สสว. เดินหน้าช่วย SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำมันรั่ว เกาะเสม็ด จ.ระยอง เตรียมเสนอมาตรการความช่วยเหลือผ่านโครงการอัดฉีดเงินทุนหมุนเวียนช่วยเหลือ SMEs วงเงิน 400 ล้านบาท หวังลดต้นทุนด้านดอกเบี้ยและเสริมสภาพคล่องให้ SMEs ที่ได้รับผลกระทบ
สสว. เดินหน้าช่วย SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำมันรั่ว เกาะเสม็ด จ.ระยอง เตรียมเสนอมาตรการความช่วยเหลือผ่านโครงการอัดฉีดเงินทุนหมุนเวียนช่วยเหลือ SMEs วงเงิน 400 ล้านบาท หวังลดต้นทุนด้านดอกเบี้ยและเสริมสภาพคล่องให้ SMEs ที่ได้รับผลกระทบ
นายชาวันย์ สวัสดิ์-ชูโต รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า จากเหตุการน้ำมันรั่วลงทะเลในพื้นที่อ่าวพร้าว เกาะเสม็ด จ.ระยอง ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ SMEs ทั้งในธุรกิจท่องเที่ยว ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว ธุรกิจประมง ธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็ง และธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ในพื้นที่ดังกล่าว สสว. จะทำการประสานกับศูนย์ประสานงานให้ความช่วยเหลือเยียวยา ซึ่งทางจังหวัดได้จัดตั้งขึ้น เพื่อรวบรวมความเสียหายและความต้องการได้รับการเยียวยาของผู้ประกอบการ SMEs รวมทั้งผลสรุปการประชุมของกลุ่มชมรมร้านอาหาร สมาคมโรงแรมและสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว จังหวัดระยอง เพื่อรวมรวมประเด็นปัญหา และความต้องการความช่วยเหลือของผู้ประกอบการ SMEs เพื่อที่ สสว. จะได้นำเสนอแนวทางการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ผ่านโครงการต่างๆ ที่ สสว. ดำเนินการอยู่
โดยในเบื้องต้น จะพิจารณาใช้ประโยชน์จากโครงการสนับสนุนดอกเบี้ยแก่ SMEs เพื่อลดผลกระทบจากการปรับค่าจ้างแรงงานในอัตรา 300 บาทต่อวัน โดยจะเสนอขอขยายกรอบการดำเนินงานให้ครอบคลุมถึง ผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำมันรั่วลงทะเลในพื้นที่จังหวัดระยอง ครั้งนี้ด้วย เพื่อเป็นการช่วยลดต้นทุนและเสริมสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการ SMEs โดยจากเดิมที่จะมุ่งช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMES ที่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาท ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ เป็นหลัก โดยในส่วนนี้ สสว. จะเสนอขอความเห็นชอบจาก คณะกรรมการบริหารและคณะกรราการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สสว.
นอกจากนี้จะพิจารณาใช้ประโยชน์จากโครงการที่ สสว. ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการพิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ซึ่งมีนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน คือ โครงการอัดฉีดเงินทุนหมุนเวียนช่วยเหลือเอสเอ็มอี หรือ โครงการสนับสนุนดอกเบี้ยแก่ SMEs เพื่อลดผลกระทบจากการปรับค่าจ้างแรงงานในอัตรา 300 บาทต่อวัน เฟสที่ 2 วงเงิน 400 ล้านบาท
โดย สสว. จะนำเสนอกระทรวงอุตสาหกรรม คณะกรรมการบริหารสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เพื่อให้ความเห็นชอบก่อนที่จะนำไปใช้เป็นมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำมันรั่วในพื้นที่ เกาะเสม็ด จ.ระยอง ต่อไป นอกจากนี้ สสว. ก็ได้ประสานกับ บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด (Central Lab) ให้เข้าร่วมตรวจสอบเกี่ยวกับการปนเปื้อนของอาหารทะเล เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวและผู้บริโภคอีกทางหนึ่ง อย่างไรก็ดี ในพื้นที่มีผู้ประกอบการ SMEs จำนวนถึง 32,422 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการการท่องเที่ยว โรงแรมภัตตาคาร ค้าปลีก-ค้าส่ง บริการด้านอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น
