ใครที่มีหนี้บัตรเครดิตหลายใบแล้วเริ่มผ่อนไม่ไหว หรือ อยากลดภาระหนี้ให้เบาลงเพื่อเอาเงินไปต่อยอด เรามาดูวิธีรวมหนี้บัตรเครดิตกันดีกว่าว่าคืออะไรและเขาทำกันอย่างไร แต่ก่อนอื่น ๆ เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าการรวมหนี้บัตรเครดิตไม่ได้แค่รวมหนี้บัตรเครดิตเป็นก้อนเดียวเพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถรวมบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และสินเชื่อส่วนบุคคลมาไว้ที่เดียวได้ด้วย
โดยการรวมหนี้บัตรเครดิตจะเป็นการรวมหนี้ส่วนบุคคลต่าง ๆ ให้กลายเป็นสินเชื่อส่วนบุคคล หรือง่าย ๆ ก็คือการกู้สินเชื่อส่วนบุคคลมาปิดหนี้ต่าง ๆ แล้วเปลี่ยนไปผ่อนสินเชื่อส่วนบุคคลก้อนใหม่ที่เดียว แต่จะเป็นอย่างไร และมีวิธีอย่างไรนั้น บทความนี้มีคำตอบ
ทำไมควรรวมหนี้ไว้ที่เดียว?
หลายคนคงเคยเจอสถานการณ์มีหนี้หลายก้อนจากหลายที่ โดยเฉพาะหนี้บัตรเครดิต ที่รูดทีละนิดทีละหน่อย พอมารวม ๆ กันแล้วก็กลายเป็นภาระหนักแบบไม่รู้ตัว การรวมหนี้บัตรเครดิต หรือ การรวมหนี้บัตรเครดิตไว้ที่เดียว เลยกลายเป็นทางเลือกที่ช่วยให้ผมตั้งหลักทางการเงินได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม และนี่คือเหตุผลว่าทำไมเพื่อน ๆ ก็ควรพิจารณาดูเหมือนกัน
อย่างแรกเลยคือการรวมหนี้ไว้ที่เดียวจะทำให้ดอกเบี้ยถูกลง หนี้บัตรเครดิตปกติคิดดอกเบี้ยสูงมาก บางทีก็แตะ 16-18% ต่อปี หากทำการรวมหนี้บัตรเครดิตเข้าสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำกว่า ทุกอย่างจะเบาลงทันที เพราะเงินที่ต้องจ่ายแต่ละเดือนลดลง ไม่ต้องเอาเงินเกือบครึ่งไปโปะดอกเบี้ยเหมือนเมื่อก่อน ทำให้มีเงินเหลือมากขึ้น จัดการค่าใช้จ่ายอื่นได้ง่ายกว่า
ถัดมาคือจ่ายแค่ที่เดียว ไม่วุ่นวาย เพราะการที่มีบัตรหลายใบต้องคอยจำวันตัดรอบ วันครบกำหนดจ่าย พลาดทีโดนค่าปรับอีก แต่พอรวมเป็นก้อนเดียว จ่ายครั้งเดียวจบ จะช่วยลดความเครียดไปเยอะมาก และยังทำให้การวางแผนรายรับรายจ่ายง่ายขึ้น เพราะเห็นชัดเลยว่าแต่ละเดือนต้องจ่ายเท่าไหร่ ไม่ต้องมานั่งปะติดปะต่อยอดจากหลายที่
อีกข้อที่สำคัญคือปิดหนี้ได้เร็วขึ้น เพราะยอดที่ต้องจ่ายแต่ละเดือนเป็นรูปแบบผ่อนชัดเจน มีจำนวนงวดแน่นอน ไม่เหมือนบัตรเครดิตที่บางทีจ่ายขั้นต่ำไปเรื่อย ๆ ก็ยังไม่หมดสักที พอรวมเป็นหนี้ก้อนเดียวพร้อมแผนผ่อนที่ชัดเจน ก็จะทำให้มีวินัยขึ้นมาก และเห็นเส้นทางการปลดหนี้ได้
ก่อนรวมหนี้ ควรเช็กอะไรบ้าง?
