ผลสำรวจชี้คนนิยมหางานผ่านเว็บไซต์

จ็อบสตรีทเผยเว็บหางานยังคงเป็นตัวเลือกแรกในใจคนทำงาน และองค์กร ส่วนโซเชียลเน็ตเวิร์คเป็นช่องทางลำดับท้ายๆ

 


จ็อบสตรีทเผยเว็บหางานยังคงเป็นตัวเลือกแรกในใจคนทำงาน และองค์กร ส่วนโซเชียลเน็ตเวิร์คเป็นช่องทางลำดับท้ายๆ 

แม้จะตอบโจทย์วิถีชีวิตในหลายด้านของคนยุคปัจจุบัน ทั้งในมิติของการติดต่อสื่อสารแบบส่วนตัว การทำงานภายในองค์กร ไปจนถึงการก่อร่างสร้างธุรกิจ แต่โซเชียลเน็ตเวิร์คยังยังคงไม่ใช่กระแสหลักของกิจกรรมการหางาน และการสรรหาบุคลากรในองค์กรในขณะนี้ ซึ่ง ฐนาภรณ์ สถิตพันธุ์เวชา ผู้จัดการสาขาประเทศไทย บริษัท จ็อบสตรีท (ประเทศไทย) จำกัด เผยผลสำรวจของบริษัท เดอะนีลเส็น คอมปะนี (ประเทศไทย) จำกัด เกี่ยวกับพฤติกรรมการหางานของคนทำงานช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาว่าช่องทางที่คนทำงานใช้ในการหางานปัจจุบัน ยังคงเข้าเว็บไซต์หางานถึง 85 เปอร์เซ็นต์ รองลงมาคือ การบอกต่อ และเข้าเว็บไซต์บริษัทที่ต้องการสมัครงาน มีเพียง 16 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์ค

ทั้งนี้เป็นเพราะองค์กรส่วนใหญ่ต้องการช่วงชิงคนเก่งในตลาดแรงงาน จึงหันมาให้ความสำคัญกับการสร้างภาพลักษณ์ หรือแบรนด์ เพื่อให้เกิดความรู้สึกอยากร่วมงาน ในขณะเดียวกันผู้หางานเองก็ต้องการข้อมูลที่มากขึ้นก่อนตัดสินใจ ทั้งในแง่ของวัฒนธรรมองค์กร เงินเดือน สวัสดิการ และรายละเอียดเชิงลึกในหลายด้าน ซึ่งโซเชียลเน็ตเวิร์คเป็นช่องทางที่ไม่มีประสิทธิภาพมากพอในการตอบโจทย์ดังกล่าว

อีริค ซีโต ผู้จัดการทั่วไป จ็อบสตรีทดอทคอม ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก เพิ่มเติมว่าเว็บหางานเองต้องปรับตัวในหลายด้านเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของทั้งองค์กร และ Job Seeker รวมถึงการเปลี่ยนแปลงต่างๆ อันจะส่งผลต่อตลาดแรงงาน อาทิ การเปิดเสรีอาเซียน ที่ปัจจุบันเว็บหางานซึ่งมีสาขาเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกันยังมีไม่มาก ทำให้การหางานจำกัดอยู่เฉพาะในประเทศซึ่งเป็นการตีกรอบโอกาสของทั้งองค์กร และ Job Seeker อย่างน่าเสียดาย

สำหรับในบริบทที่ว่าโซเชียลเน็ตเวิร์คไม่ได้มีผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจเว็บหางาน แต่อาจมีผลทางอ้อมในแง่ที่คนรุ่นใหม่ใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างธุรกิจจนเป็นนายตัวเองและมีแนวโน้มเป็นลูกจ้างในตลาดแรงงานน้อยลงนั้น จุลเดช มัชฉิมานนท์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท จ็อบสตรีท (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าพฤติกรรมดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อธุรกิจแต่อย่างใด เนื่องจากคนรุ่นใหม่เหล่านี้ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์คในการหารายได้เสริมมากว่าทำเป็นงานประจำ อีกทั้งจากสถิติของจ็อบสตรีทในประเทศไทยตลอด 4 ปีที่ผ่านมาก็การันตีตัวเลข Job Seeker ซึ่งเติบโตไม่ต่ำกว่า 200 เปอร์เซ็นต์ทุกปี และผู้หางานในช่วงอายุ 20 – 25 ปีก็ไม่ได้มีสัดส่วนที่ลดลงแต่อย่างใด


 

NEWS & TRENDS