Mon Izakaya เป็นร้านอาหารสไตล์ Modern Izakaya ที่หยิบยกวัตถุดิบพื้นฐานอย่าง ข้าวไทย มารังสรรค/ใหม่ด้วยเทคนิคและศิลปะการปรุง อาหารแบบญี่ปุ่นร่วมสมัย ผสานความพิถีพิถันของวัฒนธรรมญี่ปุ่นเข้ากับเอกลักษณ์ของข้าวไทยในรูปแบบที่แตกต่างและไม่เหมือนใคร ทุกเมนู ของ Mon Izakaya ถูกออกแบบให้ “ข้าว” เป็นพระเอกของโต๊ะอาหาร ถ่ายทอดออกมาบนจานอาหารในหลากหลายรูปแบบ เกิดเป็น ประสบการณ์การทานอาหารที่ทั้งคุ้นเคยและแปลกใหม่ไปพร้อมกัน
Mon Izakaya ดำเนินการโดยบริษัท ไรส์พลัส จำกัด ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดจำหน่ายและพัฒนาธุรกิจข้าวคุณภาพของไทย โดยได้รับ การสนับสนุนจาก บริษัท ไทย เอ็น ดี ที จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ถือหุ้นหลัก พร้อมด้วยทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท เพื่อรองรับแผนการ ขยายธุรกิจในอนาคต ทั้งในรูปแบบร้านอาหาร Modern Izakaya และโมเดลแฟรนไชส์การลงทุนครั้งนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของ วัตถุดิบไทย โดยเฉพาะ “ข้าว” ซึ่งถือเป็นสินค้ายุทธศาสตร์สำคัญของประเทศ พร้อมทั้งแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในการต่อยอดธุรกิจอาหารให้ เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
จากธุรกิจข้าวสู่ธุรกิจร้านอาหาร....ต่อยอดคุณค่าข้าวไทย
ธนรรจ์ ศตวุฒิ ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ไรส์พลัส จำกัด กล่าวว่าปัจจุบันในยุคที่การแข่งขันของธุรกิจร้านอาหารวันนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ รสชาติเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นการส่งมอบประสบการณ์และคุณภาพ ในการรับประทานอาหารด้วย MON Izakaya จึงเกิดจากความเชื่อว่า ผู้บริโภคยุคปัจจุบันกำลังมองหาร้านอาหารที่มีแนวคิด มีรากฐาน มีวัฒนธรรม และมีเรื่องเล่าชัดเจน มากกว่าแค่การอิ่มท้อง
แม้จะอยู่ในช่วงสภาพเศรษฐกิจที่ยังมีความเปราะบาง แต่เรากลับมองเห็นโอกาสในเชิงกลยุทธ์ที่ชัดเจนในการเปิดร้าน MON Izakaya ณ เยาวราช ซึ่งถือเป็นย่านเศรษฐกิจของกรุงเทพฯ ที่สามารถดึงดูดทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทย นักท่องเที่ยวต่างชาติและกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่กำลังมองหาอาหารไทยในบริบทใหม่ มีแนวคิด มีเรื่องราว และมีรากวัฒนธรรมและมุมมองทีทันสมัยได้ไม่ยาก Mon Izakaya ในมุมมองของผมจึงไม่ใช่แค่ร้านอาหารญี่ปุ่น หรือร้านอิซากายะแบบทั่วไป แต่เราตั้งใจสร้างที่นี่ให้เป็น “จุดหมายเชิงวัฒนธรรม การกินแห่งใหม่” ที่นำศิลปะการปรุงอาหารญี่ปุ่นผสมผสานกับวัตถุดิบพื้นฐานอย่าง “ข้าวไทย” กลายเป็นมื้อพิเศษที่สะท้อนทั้งความคุ้นเคย และความแปลกใหม่ในเวลาเดียวกัน และด้วยรากฐานจากธุรกิจหลักของบริษัท ไรส์พลัส จำกัด ที่มีประสบการณ์ในการจัดจำหน่ายข้าว คุณภาพระดับพรีเมียม เรามองว่า MON Izakaya จะเป็นต้นแบบที่สามารถต่อยอดไปสู่การขยายสาขาในหัวเมืองหลักทั่วประเทศ รวมถึง พัฒนาเป็นโมเดลแฟรนไชส์ในอนาคตได้อย่างแข็งแรง
