GIT หนุน SMEs ยกระดับอัญมณีเครื่องประดับไทย

วิลาวัณย์ อติชาติ ผู้อำนวยการ สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT กล่าวว่า อัญมณีและเครื่องประดับ ถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมสำคัญของไทย โดยแต่ละปีมีมูลค่าการส่งออกเป็นหลักแสนล้านบาท และยังเป็นสินค้าส่งออกอันดับ 3 ของประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาอุตสาหกรรมดังกล่าวได้มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และสถาบันวิจัยฯถือป็นสถาบันหลักในการพัฒนา ส่งเสริมและสนับสนุนอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทยให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก



วิลาวัณย์ อติชาติ ผู้อำนวยการ สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT กล่าวว่า อัญมณีและเครื่องประดับ ถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมสำคัญของไทย โดยแต่ละปีมีมูลค่าการส่งออกเป็นหลักแสนล้านบาท และยังเป็นสินค้าส่งออกอันดับ 3 ของประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาอุตสาหกรรมดังกล่าวได้มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และสถาบันวิจัยฯถือป็นสถาบันหลักในการพัฒนา ส่งเสริมและสนับสนุนอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทยให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก

ทั้งนี้ ทางสถาบันฯได้ตระหนักถึงความสำคัญของผู้ประกอบการ SMEs ว่าเป็นหัวใจสำคัญของอุตสาหกรรมนี้ เนื่องจากมีสัดส่วนถึง 80% ดังนั้น ทางสถาบันจึงได้จัดให้มีบริการต่างๆ ไว้อำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการ ตลอดจนโครงการพัฒนาต่อยอดศักยภาพ เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมให้กับผู้ประกอบการในการทำตลาด และสามารถปรับตัวได้ตามสถานการณ์การ ค้าที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างทันท่วงที อีกทั้ง ยังเป็นการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ผู้ประกอบการไทยในยามที่ต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดโลกอีกด้วย

“สิ่งแรกที่เราสามารถช่วยผู้ประกอบการไทยได้ นั่นคือ การสร้างความมั่นใจในเรื่องของมาตรฐานและการรับรองคุณภาพ ที่ผ่านมาเราได้มีการจัดตั้งห้องปฏิบัติการตรวจสอบอัญมณีและโลหะมีค่าขึ้น ซึ่งเป็นห้องแล็บที่ได้มาตรฐานและผ่านการรับรองจากสมาพันธ์อัญมณีโลก โดยที่เราจะมีเครื่องไม้เครื่องมืออันทันสมัย เพื่อช่วยในการตรวจสอบอัญมณีและเครื่องประดับ จากนั้นก็จะมีการออกใบ Certificate เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อและผู้ขาย โดยค่าบริการตรวจสอบนั้นก็จะถูก เนื่องจากเป็นบริการของภาครัฐ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถลดต้นทุนได้อีกทางหนึ่งด้วย” ผอ.สถาบันฯ กล่าว

นอกเหนือจากบริการตรวจสอบอัญมณีและโลหะมีค่า ที่ถือว่าเป็นบริการหลักของทางสถาบันแล้ว ยังมีในส่วนของศูนย์ฝึกอบรม ซึ่งปัจจุบันได้มีการดีไซน์หลักสูตรไว้แล้วประมาณ 13 หลักสูตร เช่น หลักสูตรวุฒิบัตรอัญมณีและเครื่องประดับ เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมาก็จะมีผู้ประกอบการ SMEs ให้ความสนใจเข้ารับการฝึกอบรม ซึ่งในอนาคตมีแผนที่จะเพิ่มหลักสูตระยะสั้น เช่น หลักสูตรดูเพชรวันเดียว หรือดูพลอยวันเดียว เพื่อให้สอดรับกับความต้องการในปัจจุบัน 

นอกจากนี้ ผู้ประกอบการ SMEs ยังสามารถใช้ประโยชน์จากสถาบันได้อีก ในฐานะศูนย์ข้อมูลวิชาการ ซึ่งได้มีการทำและรวบรวมข้อมูลวิจัยในเรื่องต่างๆ ที่เห็นว่าเป็นประโยชน์กับผู้ประกอบการ ทั้งในด้านการออกแบบ เทคนิคการผลิต ตลอดจนข้อมูลด้านการตลาด ทั้งในเรื่องของกฎระเบียบการค้า อัตราภาษี แนวโน้มสถานการณ์ตลาดต่างๆ เพื่อให้ผู้ประกอบการ SME ใช้เป็นเครื่องมือในการวางแผนการตลาดต่อไปในอนาคตได้

 

NEWS & TRENDS