ชิลี ประตูสู่ลาตินอเมริกาว่าที่คู่ค้าสำคัญของไทย

ก่อนที่ประเทศไทยและประเทศชิลีจะทำการลงนามความตกลงการค้าเสรี (FTA) อย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้ ซึ่งถือได้ว่าเป็นการทำ FTA ครั้งสำคัญ เพราะชิลีเองก็ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของประเทศไทย ที่เป็นทั้งฐานการผลิตและการค้าของอาเซียน รวมทั้งไทยเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของชิลีในบรรดาสมาชิกอาเซียน ซึ่งมีมูลค่าการค้าระหว่างกันประมาณ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และสำหรับประเทศไทยเองก็มองว่าประเทศชิลีเป็นประตูการค้าสำคัญของไทยในการขยายตลาดในภูมิภาคลาตินอเมริกา และคาดว่าจะสามารถส่งออกสินค้าต่างๆ ได้เพิ่มขึ้น เช่น ยานยนต์ ปลาแปรรูป (ปลากระป๋อง) พอลิเมอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้าง โดยเฉพาะปูนซีเมนต์ เม็ดพลาสติก ยางและผลิตภัณฑ์จากยาง อัญมณี และที่สำคัญ คือ การเปิดตลาดข้าว นอกจากนี้ ยังได้ประโยชน์ในการนำเข้าวัตถุดิบ เช่น ทองแดง สินแร่เหล็ก และเยื่อกระดาษอีกด้วย

 


        ก่อนที่ประเทศไทยและประเทศชิลีจะทำการลงนามความตกลงการค้าเสรี (FTA) อย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้ ซึ่งถือได้ว่าเป็นการทำ FTA ครั้งสำคัญ เพราะชิลีเองก็ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของประเทศไทย ที่เป็นทั้งฐานการผลิตและการค้าของอาเซียน รวมทั้งไทยเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของชิลีในบรรดาสมาชิกอาเซียน ซึ่งมีมูลค่าการค้าระหว่างกันประมาณ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และสำหรับประเทศไทยเองก็มองว่าประเทศชิลีเป็นประตูการค้าสำคัญของไทยในการขยายตลาดในภูมิภาคลาตินอเมริกา และคาดว่าจะสามารถส่งออกสินค้าต่างๆ ได้เพิ่มขึ้น เช่น ยานยนต์ ปลาแปรรูป (ปลากระป๋อง) พอลิเมอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้าง โดยเฉพาะปูนซีเมนต์ เม็ดพลาสติก ยางและผลิตภัณฑ์จากยาง อัญมณี และที่สำคัญ คือ การเปิดตลาดข้าว นอกจากนี้ ยังได้ประโยชน์ในการนำเข้าวัตถุดิบ เช่น ทองแดง สินแร่เหล็ก และเยื่อกระดาษอีกด้วย
         
           นายไฮเม่ ริเวร่า (Mr. Jaime Rivera) ผู้อำนวยการคณะกรรมมาธิการการค้าชิลีประจำภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ กรมส่งเสริมการส่งออกชิลี สถานฑูตชิลี หรือ โปรชิลี (ProChile) กล่าวว่า ชิลีตระหนักถึงบทบาทความสำคัญของการค้าระหว่างประเทศชิลี จึงจัดให้มีการทำข้อตกลงการค้ากับประเทศต่างๆถึง 60 ประเทศ เมื่ออนุมัติข้อตกลงซึ่งช่วยให้สามารถเจาะเข้าสู่ตลาดทั่วโลกเข้าถึงประชากรที่มีกำลังซื้อราวสี่พันสามร้อยล้านคนแล้ว ชิลีจึงกลายเป็นประตูระหว่างละตินอเมริกากับส่วนอื่นๆที่เหลือทั่วโลก 

การค้าถือเป็นเครื่องจักรขับเคลื่อนการเจริญเติบโตของประเทศชิลี มูลค่าการส่งออกรวมในปี 2555 ของชิลีมีมูลค่าเกิน 78,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ตลาดส่งออกหลักๆของชิลีคือประเทศจีน สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ สำหรับในเอเชีย ซึ่งนับเป็นตลาดใหญ่ที่สุดของชิลี ในช่วง 2551 – 2555 มีปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้น 70% สู่ระดับ 39,462 ล้านเหรียญสหรัฐฯในปี 2555 และสำหรับประเทศไทยแล้ว ชิลีถือเป็นคู่ค้าอันดับที่ 3 ของไทยในภูมิภาคอเมริกาใต้ รองจากบราซิล และอาร์เจนตินา โดยในช่วงปี 2551-2555 การค้าระหว่างไทยกับชิลีมีมูลค่าเฉลี่ยราวปีละ 705.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.17 ของมูลค่าการค้ารวมของไทย ถึงแม้จะเป็นตัวเลขที่ไม่มากนัก แต่ก็มีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี

        ตามรายงานของธนาคารกลางชิลี การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในชิลีแตะ 28,152 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2555 ตัวเลขนี้แสดงการเติบโต 62.7% เมื่อเทียบกับสถิติเดิมที่ 17,299 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2554

    สำหรับชิลีแล้ว นี่ถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการลงทุนจากต่างชาติ ตัวเลขนี้ยังเป็นสัญญาณที่ชัดเจนต่อความเชื่อมั่นในเสถียรภาพทางสถาบันและเศรษฐกิจของชิลี และนี่คือสัญญาณสำคัญที่เราจะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องและอำนวยความสะดวกในการเข้ามาของนักลงทุนใหม่ๆเพื่อรักษาระดับการลงทุนในประเทศไว้ ชิลีพร้อมเปิดรับนักลงทุนไทยทุกภาคส่วนธุรกิจ 

  สำหรับธุรกิจและบริการของไทยที่น่าจะมีโอกาสเติบโตได้ดีในชิลี คือ ธุรกิจฟาร์มดอกกล้วยไม้ การลงทุนในธุรกิจโรงแรม การลงทุนในฟาร์มเลี้ยงกุ้งและlobster ธุรกิจสปา ร้านอาหารไทย นวดแผนไทย การค้าส่ง ค้าปลีก วิศวกรรม สถาปัตยกรรม ก่อสร้าง ท่องเที่ยว กิจการโรงแรม และการร่วมทุนกับนักธุรกิจท้องถิ่นในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น 

นอกจากนี้ การจัดทำ FTA ยังช่วยดึงดูดความสนใจของนักธุรกิจจากชิลีเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้นอีกด้วย เช่น บริษัทในเครือ Luksic Group ในเมือง Antofagasta ซึ่งเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่ทำธุรกิจเหมืองแร่ และมีการลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งในปัจจุบันได้มีบริษัทจากชิลีเข้ามาลงทุนในไทยแล้ว คือ Soquimich ซึ่งเป็นบริษัทผลิตปุ๋ย

          ด้วยความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการสร้าง FTA กับประเทศต่างๆ ทั่วโลก สินค้าของชิลีจึงเข้าไปอยู่ในตลาดผู้บริโภคในโลกถึง 2 ใน 3 และถูกจัดให้เป็นประเทศที่เจริญเติบโตเร็วและมีอิทธิพลด้านเศรษฐกิจ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สำเร็จได้จากประชากร รวมถึงนโยบายด้านโครงสร้างพื้นฐานและสังคมของชิลีนั่นเอง
 

NEWS & TRENDS