นิคม SMEs หงอยเอกชนเสนอตัวแค่ 18 โครงการ

หลังจากการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ได้ออกประกาศเชิญชวนให้เอกชนเสนอพื้นที่จัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม SMEs สำหรับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม ปรากฏว่ามีบริษัทเอกชนเสนอพื้นที่นิคม SMEs เข้ามาจำนวนเพียง 18 โครงการ แม้ กนอ.จะพยายามออกมาตรการเพื่อกระตุ้นและจูงใจให้เกิดการลงทุนพัฒนาพื้นที่นิคมใหม่ โดยจะสนับสนุนการก่อสร้างศูนย์บริการเบ็ดเสร็จครบวงจร (OSS) พื้นที่ประมาณ 500 ตารางเมตร วงเงินไม่เกิน 10 ล้านบาท ยกเว้นค่ากำกับบริการ 2 ปี โดยให้ชำระค่ากำกับบริการในปีที่ 5 และ กนอ.จะสนับสนุนการประชาสัมพันธ์โครงการ แต่ยังไม่สามารถจูงใจให้ผู้ประกอบการมายื่นข้อเสนอได้ตามที่ตั้งเป้าหมายไ

 


หลังจากการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ได้ออกประกาศเชิญชวนให้เอกชนเสนอพื้นที่จัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม SMEs สำหรับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม ปรากฏว่ามีบริษัทเอกชนเสนอพื้นที่นิคม SMEs เข้ามาจำนวนเพียง 18 โครงการ แม้ กนอ.จะพยายามออกมาตรการเพื่อกระตุ้นและจูงใจให้เกิดการลงทุนพัฒนาพื้นที่นิคมใหม่ โดยจะสนับสนุนการก่อสร้างศูนย์บริการเบ็ดเสร็จครบวงจร (OSS) พื้นที่ประมาณ 500 ตารางเมตร วงเงินไม่เกิน 10 ล้านบาท ยกเว้นค่ากำกับบริการ 2 ปี โดยให้ชำระค่ากำกับบริการในปีที่ 5 และ กนอ.จะสนับสนุนการประชาสัมพันธ์โครงการ แต่ยังไม่สามารถจูงใจให้ผู้ประกอบการมายื่นข้อเสนอได้ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ 

โดยนิคมอุตสาหกรรม SMEs จำนวน18 โครงการ รวมพื้นที่ทั้งหมด 4,716 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ขอนแก่น อุบลราชธานี ยโสธร หนองคาย นครพนม พิจิตร ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา พระนครศรีอยุธยา และกาญจนบุรี

       ทั้งนี้ ในจำนวน 4,716 ไร่นั้น สมาคมส่งเสริมผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย ได้ยื่นเสนอถึง 4 พื้นที่ ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น อุบลราชธานี ยโสธร และชลบุรี รวมพื้นที่ทั้งหมด 1,000 ไร่ 

บริษัท สวนอุตสาหกรรมพลังงาน จำกัด ยื่นข้อเสนอในพื้นที่นิคมเกษตรพลังงาน จังหวัดนครพนม แต่ยังไม่ระบุจำนวนพื้นที่ 

บริษัท อีสเทิร์น ซีบอร์ด อินดัสเตรียลเอสเตท (ระยอง) จำกัด ยื่นข้อเสนอในนิคมอีสเทิร์นซีบอร์ด คาดว่าจะใช้พื้นที่ 42 ไร่ เพื่อพัฒนาเป็นโรงงานสำเร็จรูปและคลังสินค้าให้เช่าพื้นที่กว่า 38,700 ตารางเมตร และบริษัท เอเชีย โมเดิร์นกรีน อินดัสเทรียล เอสเตท ยื่นเสนอถึง 7 พื้นที่ ในจังหวัดระยอง ฉะเชิงเทรา กาญจนบุรี พิจิตร พระนครศรีอยุธยา นครราชสีมา รวม 1,925 ไร่

อย่างไรก็ตาม  กนอ. จำเป็นต้องตรวจสอบเอกสารและลงพื้นที่จริง เพื่อดูความเหมาะสมของพื้นที่ประกอบการพิจารณา พร้อมทั้งตรวจสอบความถูกต้องของกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้วย


 

NEWS & TRENDS