ถึงแม้การรวมหนี้บัตรเครดิตจะเป็นตัวเลือกที่ช่วยให้ชีวิตการเงินดีขึ้น แต่ก่อนตัดสินใจรวมยอดเป็นก้อนเดียว สิ่งสำคัญคือเราต้องรู้สถานการณ์ตัวเองให้ชัดเจนก่อน สำหรับใครที่สับสนว่าควรรวมยอดหนี้บัตรเครดิตดีไหม แนะนำให้เช็กจากลิสต์ดังต่อไปนี้
- เช็กยอดหนี้ทั้งหมดจากทุกบัตร รวมกับดอกเบี้ยปัจจุบัน
- ความสามารถในการจ่ายต่อเดือน ว่าสามารถผ่อนตามเงื่อนไขใหม่ได้ไหม
- อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อใหม่ เทียบกับดอกเบี้ยบัตรเครดิตเดิม
- ค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นในการปรับโครงสร้างหนี้
- เงื่อนไขจากธนาคารรวมหนี้บัตรเครดิตแต่ละแห่ง เช่น จำนวนงวดหรือวงเงิน
- ความพร้อมของเราเองที่จะปรับพฤติกรรมการใช้เงินหลังรวมหนี้เสร็จ
คุณสมบัติผู้สมัครสินเชื่อรวมหนี้
- มีรายได้ประจำตามเกณฑ์ธนาคารกำหนด
- มีอายุการทำงานหรือเปิดกิจการตามขั้นต่ำที่กำหนด
- มีประวัติการชำระหนี้ที่ไม่เสีย หรือเสียไม่เกินเงื่อนไขของธนาคาร
- มีเอกสารครบ เช่น สลิปเงินเดือน รายการเดินบัญชี บัตรประชาชน
- ยอดหนี้เข้าเกณฑ์ที่ธนาคารสามารถรับรวมได้
การรวมหนี้ช่วยให้จัดการง่ายขึ้นก็จริง แต่สิ่งสำคัญคือเราต้องไม่กลับไปสร้างหนี้ใหม่อีก วิธีง่าย ๆ คือใช้บัตรเครดิตเท่าที่จำเป็น จ่ายเต็มทุกครั้งที่ทำได้ และกันเงินสำรองไว้เสมอ ถ้าคุมวินัยได้ หนี้ก็จะไม่กลับมารบกวนชีวิตเราอีก
รวมหนี้ก้อนเดียว จ่ายสบาย ใจเบา
หากใครที่เริ่มคิดว่า “ถ้าเรารวมทุกอย่างเป็นก้อนเดียวได้ คงจะดีไม่น้อย” นั่นแหละคือจุดที่ควรมองหาสินเชื่อรวมหนี้บัตรเครดิตอย่างจริงจัง ซึ่งจะเป็นทางเลือกในการบริหารการเงินที่ดีขึ้น เพราะจากที่เคยต้องจ่ายหลายที่ จะเปลี่ยนมาเป็นจ่ายที่เดียวแบบรู้ชัดเลยว่าเดือนนี้ต้องจ่ายเท่าไหร่ ไม่ต้องกลัวลืม ไม่ต้องมานั่งไล่ดูวันตัดรอบทีละบัตร และยังทำให้เงินที่ต้องจ่ายต่อเดือนลดลงด้วย
อย่างไรก็ตาม การรวมหนี้ไม่ใช่เรื่องของคนมีปัญหาการเงินเสมอไป แต่เป็นเรื่องของคนที่อยากจัดระบบชีวิตให้ดีขึ้น ถ้าเพื่อน ๆ กำลังต้องการรวมหนี้บัตรเครดิต ลองเริ่มจากเช็กง่าย ๆ เลยว่า ตอนนี้เรามีหนี้กี่ก้อน จ่ายขั้นต่ำหรือจ่ายเต็มไหวไหม ดอกเบี้ยเริ่มสูงเกินควบคุมหรือเปล่า ถ้าคำตอบตรงกับสถานการณ์เหล่านี้ การรวมหนี้ก็อาจเป็นทางออกที่ช่วยให้ชีวิตคล่องตัวขึ้นจริง ๆ
ส่วนใครที่กำลังหาแหล่งรวมหนี้บัตรเครดิตที่ไว้ใจได้ ขอแนะนำ Refinn ตัวช่วยเปรียบเทียบสินเชื่อและแนะนำธนาคารที่เหมาะที่สุด ทุกอย่างทำออนไลน์ได้หมด ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องวิ่งหาหลายที่ให้เสียเวลา แถมเห็นเงื่อนไขชัดเจนก่อนตัดสินใจ จัดระเบียบการเงินใหม่ให้คล่องตัวยิ่งขึ้น
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี