“เถ้าแก่น้อย” เข้าร่วมงาน THAIFEX – Anuga Asia 2022 เพื่อขยายฐานการส่งออก

 

     งานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่ยิ่งใหญ่และครบวงจรที่สุดแห่งเอเชีย เปิดต้อนรับผู้จัดแสดงสินค้าและผู้เข้าร่วมงาน ณ อิมแพ็คเมืองทองธานีอย่างเป็นทางการ พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มและผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์ เชื่อมต่อธุรกิจอย่างครบครัน ระหว่างวันที่ 24-28 พฤษภาคม 2565 รวบรวมผู้เล่นระดับแนวหน้าในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่นำทัพสู่การพัฒนาในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ครอบคลุมกลุ่มสินค้าชา กาแฟ เครื่องดื่ม อาหารรสเลิศ บริการด้านอาหาร เทคโนโลยีอาหาร อาหารแช่แข็ง ผักและผลไม้ เนื้อสัตว์ ข้าว อาหารทะเล และขนมและของหวาน จัดแสดงเทคโนโลยีและการพัฒนาล้ำสมัยในการออกแบบและผลิตสินค้าที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ในขณะที่ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมอาหารกำลังก้าวสู่ยุคแห่งโอกาสเชิงบวกและการเติบโตด้วยนวัตกรรมในการพัฒนาที่ไร้ขีดจำกัด!

      จิระวิทย์ วงษ์พิทักษ์ ผู้อำนวยการสายงานแบรนด์และการตลาดต่างประเทศ บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดเเอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) ให้สัมภาษณ์ที่บูธ เถ้าแก่น้อย ภายในงาน THAIFEX – Anuga Asia 2022 งานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่ยิ่งใหญ่และครบวงจรที่สุดแห่งเอเชีย ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ถึงภาพรวมตลาดต่างประเทศของบริษัทเถ้าแก่น้อยว่า ที่ผ่านมา ซึ่งมีการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทางบริษัทเถ้าแก่น้อยไม่ได้รับผลกระทบอะไรมากนัก เนื่องจากได้เริ่มทำในส่วนของอีคอมเมิร์ซมาก่อนแล้ว ดังนั้นจึงสามารถดำเนินการขายต่อไปได้ ถือว่าได้รับการตอบรับที่ดี จากเมื่อก่อนทางออนไลน์ไม่ดีเลย ก็กลับกลายเป็นว่า บางประเทศมียอดขายเพิ่มขึ้น โดยในขณะนี้ บริษัทเถ้าแก่น้อยมีการค้าขายกับต่างชาติประมาณ 40 ประเทศ ส่วนที่ยังไม่ได้เข้าไปมากนักคือตะวันออกกลาง เนื่องจากการรับประทานสาหร่ายของชาวตะวันออกกลางอาจจะเป็นเรื่องใหม่ ซึ่งเราก็พยายามเจาะอยู่

      จิระวิทย์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของตลาดต่างประเทศที่เราค่อนข้างแข็งแรงคือเอเชีย โดยสินค้าประเภทสาหร่ายที่มีจำหน่ายในขณะนี้คือ ทอด ย่าง เทมปุระ อบ ซึ่งสินค้าของเราเป็นมาตรฐานเดียวกันหมด แต่ผู้บริโภคในแต่ละประเทศอาจมีพฤติกรรมการบริโภคสินค้าประเภทต่างๆ ที่แตกต่างกันไป ทั้งนี้ เรามีแบรนด์ NORA จำหน่ายในอเมริกา และแคนาดา ตอนนี้มีสินค้าประเภททอดกับเทมปุระ
สำหรับจุดเด่นของสินค้าเถ้าแก่น้อยนั้น เป็นเพราะต่างประเทศให้การยอมรับ เมื่อได้ชิมแล้วถูกใจ อย่างเช่นคนจีน ถ้าเขาชอบแล้วก็จะรักเลย และด้วยความที่เป็นแบรนด์ไทยที่มีสตอรี่ของคุณต๊อบ(นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง) เป็นแรงบันดาลใจ รวมทั้งมีการพัฒนาแพคเกจจิ้งสินค้าตลอดเวลาอยู่แล้ว ทำให้ได้รับการยอมรับจากต่างประเทศ

      อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน บริษัทเถ้าแก่น้อยมีคู่แข่งเป็นจำนวนมากทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งมาจากเทรนด์ทั่วโลก ส่วนมูลค่าการตลาดสาหร่ายทั่วโลก สัดส่วนเมื่อก่อนนี้ ไทยกับต่างประเทศเป็น 50-50 ตอนนี้ต่างประเทศเยอะกว่าแล้ว เป็น 60 เปอร์เซ็นต์ หลักๆ ก็จะเป็นจีน ซึ่งตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์
นายจิระวิทย์ กล่าวถึงภาพรวมการจัดงาน THAIFEX ปีนี้ว่า มีคนเยอะมากกว่าปีที่แล้ว มีความหลากหลาย มีต่างชาติโซนใหม่ๆ เช่นยุโรป ตะวันออกกลาง เข้ามา สิ่งที่เรามุ่งหวังในงานนี้คือ เรายังอยู่ ยังแข็งแรงในเรื่องของแบรนดิ้ง ต่อมาคือเรื่องตลาดใหม่ๆ เช่น ตะวันออกกลาง อินเดีย ยุโรปบางโซน ที่เรากำลังมองหาอยู่ เป็นภาพรวมของในปีนี้

     สิ่งที่เราจะเน้นคือ พฤติกรรมผู้บริโภค อย่างเช่น อินเดีย รับประทานอาหารเจ มังสวิรัติ สาหร่ายมองว่ายังไม่ใช่มังสวิรัติ แต่ด้วยเทรนด์ที่กำลังมาก็น่าจะช่วยเราได้มากขึ้น เราพยายามที่จะพัฒนาสินค้าที่จะตอบโจทย์เรื่องสุขภาพมากขึ้น เช่น มีการลดโซเดียม ใส่ถั่ว เมล็ดทานตะวัน งา หรือตัวสินค้าที่มีการอบก็ขายดีขึ้นมาก มีการเปลี่ยนมาใช้น้ำมันรำข้าวในการทอด รวมทั้งมีการปรับแพคเกจจิ้งให้มีส่วนในการช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมโลกมากขึ้นด้วย

     จิระวิทย์ กล่าวว่า แผนงานในอนาคตอันใกล้ของบริษัทเถ้าแก่น้อย เราจะลงลึกส่วนโลคอลคอนเทนต์ โฟกัสมากขึ้น เจาะลงไป ตอนนี้มีแผนรองรับแล้ว อย่างที่ผ่านมาเน้นตลาดฮาลาลในมาเลเซียและอินโดนีเซียจนเติบโตขึ้นมาก เราพยายามสื่อสารให้มากขึ้น ลงลึกให้มากขึ้นอีก

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

NEWS & TRENDS