ธนรรจ์ ยังกล่าวอีกว่า “เมื่อข้าวไทยอยู่ในมือของเชฟที่เข้าใจรสชาติ และอยู่ในโมเดลธุรกิจที่ชัดเจน — ข้าวไทยจะสามารถก้าวเป็น พระเอกของโต๊ะอาหารระดับโลกได้อย่างเต็มภาคภูมิ”
จากธุรกิจข้าวสู่ธุรกิจร้านอาหาร....ต่อยอดคุณค่าข้าวไทย
ธนรรจ์ กล่าวว่าปัจจุบันในยุคที่การแข่งขันของธุรกิจร้านอาหารวันนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ รสชาติเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นการส่งมอบประสบการณ์และคุณภาพ ในการรับประทานอาหารด้วย MON Izakaya จึงเกิดจากความเชื่อว่า ผู้บริโภคยุคปัจจุบันกำลังมองหาร้านอาหารที่มีแนวคิด มีรากฐานมีวัฒนธรรม และมีเรื่องเล่าชัดเจน มากกว่าแค่การอิ่มท้อง แม้จะอยู่ในช่วงสภาพเศรษฐกิจที่ยังมีความเปราะบาง แต่เรากลับมองเห็นโอกาสในเชิงกลยุทธ์ที่ชัดเจนในการเปิดร้าน MON Izakaya ณ เยาวราช ซึ่งถือเป็นย่านเศรษฐกิจของกรุงเทพฯ ที่สามารถดึงดูดทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทย นักท่องเที่ยวต่างชาติและกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่กำลังมองหาอาหารไทยในบริบทใหม่ มีแนวคิด มีเรื่องราว และมีรากวัฒนธรรมและมุมมองที่ทันสมัยได้ไม่ยาก
Mon Izakaya ในมุมมองของผมจึงไม่ใช่แค่ร้านอาหารญี่ปุ่น หรือร้านอิซากายะแบบทั่วไป แตาเราตั้งใจสร้างที่นี่ให้เป็น “จุดหมายเชิงวัฒนธรรม การกินแห่งใหม่ ” ที่นำศิลปะการปรุงอาหารญี่ปุ่นผสมผสานกับวัตถุดิบพื้นฐานอย่าง “ข้าวไทย” กลายเป็นมื้อพิเศษที่สะท้อนทั้งความคุ้นเคย และความแปลกใหม่ในเวลาเดียวกัน และด้วยรากฐานจากธุรกิจหลักของบริษัท ไรส์พลัส จำกัด ที่มีประสบการณ์ในการจัดจำหน่ายข้าวคุณภาพระดับพรีเมียม เรามองว่า MON Izakaya จะเป็นต้นแบบที่สามารถต่อยอดไปสู่การขยายสาขาในหัวเมืองหลักทั่วประเทศ รวมถึงพัฒนาเป็นโมเดลแฟรนไชส์ในอนาคตได้อย่างแข็งแรง
ธนรรจ์ ศตวุฒิ ยังกล่าวอีกว่า “เมื่อข้าวไทยอยู่ในมือของเชฟที่เข้าใจรสชาติ และอยู่ในโมเดลธุรกิจที่ชัดเจน — ข้าวไทยจะสามารถก้าวเป็น พระเอกของโต๊ะอาหารระดับโลกได้อย่างเต็มภาคภูมิ”
ธีรพัฒน แก้วเขียว กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไรส์พลัส จำกัด กล่าวเสริมว่า Mon Izakaya ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของการต่อยอดธุรกิจหลักของเราในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดจำหน่ายข้าว ซึ่งทางบริษัทมีความตั้งใจในการผลักดันข้าวไทยให้ก้าวข้ามจากการเป็นเพียงวัตถุดิบพื้นฐาน สู่การเป็นสินค้าที่สร้างมูลค่าในระดับสูงได้อย่างแท้จริง เราเริ่มต้นจากต้นน้ำ คัดสรรข้าวไทยคุณภาพดีจากแหล่งปลูกของเกษตรกรไทย ด้วยความเข้าใจถึงคุณลักษณะเฉพาะของวัตถุดิบในแต่ละสายพันธุ์ผสมผสานความรู้และประสบการณ์ในการทำธุรกิจข้าว พัฒนาต่อยอดสู่ธุรกิจร้านอาหาร “MON IZAKAYA”
