รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ แนะผู้ส่งออกไทยควรเน้นการทำธุรกิจในมิติที่กว้างขึ้นด้วยการแสวงหาความร่วมมือ ทางการค้า พร้อมศึกษาและเข้าใจกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ที่เติบโตมาจากการพัฒนาเศรษฐกิจที่รวดเร็วของอาเซียน เพื่อคว้าโอกาสเติบโตในตลาดอาเซียนหลังเปิดเออีซี
รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ แนะผู้ส่งออกไทยควรเน้นการทำธุรกิจในมิติที่กว้างขึ้นด้วยการแสวงหาความร่วมมือ ทางการค้า พร้อมศึกษาและเข้าใจกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ที่เติบโตมาจากการพัฒนาเศรษฐกิจที่รวดเร็วของอาเซียน เพื่อคว้าโอกาสเติบโตในตลาดอาเซียนหลังเปิดเออีซี
นางอัมพวัน พิชาลัย รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า “การทำการค้ากับเออีซี หรืออาเซียน ถือเป็นประเด็นสำคัญทั้งของรัฐบาล และของกระทรวงพาณิชย์ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้กระตุ้นและสนับสนุนผู้ส่งออกไทยในการแสวงหาและใช้วัตถุดิบภายในภูมิภาค เพื่อมาเสริมสร้างศักยภาพให้กับสินค้าไทยมากขึ้น รวมถึงการขยายฐานผลิตและการลงทุน เพื่อลดต้นทุนด้านแรงงาน ซึ่งเรากำลังประสบปัญหาอยู่ในขณะนี้ ในส่วนของการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการไทยนั้น นอกจากจะเน้นให้คู่ค้าในภูมิภาคอาเซียนได้เห็นศักยภาพประเทศไทยในภาพรวมมากขึ้นแล้ว ยังได้มีการจัดกิจกรรมเสริมในรูปแบบของ B2B เพื่อก่อให้เกิดการเจรจาทางธุรกิจ เพื่อช่วยกระตุ้นยอดส่งออกอีกด้วย”
จากตัวเลขส่งออกโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ มูลค่าการค้าระหว่างประเทศของไทยกับประเทศสมาชิกอาเซียนในไตรมาสแรก มีมูลค่า 438,361 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 5.9 จากช่วงเดียวกันของปี 2555 ทั้งนี้ สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ น้ำมันสำเร็จรูป รถยนต์ เคมีภัณฑ์ เหล็ก เครื่องจักรและส่วนประกอบ เป็นต้น
รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเสริมว่า “เมื่อพิจารณาในตลาดอาเซียนแล้ว ประเทศพม่า ลาว กัมพูชา ถือเป็นประเทศที่กำลังน่าสนใจมาก และดึงดูดนักลงทุน ทางกรมฯ ก็ได้นำผู้ประกอบการไทยไปทำกิจกรรมเจรจาธุรกิจ ทั้งเพื่อค้นหาพันธมิตรการค้า หาตัวแทนกระจายสินค้าเข้าไปเป็นหุ้นส่วนหรือไปร่วมลงทุนผลิต ปัจจุบันกรมฯ มีการจัดตั้งศูนย์พัฒนาธุรกิจการค้าไทยในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งจะเป็นศูนย์ให้ข้อมูลเชิงลึก ซึ่งผู้ประกอบการของไทยที่สนใจด้านการค้า การลงทุน หรือต้องการการแสวงหาพันธมิตร สามารถขอรับคำปรึกษาเชิงลึกจากทูตพาณิชย์และผู้ทรงคุณวุฒิ รวมถึงสามารถเข้าไปใช้สิ่งอำนวยความสะดวกของทางสำนักงานได้”
ในส่วนของการขยายบริการในประเทศ เพื่อส่งเสริมการส่งออกนั้น กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้ผนึกกำลังกับอีก 17 หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ร่วมบริการให้คำปรึกษาเชิงลึกด้านการส่งออกและการค้าระหว่างประเทศ พร้อมออกเอกสารการอนุญาตและใบรับรองด้านการส่งออกต่าง ๆ ณ ศูนย์บริการส่งออกแบบเบ็ดเสร็จ ถนนรัชดา เพื่อสร้างความสะดวกสบาย ลดความซ้ำซ้อนและในการต้องติดต่อหลายหน่วยงาน มาไว้ในที่เดียว เพื่อช่วยลดต้นทุนทั้งด้านเวลา และค่าใช้จ่ายให้ผู้ประกอบการค้าระหว่างประเทศของไทย
ผู้สนใจสามารถเข้ารับบริการได้วันจันทร์-ศุกร์ระหว่างเวลา 08.30-16.30 น. หรือโทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-2512- 0123 ต่อ 800-2 อีเมล์ onestop@ditp.go.th เว็บไซต์ http://onestopservice.ditp.go.th