กรกฎาคมบริษัทเกิดใหม่ 6,403 รายเจ๊ง 1,400 ราย

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในเดือนกรกฎาคม 2556 มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจทั่วประเทศ จำนวน 6,403 ราย เพิ่มขึ้น 650 ราย คิดเป็นร้อยละ 11 เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2556ซึ่งมีจำนวน 5,753 ราย และเพิ่มขึ้น 782 ราย คิดเป็นร้อยละ 14 เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม 2555 ซึ่งมีจำนวน 5,621 ราย

 


นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในเดือนกรกฎาคม 2556  มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจทั่วประเทศ จำนวน 6,403 ราย เพิ่มขึ้น 650 ราย คิดเป็นร้อยละ 11 เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2556ซึ่งมีจำนวน 5,753 ราย และเพิ่มขึ้น 782 ราย คิดเป็นร้อยละ 14 เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม 2555 ซึ่งมีจำนวน 5,621 ราย

สำหรับนิติบุคคลที่จดทะเบียนเลิกทั่วประเทศในเดือนกรกฎาคม 2556 มีจำนวน 1,400 ราย ลดลง 0.1% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตามตัวเลขดังกล่าวยังไม่น่าห่วง  เพราะมีสัดส่วนน้อยกว่าตัว เลขจัดตั้งใหม่ถึง 6  เท่าตัว   
          
สำหรับประเภทธุรกิจที่จดทะเบียนจัดตั้งสูงสุด 5 อันดับแรก ไม่รวมธุรกิจค้าสลาก ได้แก่ บริการด้านวิทยุและโทรทัศน์ จำนวน 602 ราย ก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 576 ราย อสังหาริมทรัพย์ จำนวน 341 รายบริการโฆษณา จำนวน 190 ราย และขายส่งเครื่องจักร จำนวน 161 ราย ตามลำดับ มูลค่าทุนจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ในเดือนกรกฎาคม 2556 มีจำนวน 30,724 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 172 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.6 เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2556 ซึ่งมีจำนวน 30,552 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นจำนวน 4,599 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 18 เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม 2555 ซึ่งมีจำนวน 26,125 ล้านบาท
         
  ในรอบ 7 เดือนแรกปี 2556 ภาพรวมการจดทะเบียนธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยช่วงเวลาดังกล่าวมีผู้ยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ทั่วประเทศจำนวน 42,785 ราย เพิ่มขึ้น 7,108 รายคิดเป็นร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับรอบ 7 เดือนของปีที่แล้ว โดยมูลค่าทุนจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ในรอบ 7 เดือนแรกปี 2556 มีจำนวน 251,138 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44,519 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 22 เมื่อเทียบกับรอบ 7 เดือนของปีที่แล้ว
         
  ทั้งนี้ ปัจจุบัน ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2556 มีห้างหุ้นส่วนบริษัทจำกัดดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศจำนวน 555,952 ราย มีทุนจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 10.82 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น บริษัทจำกัด 377,632 ราย บริษัทมหาชน จำกัด 1,021 ราย และห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล 177,299 รายโดยการจดทะเบียนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เป็นผลจากนโยบายของรัฐบาลที่ออกมา เช่น มาตรการทางภาษีที่ลดภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับธุรกิจ SMEs การลดภาษีเครื่องจักร โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท และโครงการบริหารจัดการน้ำ 350,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะกระตุ้นให้เศรษฐกิจประเทศไทยในปี 2556 เติบโตต่อไปทำให้คาดว่าการจดทะเบียนจัดตั้งใหม่จะมีจำนวนสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดได้แก่ การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ราคาน้ำมัน และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ และการจดทะเบียนธุรกิจโดยรวม
          
รมช.พาณิชย์ กล่าวอีกว่า เท่าที่มีการติดตามตัวเลขจดทะเบียนนิติบุคคลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าในปีนี้ น่าจะเกินกว่า 70,000 ราย ซึ่งถือเป็นปีแรกในประวัติศาสตร์ที่มียอดการจดทะเบียนสูงสุดในรอบ 111 ปี นับจากมีการจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัท เพราะในแต่ละปี การจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท จะเฉลี่ยอยู่ที่ 50,000- 60,000 ราย โดยเหตุผลสำคัญ ภาคเอกชน มีความมั่นใจจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศโดยรวมเริ่มดีขึ้น ประกอบการโครงการลงทุนของรัฐบาลรวมทั้งมาตรการลดภาษีเงินได้นิติบุคคลและปรับโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
 

NEWS & TRENDS