Mon Izakaya คือเวทีที่เรานำองค์ความรู้และคุณภาพของ ‘ข้าวไทย’ มาถ่ายทอดผ่านมื้ออาหารที่มีเรื่องราว โดยได้ร่วมมือกับเชฟโมน หรือที่ หลายคนรู้จักในนาม ‘เชฟหน้ากากแดง' ผู้มีความสามารถในการรังสรรค์เมนูที่ผสมผสานศิลปะการปรุงอาหารญี่ปุ่นเข้ากับข้าวไทยได้อย่างมีเอกลักษณ์ เรามองว่าการต่อยอดข้าวไทยในลักษณะนี้ ไม่เพียงแต่ช่วยสร้างคุณค่าใหม่ให้กับผลิตภัณฑ์ของเกษตรกร แต่ยังทำให้ผู้บริโภคได้ สัมผัส ‘ข้าวไทย’ ในมิติใหม่ที่เต็มไปด้วยรสชาติ เรื่องราว และความตั้งใจในทุกขั้นตอน ตั้งแต่ชาวนาในแปลงนา จนถึงจานอาหารตรงหน้า
Mon Izakaya จึงเป็นมากกว่าร้านอาหาร แต่คือโมเดลที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของวัตถุดิบไทย เมื่ออยู่ในมือของผู้ที่เข้าใจคุณค่า และกล้าที่ จะต่อยอดในทิศทางที่ยั่งยืนและมีอนาคต
เชฟโมน: รังสรรค์ประสบการณ์ข้าวแบบใหม่ที่ไม่เหมือนใคร
เชฟโมน ธีระธาดา หรือ “เชฟหน้ากากแดง” เจ้าของรางวัลผู้ชนะจากรายการ Iron Chef Thailand และผู้ร่วมเข้าแข่งขันรายการ The Next Iron Chef Thailand SS2 กล่าวว่าโจทย์ของผมคืออยากให้ ‘ข้าว’ เป็นมากกว่ามื้ออาหารธรรมดา เพราะผมเชื่อว่าข้าวทุกเมล็ดมีชีวิต มีเรื่องเล่า และรายละเอียดเฉพาะตัวซ่อน อยู่ในนั้น ภารกิจของ Mon Izakaya คือการปลุกเสน่ห์ของข้าวขึ้นมาใหม่ผสานรสชาติ เทคนิคการปรุง และการจัดจานที่ชาวยเปลี่ยนสิ่งคุ้นเคย ให้กลายเป็นประสบการณ์ใหมาที่น่าค้นหา ผมออกแบบทุกเมนูด้วยแนวคิดที่อยากให้ข้าวเป็นพระเอกของจาน ตั้งแต่การเลือกสายพันธุ์ข้าว
การกำหนดสัดส่วนระหว่างข้าวแต่ละชนิด การใช้เทคนิคของอาหารญี่ปุ่นมาช่วยเน้นกลิ่นและรสชาติ ไปจนถึงกระบวนการปรุงและการจัดเสิร์ฟ เพื่อให้ข้าวแต่ละเมล็ดสามารถเล่าเรื่องราวของตัวเองได่อย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นเมนูข้าวอบหม้อดิน ที่นำข้าวขาวและข้าวเหนียวมาผสมผสานอย่างกลมกล่อม ให้สัมผัสนุ่มหนึบแบบข้าวญี่ปุ่น, เมนูอิซากายะย่าง เตาถ่านที่ย่างด้วยไฟอ่อนจนได้กลิ่นหอมโรยด่วยเกร็ดข้าวกรุบกรอบ หรือเมนูอย่างคุชิคัตสึ (Kushi Katsu) ที่เลือกใช้เกร็ดข้าวทอดกรอบแทน เกร็ดขนมปัง เพื่อชูรสชาติวัตถุดิบให้โดดเด่นยิ่งขึ้น Mon Izakaya จึงไม่ใช่แค่ร้านอาหารญี่ปุ่น แต่คือการตีความใหม่ของ ‘ข้าวไทย’ ผสานสายตา และรสนิยมของวัฒนธรรมญี่ปุ่นในแบบที่ไม่เหมือนใคร เชฟโมนยังกล่าวอีกว่า “ผมไม่ได้เปิดร้านเพราะอยากขายอาหาร แต่ผมเปิดร้านเพราะอยากให้ข้าวได้พูด” หน้าที่ของผมในฐานะเชฟ ไม่ใช่แค่ทำ ให้อร่อย แต่ต้องตีความข้าวใหมาให้มันได้เล่าเรื่องของตัวเอง และ Mon Izakaya คือ พื้นที่ที่ข้าวไทยจะได้เปล่งเสียงอีกครั้งด้วยรสชาติ ศิลปะ และความตั้งใจในทุกจาน
Mon Izakaya พร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ ณ ถนนแปลงนาม เยาวราช
มาร่วมสัมผัสประสบการณ์ใหม่ของ “ข้าวไทย” ผสานมุมมองร่วมสมัยในแบบ Modern Izakaya ที่ผสานความพิถีพิถันของวัฒนธรรมญี่ปุ่นเข้ากับ วัตถุดิบไทยอยาางมีเอกลักษณ์ที่ทุกจานถูกออกแบบมาเพื่อให้“ข้าว” ได้เล่าเรื่องราวของตัวเองในแบบที่คุณไม่เคยชิมมาก่อน Mon Izakaya ไม่ได้เป็นเพียงแค่ร้านอาหาร แต่คือพื้นที่ที่เราอยากชวนทุกคนมาสัมผัสเสน่ห์ของข้าวไทยในมิติใหม่ผ่านรสชาติ วัฒนธรรม และความตั้งใจ เพื่อยกระดับข้าวไทยให้กลายเป็นประสบการณ์ที่น่าภาคภูมิใจในทุกคำ
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
