากให้เกิดการทำซ้ำ Gamification สร้างขึ้นมาเพื่อให้คนติดหรือสนุกกับมัน จนวางไม่ลงเหมือนถูกกระตุ้นอะไรบางอย่าง หรือให้ผู้ใช้ได้ใช้งานต่อเนื่อง รวมถึงเกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมบางอย่างได้เช่นกัน

      ในความเป็นจริงแล้ว gamification ไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัวเลย บางที่หลายสิ่งที่เราใช้อยู่ทุกวันมันก็คือ gamification เช่น บัตรสะสมแต้ม การใช้ points หรือ การสะสมแต้มเพื่อสิทธิประโยชน์ต่างๆ อีกองค์ประกอบหนึ่งที่เห็นได้บ่อยๆ คือ “ลีดเดอร์บอร์ด” (leaderboard) ซึ่งก็คือตารางเปรียบเทียบคะแนนผู้เล่นว่าใครนำอยุ่เพื่อกระตุ้นให้เกิดการแข่งขันนั่นเอง

ทำไมธุรกิจต้องใช้ gamification

      จากงานวิจัยของ Sailer, Hense, Mayr และ Mandl พบว่า gamification ถูกนำไปประยุกต์ใช้ทั้งในการทำงาน การศึกษา การเก็บข้อมูล การรักษาสุขภาพ การตลาด

      ภานุวัฒน์ อธิบายเพิ่มว่า หลักการการทำ Gamification นั้นจะเน้นทำเพื่อสร้าง Engagement และ Motivation ซึ่งสามารถนำไปปรับใช้ในองค์กรได้ 2 มิติ คือ หนึ่ง ใช้กับลูกค้า เน้นเรื่อง CRM customer relationship management และ marketing บ้าง สอง ใช้กับลูกน้อง เน้นเรื่องการ learning หรือการเทรนพนักงาน

     “ข้อมูลจาก Talent LMS, Neil Patel ได้รวบรวมข้อมูลผลลัพธ์จากการใข้ Gamification เกิดการซื้อซ้ำ Conversion rate 700% การเทรนนิ่งในองค์กรก็ดีขึ้น 97% แม้แต่กับพนักงานที่อายุ 45


ขั้นตอนการเริ่มใช้ Gamification สำหรับ SME

1. เลือกกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน (ลูกค้ากลุ่มไหน, ลูกน้องทีมไหน)
2. วางแผนระบบการเล่น (ใช้กลไกไหนในการให้คนเข้ามาเล่น) ลูกค้าบางกลุ่มอาจไม่ชอบสะสมแต้ม เช่นถ้าเป็นสินค้าราคาแพง ยากจะซื้อครบ 10 ชิ้นแถมฟรี 1 อาจไม่เหมาะกับสินค้าราคาแพง
3. สร้างวงจรความสัมพันธ์ (แรงขับอะไรที่ทำให้คนเล่นซ้ำ) เช่น ธุรกิจไดเร็กเซลล์ ที่ตัวแทน อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์ความงาม มี tier คนก็อยากได้ status ต้องเข้าใจ phycology behind
4. เลือกตัวชี้วัดความสำเร็จ (เช่น Active users, Engagement, Conversions)