วิศวกรเก๋าเล็งต่อยอดธุรกิจออนไลน์รับเทรนด์กีฬาและกิจกรรมกลางแจ้ง

 

     เช่นเดียวกับการช้อปปิ้งออนไลน์ การสตรีมภาพยนตร์ และผลิตภัณฑ์ด้านสุขอนามัยส่วนบุคคล ดีมานด์ต่อกีฬาและกิจกรรมนันทนาการกลางแจ้งก็เป็นอีกหนึ่งความนิยมที่เพิ่มขึ้นในช่วงการระบาดใหญ่ นั่นเป็นเพราะผู้คนต่างโหยหากิจกรรมที่ทำให้พวกเขาได้หลุดออกจากพื้นที่คับแคบภายในบ้าน จนทำให้หลายคนได้ค้นพบแพชชั่นต่อธรรมชาติและกิจกรรมกลางแจ้งที่ยอดเยี่ยม อีกครั้ง

     ในประเทศไทย ตลาดกีฬาและกิจกรรมกลางแจ้งมีแนวโน้มเติบโตขึ้น โดยจากข้อมูลของ Statista พบว่า รายได้จาก กีฬาและกิจกรรมนันทนาการกลางแจ้งในท้องถิ่นคาดว่าจะสูงถึง 154 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2566

     ปรากฏการณ์ดังกล่าวดึงดูดความสนใจของ ชัยฤทธิ์ สมิทธีร์ อดีตวิศวกรชาวไทยที่ผันตัวมาเป็นผู้ประกอบการ และยังเป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมหลักสูตรฝึกอบรม Alibaba Netpreneur Training (“ANT”) Program ประเทศไทยประจำปี 2565 (รุ่นล่าสุด) ซึ่งเป็นหนึ่งในความพยายามของอาลีบาบาในการพัฒนาผู้ประกอบการและผู้นำธุรกิจในภาคส่วนต่าง ๆ ด้วยหลักสูตรที่จับต้องได้และนำไปปฏิบัติได้จริง เพื่อสร้างความก้าวหน้าในเศรษฐกิจดิจิทัล.

     ความหลงใหลในกิจกรรมกลางแจ้งและเครื่องมือวินเทจ เช่น คีมจับ มีด และขวาน ทำให้ ชัยฤทธิ์มองเห็นโอกาสใหม่ ๆ ในการผสมผสานแพชชั่นของเขาเข้ากับการลงทุนทำธุรกิจที่จะมีส่วนช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้คน

     “คนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีการศึกษาระดับดี จะมองว่าสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีนั้นแยกจากกันไม่ได้ มันเป็นองค์ประกอบที่หลอมลวมอยู่ในคำว่า ความมั่งคั่งครับ สำหรับอนาคต กิจกรรมเกี่ยวกับการท่องเที่ยวรอบโลก สุขภาพ และไลฟ์สไตล์ มีแนวโน้มจะเติบโตแบบทวีคูณ และเทรนด์นี้ก็เป็นแรงบันดาลใจให้ผมตัดสินใจสำรวจตลาดผลิตภัณฑ์และบริการกลุ่มกีฬาและกิจกรรมกลางแจ้ง นอกจากนี้ โดยส่วนตัวแล้ว ประสบการณ์ชีวิตของผมเอง เช่น การเดินทางและการทำงานในต่างประเทศ ก็เป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจให้ผมเริ่มทำธุรกิจที่สามารถส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้คน ด้วยครับ” ชัยฤทธิ์ กล่าว

     ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2563 ชัยฤทธิ์ได้ก่อตั้งร้านค้าของเขาขึ้นภายใต้ชื่อแบรนด์ “Janis Hammer” เพื่อจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับกีฬาและกิจกรรมสันทนาการกลางแจ้ง โดยมีพันธกิจหลักเพื่อส่งเสริมสุขภาพและพลานามัยของผู้คน สำหรับชื่อ “Janis Hammer” เขาได้ผสมระหว่างชื่อลูกสาวของตน “Janis” เข้ากับกับคำว่า “Hammer” ซึ่งแปลว่า ค้อน โดยชัยฤทธิ์เชื่อว่าค้อนคือความแข็งแกร่งและพลังที่จะทะลวงผ่านทุกสิ่งกีดขวาง

     ปัจจุบัน บริษัทของเขาเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าจากแบรนด์ต่างประเทศ 2 แบรนด์และแบรนด์ไทย 1 แบรนด์ รวมถึงนำเข้าสินค้าอื่น ๆ จากต่างประเทศ เช่น กระดานสแตนอัพแพดเดิลบอร์ด (SUP) อุปกรณ์ยิงธนู และเครื่องพิลาทิส เพื่อรองรับตลาดกีฬาและกิจกรรมกลางแจ้งที่กำลังเฟื่องฟูในประเทศไทย

     ผลิตภัณฑ์ของ Janis Hammer มีจำหน่ายผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัทและแพลตฟอร์มการค้าออนไลน์ ลาซาด้า (Lazada) ซึ่งเป็นธุรกิจภายใต้อาลีบาบา กรุ๊ป แม้จะมีความท้าทายจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 แต่การเติบโตของบริษัทก็ไม่ได้หยุดชะงัก นั่นเป็นเพราะ Janis Hammer ได้รับการสนับสนุนจากความครบครันของลาซาด้า แพลตฟอร์มดิจิทัลที่ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้บริโภคในการค้นหาและเข้าถึงผลิตภัณฑ์ของบริษัทนั่นเอง ความสำเร็จในช่วงแรก ๆ บนตลาดอีคอมเมิร์ซได้กระตุ้นให้ ชัยฤทธิ์ศึกษาลึกเข้าไปในโลกของการแปลงทางดิจิทัลเพื่อหาแรงบันดาลใจในการยกระดับธุรกิจของเขาไปอีกขั้น ผ่านการเข้าร่วมหลักสูตรฝึกอบรม Alibaba Netpreneur Training (“ANT”) Program ในปี 2565 พร้อมกับผู้ประกอบการในเอเชียอีกหลายสิบราย

    การฝึกอบรมออนไลน์เป็นเวลาสี่สัปดาห์ช่วยให้ชัยฤทธิ์เข้าใจแนวคิดเศรษฐกิจดิจิทัลและความสำคัญของพันธกิจ วิสัยทัศน์ และค่านิยมอันเป็นรากฐานของความสำเร็จในระยะยาวขององค์กร เขาได้นำสิ่งที่เรียนรู้มาปรับใช้เพื่อสร้างแผนกลยุทธ์บริษัทสามปีของเขา รวมถึงสร้างสมดุลระหว่างความทะเยอทะยานกับการปฏิบัติอย่างรอบคอบ เพื่อกำหนดและลำดับความสำคัญในการบริหารธุรกิจ

     “การฝึกอบรมกับอาลีบาบาเป็นเหมือนกระจกสะท้อนให้ผมเข้าใจพันธกิจ กลยุทธ์ และเป้าหมายของบริษัทของตัวเอง ประสบการณ์นี้ทำให้ผมมั่นใจว่านี่ล่ะ คือรากฐานที่แข็งแกร่ง และช่วยให้ผมแก้ปัญหาทางธุรกิจด้านต่าง ๆ ไปได้ครึ่งหนึ่งเลยครับ” ชัยฤทธิ์ กล่าว

     ในฐานะผู้ประกอบการที่มีวิสัยทัศน์ ชัยฤทธิ์มองเห็นแนวโน้มความนิยมในสินค้าไลฟ์สไตล์บางกลุ่มที่กำลังจะเกิดขึ้น ได้แก่ 1) กลุ่มระบบอัตโนมัติ - ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์สมัยใหม่และผลิตภันฑ์หุ่นยนต์ในบ้าน 2) ผลิตภัณฑ์และคลาสสอนเรื่องการเอาตัวรอด - ผู้คนจะเตรียมพร้อมมากขึ้นสำหรับผลกระทบจากสภาพอากาศและโรคภัยไข้เจ็บ 3) ผลิตภัณฑ์สำหรับคนที่อยู่คนเดียว โดยเฉพาะผู้สูงอายุ และ 4) ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ผู้คนแสดงความเป็นตัวตนออกมา เช่น กิจกรรมกลางแจ้งเฉพาะกลุ่ม

