ดีเดย์ 19 เม.ย.เปิดรับ SMEs ร่วมโครงการโปรแอคทีพ

นางศรีรัตน์ รัฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า วันที่ 19 เม.ย.นี้ กรมฯ จะเปิดรับผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (เอสเอ็มอี) ที่มีมูลค่าการส่งออกไม่เกิน 200 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในกลุ่มสินค้าและบริการทุกประเภท รวมถึงกลุ่มสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่ม นวัตกรรม และสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ให้สมัครเข้าร่วมโครงการส่งเสริม และเพิ่มประสิทธิภาพของผู้ประกอบการส่งออกขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี โปรแอคทีพในการทำตลาดส่งออกไปต่างประเทศ ด้วยวงเงินจากกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศรวม 3 ปี 300 ล้านบาท



นางศรีรัตน์ รัฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า วันที่ 19 เม.ย.นี้ กรมฯ จะเปิดรับผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (เอสเอ็มอี) ที่มีมูลค่าการส่งออกไม่เกิน 200 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในกลุ่มสินค้าและบริการทุกประเภท รวมถึงกลุ่มสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่ม นวัตกรรม และสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ให้สมัครเข้าร่วมโครงการส่งเสริม และเพิ่มประสิทธิภาพของผู้ประกอบการส่งออกขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี โปรแอคทีพในการทำตลาดส่งออกไปต่างประเทศ ด้วยวงเงินจากกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศรวม 3 ปี 300 ล้านบาท
          
โครงการนี้เดิมเน้นขยายการส่งออกไปตลาดใหม่ แต่ตอนนี้ได้ปรับให้ขยายครอบคลุมประเทศต่างๆ ในวงกว้างมากขึ้น ทั้งตลาดใหม่ ตลาดหลัก รวมทั้งเพิ่มวงเงินสนับสนุนรายบริษัท หากมีการดำเนินธุรกิจ หรือแผนการตลาดชัดเจน มีประสิทธิผลและเข้าเกณฑ์จะได้รับสิทธิพิจารณาและโอกาสในการเข้าร่วมโครงการลำดับแรก และยังเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายของกรมในการเจาะตลาด ก่อนเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี)ปี 58 ด้วย
          
สำหรับคุณสมบัติของผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องเป็นเอสเอ็มอีที่ดำเนินธุรกิจส่งออกสินค้าและบริการไปยังต่างประเทศที่กรมฯกำหนดขึ้น โดยพิจารณาจากสถิติมูลค่าส่งออกย้อนหลัง 3 ปีจากข้อมูลของหน่วยงานรัฐ มีมูลค่าการส่งออกน้อยกว่า 200 ล้านบาท เป็นนิติบุคคลที่มีผู้ถือหุ้นเป็นสัญญาชาติไทยไม่น้อยกว่า 51% มีการเสียภาษีถูกต้องย้อนหลัง 1 ปี ไม่เคยมีประวัติเสียหาย หรือ ได้รับการร้องเรียน ซึ่งกรมฯจะสนับสนุนผู้เข้าร่วมโครงการ ให้เข้าร่วมงานแสดงสินค้าในประเทศที่มีวัตถุประสงค์เพื่อรับคำสั่งซื้อ(ไม่ใช่งานขายปลีก) หรือเป็นงานแสดงสินค้าที่จัดโดยภาครัฐหรือภาคเอกชนที่มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับและน่าเชื่อถือ  

นางศรีรัตน์กล่าวว่า สถิติในปี 54-55 พบว่า ธุรกิจเอสเอ็มอีไทยสามารถส่งออกสินค้าได้ถึง 1.75 ล้านล้านบาท มีสัดส่วนเป็น 28% ของมูลค่าการส่งออกรวม นอกจากนี้ยังมีส่วนสำคัญต่อการจ้างงานถึง 78% ของแรงงานทั้งประเทศ โดยมีเอสเอ็มอีไทยที่ส่งออกไปได้ 33,341 ราย แบ่งเป็นวิสาหกิจที่มีการส่งออกน้อยกว่า 50 ล้านบาท จำนวนกว่า 28,000 ราย คิดเป็นสัดส่วน 84% ส่วนวิสาหกิจที่มีการส่งออกไม่เกิน 50-200 ล้านบาท ประมาณ 2,843 ราย คิดเป็นสัดส่วน 8.5% ของเอสเอ็มอีที่ดำเนินธุรกิจส่งออกรวมทั้งหมด

NEWS & TRENDS