ส.อ.ท.ชี้บาทแตะ 28 เลวร้ายหนักธุรกิจใหญ่เล็กกระทบเรียบ

นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นในเช้าวันที่ 18 เม.ย.2556 ที่ระดับ 28.75 นั้น ถือว่าเลวร้ายมาก ซึ่งเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ค่าเงินที่แข็งค่าขึ้นส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมขนาดเล็ก แต่ปัจจุบันพบว่าอุตสาหกรรมขนาดใหญ่เริ่มได้รับผลกระทบตามไปด้วยถึง 66.7% เพราะดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับการส่งออกจำนวนมาก ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่ง 10 ประเทศอาเซียน และ 4 ประเทศคู่ค้า ประกอบด้วย จีน บังคลาเทศ อินเดีย และสีลังกา แล้วประเทศไทยมีความผันผวนและแข็งค่ามากที่สุดในระดับ 5-6%+

 


นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นในเช้าวันที่ 18 เม.ย.2556 ที่ระดับ 28.75 นั้น ถือว่าเลวร้ายมาก ซึ่งเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ค่าเงินที่แข็งค่าขึ้นส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมขนาดเล็ก แต่ปัจจุบันพบว่าอุตสาหกรรมขนาดใหญ่เริ่มได้รับผลกระทบตามไปด้วยถึง 66.7% เพราะดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับการส่งออกจำนวนมาก ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่ง 10 ประเทศอาเซียน และ 4 ประเทศคู่ค้า ประกอบด้วย จีน บังคลาเทศ อินเดีย และสีลังกา แล้วประเทศไทยมีความผันผวนและแข็งค่ามากที่สุดในระดับ 5-6%+

อย่างไรก็ตาม เราเคยเสนอ 7 มาตรการ แก้ปัญหาค่าเงินบาทกับ ธนาคารแห่งประเทศไทย ไปแล้วเมื่อช่วงเดือน ม.ค.2556 ที่ผ่านมา แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ และ 2 มาตรการที่ ส.อ.ท.อยากให้เร่งดำเนินการคือ 1.อย่าให้ผันผวนมากกว่านี้ และ 2.ไม่ควรผันผวนมากกว่าประเทศอาเซียนและคู่ค้า ไม่เข้าใจว่าประเทศอาเซียนและคู่ค้าถึงไม่ผันผวนอย่างประเทศไทย ทั้งนี้ ในวันที่ 24 เม.ย.2556 จะหารือกับอุตสาหกรรมทั้ง 42 อุตสาหกรรม เพื่อหาแนวทางในการเตรียมความพร้อมและแก้ปัญหาในประเด็นดังกล่าวโดยเฉพาะค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น

                สำหรับข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการในเดือน มี.ค.2556 ต้องการให้รัฐบาลเข้ามาดูแลในเรื่องของค่าเงินบาทให้มีเสถียรภาพไม่ผันผวน แข็งค่ากว่าประเทศคู่แข่ง ส่งเสริมสนับสนุนการประหยัดพลังงานและการใช้พลังงานทดแทนในภาคอุตสาหกรรม ส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตและพัฒนาคุณภาพแรงงานรวมถึงแก้ปัญหา ราคา ปริมาณและคุณภาพสินค้าการเกษตรตั้งแต่ต้นน้ำและปลายน้ำอย่างเป็นระบบ

 
                
 

NEWS & TRENDS