ผุดโปรเจ็กต์พิษณุโลก2020 ศูนย์กลางโลจิสติกส์อาเซียน

นายสุจินต์ จินายน อธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร เปิดเผยว่า ขณะนี้มหาวิทยาลัยนเรศวรได้ยื่นเรื่องโครงการพิษณุโลก 2020 ไปยังรัฐบาลแล้ว สำหรับโครงการสร้างศูนย์แสดงสินค้านานาชาติ และศูนย์การประชุมนานาชาติ ขนาดพื้นที่รวมทั้งหมด 80 ไร่ ซึ่งจะเป็นสถานที่ใช้จัดแสดงสินค้าจากภูมิภาค ทั้งประเทศเมียนมาร์ ลาว และจีนตอนใต้ ขณะนี้ทางมหาวิทยาลัยกำลังมองหาภาคส่วนธุรกิจในการเข้าร่วมลงทุนในโครงการดังกล่าว

 


นายสุจินต์ จินายน อธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร เปิดเผยว่า ขณะนี้มหาวิทยาลัยนเรศวรได้ยื่นเรื่องโครงการพิษณุโลก 2020 ไปยังรัฐบาลแล้ว สำหรับโครงการสร้างศูนย์แสดงสินค้านานาชาติ และศูนย์การประชุมนานาชาติ ขนาดพื้นที่รวมทั้งหมด 80 ไร่ ซึ่งจะเป็นสถานที่ใช้จัดแสดงสินค้าจากภูมิภาค ทั้งประเทศเมียนมาร์ ลาว และจีนตอนใต้ ขณะนี้ทางมหาวิทยาลัยกำลังมองหาภาคส่วนธุรกิจในการเข้าร่วมลงทุนในโครงการดังกล่าว

นายสุจินต์กล่าวว่าพิษณุโลกเป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ในจุดที่เป็นทางเชื่อมจากกรุงเทพฯไปสู่ภาคเหนือและยังสามารถเดินต่อไปยัง จ.เชียงราย ที่เชื่อมถึงเมืองคุนหมิง ประเทศจีน (เส้นทาง R3A) ได้ รวมทั้งยังสามารถเดินทางไปทางทิศตะวันออกผ่านมุกดาหาร เข้าแขวงสะหวันนะเขตในลาว และออกสู่เมืองดานัง ประเทศเวียดนามได้ ตามแนวระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก พิษณุโลกจึงเป็นจังหวัดที่ระเบียงเศรษฐกิจทั้ง 2 สายมาตัดกันที่แยกอินโดจีน และสามารถผลักดันให้พิษณุโลกเป็นศูนย์กลางการขนส่ง 

ทั้งนี้ พิษณุโลกมีถนนหลวงสาย 11 ตัดผ่าน ซึ่งสามารถเชื่อมเส้นทาง R3 ในแนวระเบียงเศรษฐกิจเหนือ-ใต้ (North-South Economic Corridor) ที่เชียงของ จ.เชียงราย-ห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว ในลาว-สิบสองปันนา-เชียงรุ่ง-คุนหมิง ในจีน และพิษณุโลกมีเส้นทาง R9 ผ่าน ซึ่งอยู่ในแนวระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก (East West Economic Corridor) ที่เชื่อมโยงจาก พม่า-ไทย-ลาว-เวียดนาม โดยตัดผ่านเมืองเมาะละแหม่ง-เมียวดีในพม่า-แม่สอด-พิษณุโลก-ขอนแก่น-กาฬสินธุ์-มุกดาหาร ในไทย-สะหวันนะเขต-แดนสะหวัน ในลาว-ลาวบาว-เว้-ดองฮา-ดานัง ในเวียดนาม

ด้านนายบุญทรัพย์ พานิชการ ผู้อำนวยการวิทยาลัยโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน มหาวิทยาลัยนเรศวร กล่าวว่า ทางจังหวัดได้มีการคลอดยุทธศาสตร์การพัฒนาสี่แยกอินโดจีน หรือพิษณุโลก 2020 โดยเป็นการตั้งขึ้นมาเพื่อคู่ขนานไปกับภาครัฐในการประกาศว่า ประเทศไทยจะต้องเข้าสู่การเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วในปีดังกล่าว 

นายบุญทรัพย์กล่าวอีกว่า "พิษณุโลกจัดได้ว่าเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพในด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะด้านโลจิสติกส์ และเหมาะสมสำหรับการตั้งศูนย์กระจายสินค้าและบริษัทของชาวต่างชาติ ในปัจจุบันเริ่มเห็นว่านักลงทุนสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในจังหวัดแล้ว โดยเฉพาะการเข้ามาลงทุนสร้างศูนย์โลจิสติกส์ของชาวจีน นอกจากนี้ ภายในปี 2563 จะเป็นปีที่รัฐบาลคาดว่างบประมาณพัฒนาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานมูลค่า 2 ล้านล้านจะเกิดผล อย่างโครงการรถไฟความเร็วสูง ซึ่งโครงการดังกล่าวจะส่งผลต่อพิษณุโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น ทางมหาวิทยาลัยนเรศวรจึงแผนการออกมารองรับเพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินงานวิจัย"

ด้านนางนุชจรินทร์ ศรีทองพนาบูลย์ ประธานกรรมการหอการค้าจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า พิษณุโลกในฐานะที่เป็นจังหวัดทางผ่าน และเป็นจุดตัดระหว่างแนวระเบียงเศรษฐกิจเหนือ-ใต้ และแนวระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก ส่งผลให้พิษณุโลกมีศักยภาพในด้านคลังสินค้าและการขนส่ง ทำให้มีจำนวนสินค้าเข้าออกจังหวัดนี้อยู่เป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ ก่อนที่จะถึงปี 2563 นางนุชจรินทร์ได้กล่าวเสริมว่า "การพัฒนาด้านสาธารณูปโภคของรัฐ สามารถส่งเสริมการเติบโตด้านคลังสินค้าของไทยได้ โดยสามารถใช้พิษณุโลกเชื่อมการส่งสินค้าต่อไปยังท่าเรือเชียงแสนที่จังหวัดเชียงราย และส่งต่อไปยังนครคุนหมิง ประเทศจีนได้ หรือกระทั่งสามารถเดินทางออกไปยังทะเลอันดามัน ผ่านประเทศเมียนมาร์ในทิศตะวันตก ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความน่าสนใจมาก เนื่องจากเป็นประเทศที่ยังคงมีทรัพยากรเป็นจำนวนมาก ตลอดจนเป็นประตูสู่ทะเลอันดามันให้กับภาคเหนืออีกด้วย"

NEWS & TRENDS