     บางข้อในปัจจัยเหล่านี้กลายเป็นแรงผลักดันและแพชชั่นให้ ชัยฤทธิ์เริ่มวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจที่จะสร้างผลสำเร็จที่มากขึ้น กล่าวคือ แทนที่เขาจะแค่เสนอขายผลิตภัณฑ์ เขามองไปถึงจุดที่จะทำให้ Janis Hammer กลายเป็นชุมชนสำหรับผู้คนที่มีชีวิตมั่งคั่งและคุณภาพชีวิตดี ด้วยข้อมูลและผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่มากมายในตลาด เขาเชื่อว่ากุญแจสำคัญในการสร้างความแตกต่างให้บริษัทของเขา โดยเฉพาะกับผู้เล่นรายใหญ่ คือการจัดหาทางเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมให้แก่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย และให้คำแนะนำในการใช้งานครบจบในที่เดียว ปัจจุบัน Janis Hammer จึงได้จัดให้มีคลาสฝึกอบรมต่าง ๆ เพื่อช่วยให้ลูกค้าได้เพลิดเพลินกับกิจกรรมกลางแจ้งที่พวกเขาเลือก และในอนาคตชัยฤทธิ์ได้วางแผนที่จะสร้างให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น

     คลาสฝึกอบรมของ Janis Hammer ที่จัดขึ้นเพื่อช่วยให้ลูกค้าสนุกกับกิจกรรมกลางแจ้งที่พวกเขาชื่นชอบ
“สินค้าสำหรับกีฬาและกิจกรรมกลางแจ้งที่เราจำหน่ายเป็นสินค้าเฉพาะกลุ่ม ซึ่งผู้ที่ทำกิจกรรมโดยใช้อุปกรณ์เหล่านี้จำเป็นต้องได้รับการฝึกฝนครับ การมาเรียนรู้ - ฝึกฝนร่วมกันจึงสร้างความรู้สึกเหมือนมีชุมชนเล็ก ๆ ในหมู่ลูกค้าของเราครับ Next step ต่อจากนี้สถานที่หรือชุมชนที่ผมกำลังจะสร้างขึ้นในอนาคตนั้นไม่ได้มีแค่วัตถุประสงค์ทางธุรกิจเท่านั้น แต่มันจะเป็นแพลตฟอร์มให้ลูกค้าที่แชร์ความสนใจเดียวกันได้มาพบปะ แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาหลงใหลด้วย” ชัยฤทธิ์ กล่าว

     วิสัยทัศน์ของชัยฤทธิ์คือการสร้าง Janis Hammer เป็นสถานที่ให้บริการโซลูชั่นด้านไลฟ์สไตล์แบบครบวงจรให้ลูกค้าประจำได้เลือกซื้อสินค้าหลากหลาย ซึ่งมาพร้อมคอร์สฝึกอบรมต่าง ๆ สำหรับตนเองและบุตรหลาน เช่น การยิงธนูและการขี่ม้า นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่สำหรับจำหน่ายและรับประทานอาหาร รวมถึงคลับสำหรับคนรักเครื่องมือวินเทจและงานตีเหล็ก โดยในอนาคต บริษัทยังมีแผนเพิ่มคลาสฝึกอบรมเพื่อให้ครอบคลุมกิจกรรมอื่น ๆ มากขึ้น เช่น การปีนเขา การเล่นกระดานโต้คลื่น โยคะ และคลับลูบิค เพื่อส่งเสริมชุมชนที่แข็งแกร่งระหว่างผู้คนที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้งเหล่านี้

     “ปัจจุบัน เราเน้นดำเนินธุรกิจแค่ตลาดในประเทศไทยเท่านั้นครับ แต่ด้วยพันธกิจ วิสัยทัศน์ และคุณค่าที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการฝึกอบรมของอาลีบาบา ผมมั่นใจว่าผมจะสามารถนำพาธุรกิจไปสู่ระดับโลกได้ โดยเริ่มต้นจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตะวันออกกลางครับ” ชัยฤทธิ์ กล่าว

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

 

NEWS & TRENDS