นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.) เปิดเผยถึงโครงการส่งเสริมและเพิ่มศักยภาพของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมภายใต้ชื่อ "SMEs Pro-active" ว่า ได้ร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย ได้พิจารณาอนุมัติช่วยเหลือและสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าร่วมโครงการแล้ว 314 บริษัท คิดเป็นมูลค่าเงินประมาณ 50 ล้านบาท และอยู่ระหว่างการพิจารณาอีก 243 บริษัท คิดเป็นเงินประมาณ 27 ล้านบาท
นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.) เปิดเผยถึงโครงการส่งเสริมและเพิ่มศักยภาพของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมภายใต้ชื่อ "SMEs Pro-active" ว่า ได้ร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย ได้พิจารณาอนุมัติช่วยเหลือและสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าร่วมโครงการแล้ว 314 บริษัท คิดเป็นมูลค่าเงินประมาณ 50 ล้านบาท และอยู่ระหว่างการพิจารณาอีก 243 บริษัท คิดเป็นเงินประมาณ 27 ล้านบาท
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการขยายการส่งออกไปยังตลาดใหม่ ซึ่งมีระยะเวลาดำเนินโครงการ 3 ปี (ปี 2556 - 2558) ภายใต้ 2 กิจกรรม คือ การเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ และการจัดคณะผู้แทนไปเจรจาธุรกิจในต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นการช่วยเหลือให้แก่เอสเอ็มอีที่จะเข้าร่วมกิจกรรมของกรม ในรูปแบบต่างๆ เช่น เข้าร่วมงานแสดงสินค้าไทยทั้งในและนอกประเทศ ในช่วงเดือนกันยาน 2556 จนถึงต้นปี 2557 โดยจะเปิดรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าร่วมโครงการนี้ได้ในทุกกลุ่มสินค้าและบริการ โดยจะส่งเสริมทุกตลาด แต่มีนโยบายเน้นเข้าไปสร้างเสริมกิจกรรมในตลาดใหม่ เช่น เมียนมาร์, เวียดนาม, มาเลเซีย, สิงคโปร์, จีน, ฮ่องกง, เกาหลีใต้, อินเดีย, ชิลี และเปรู เป็นต้น
ทั้งนี้ คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ ต้องผ่านการรับรองคุณสมบัติในฐานะเป็นสมาชิกขององค์กรใดองค์กรหนึ่ง คือ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย เพื่อให้การรับรองคุณสมบัติ สำหรับประกอบการนำเสนอให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ดำเนินการพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป
